Switchรีวิวเกม

[รีวิว] Dragon Quest Monsters: The Dark Prince

เมื่อองค์ชายปีศาจกลายมาเป็นคนเลี้ยงมอนสเตอร์

Dragon Quest Monsters: The Dark Prince เป็นเกมแนวเลี้ยงมอนสเตอร์ภาคใหม่ล่าสุดจากซีรีส์ Dragon Quest Monsters ที่กลับมาอีกครั้งหลังจากห่างหายไปนานพอสมควร โดยเกมนี้จะเปิดโอกาสให้เราได้รับบทเป็น Psaro ออกเดินทางดูแลเหล่ามอนสเตอร์และหาพวกมันมาเป็นพวกที่มีมากกว่า 500 ชนิด

และแน่นอนว่าผู้เขียนก็ได้มีโอกาสเข้าไปจับมอนสเตอร์ภายในเกมนี้มาแล้ว และผู้เขียนก็ไม่พลาดที่จะมานำเสนอรีวิวเกมที่น่าสนใจให้ทุกคนได้ติดตามกันครับ

อนึ่ง… การรีวิวนี้เกิดขึ้นบน Nintendo Switch และถ้าหากผู้อ่านกลับมาอ่านในภายภาคหน้า ข้อสังเกตบางข้ออาจมีการแก้ไขเรียบร้อยหลังจากที่รีวิวเผยแพร่ไปแล้วก็เป็นได้ครับ

กราฟิกที่ดูดี แม้ว่าจะเล่นแบบพกพาก็ตาม

image 2807

สิ่งแรกที่ต้องพูดถึงในการรีวิวเกม Dragon Quest Monsters: The Dark Prince ก็คือกราฟิกภายในเกมนี้ที่ทำออกมาได้ดีน่าประทับใจพอสมควร โดยผู้เขียนแอบคิดว่ากราฟิกดูสวยขึ้นจากเกมเวอร์ชั่นเดโม่เล็กน้อย การเล่นเกมนี้ในแบบต่อจอใหญ่ก็เรียกได้ว่าภาพสวยงามสดใสเต็ม ๆ ตา ในขณะที่การเล่นเกมในแบบพกพาก็สามารถทำได้ลื่นไหล ภาพสวยไม่แพ้เล่นบนจอใหญ่เลยทีเดียว อย่างไรก็ตามในบางมุมผู้เขียนแอบรู้สึกว่ากราฟิกน่าจะทำได้ดีกว่านี้อีกหน่อยแต่โดยรวมก็ถือว่าสวยงามในระดับที่น่าพอใจแล้วล่ะครับ

image 2806

นอกจากนี้ความลื่นไหลในการเล่นเกมนี้ก็เรียกได้ว่าอยู่ในเกณฑ์ดีเลยทีเดียว โดยไม่ว่าจะเล่นแบบต่อจอใหญ่ หรือเล่นแบบพกพาเล่นได้ลื่นไหลในระดับที่น่าประทับใจ แม้ว่าบางครั้งในฉากคัทซีนเราอาจจะพบอาการเฟรมเรตตกบ้าง รวมไปถึงเราจะสังเกตได้ชัดเจนว่าเฟรมเรตของมอนสเตอร์ที่อยู่ไกลเราออกไปนิดจะอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำจนทำให้เราเห็นเป็นภาพสะดุด ซึ่งแอบน่าเสียดาย และเราก็ได้แต่หวังว่าทางผู้พัฒนาจะรีบมีแพทช์แก้ออกมาครับ

ระบบ Talent Points ที่ทำให้มอนสเตอร์แตกต่างกันไป

image 2805

อีกหนึ่งระบบที่น่าสนใจก็คือระบบ Talent Points เป็นสิ่งที่ทำให้มอนสเตอร์ของแต่ละคนแตกต่างกันออกไป เพราะผู้เล่นสามารถอัปเกรดมอนสเตอร์ให้ไปในรูปแบบที่ต้องการได้ โดยแม้ว่าตอนแรกมอนสเตอร์ระดับต้นจะไม่ได้มีความแตกต่างกันในแง่ของสกิลเท่าไหร่นัก เพราะจะมีเส้นทางให้อัปที่จำกัด แต่เมื่อมอนสเตอร์มีเลเวลที่สูงขึ้น ก็จะมีเส้นทางการอัปเกรดที่มากขึ้น รวมไปถึงการรวมร่างก็จะเปิดโอกาสให้เราได้เลือกสกิลในการสืบทอดไปยังร่างต่อไปด้วย ทำให้มอนสเตอร์แม้ว่าจะเป็นตัวเดียวกัน แต่ก็มีความแตกต่างกันอย่างแน่นอน

เกมเพลย์สะสมมอนสเตอร์ และการรวมร่างที่ทำเอาติดงอมแงม

image 2804

หัวใจหลักของเกมนี้ก็คือ การที่ผู้เล่นได้ออกสำรวจโลกกว้าง พบเจอกับมอนสเตอร์ต่าง ๆ มากมายตามพื้นที่ต่าง ๆ จากนั้นก็จับพวกมันมาเป็นพวก จัดทีมเข้าต่อสู้กับคนอื่น ๆ ทั้งในเนื้อเรื่องและออนไลน์ทั่วโลก ซึ่งจำนวนมอนสเตอร์ที่ทางผู้พัฒนาเกมเคยบอกไว้ว่ามีมอนสเตอร์มากกว่า 500 ชนิด ผู้เขียนก็ค่อนข้างมั่นใจว่า “เป็นความจริง” เพราะยิ่งสำรวจมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งเจอมอนสเตอร์ที่แปลกตามากขึ้นเท่านั้น แถมมอนสเตอร์ภายในเกมนี้ไม่ใช่มอนสเตอร์ประเภทย้อมสีที่แค่เปลี่ยนสีก็เป็นอีกตัว แต่เป็นมอนสเตอร์ที่มีดีไซน์แตกต่างกันออกไปเลย ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าประทับใจสุด ๆ

image 2803

ในการจับมอนสเตอร์นั้นผู้เล่นจะต้องเข้าต่อสู้กับพวกมัน โดยเราจะเลือก Scout มันเลยก็ได้ หรือเทคนิคพื้นฐานก็คือให้เราโจมตีพวกมันสักพักก็จะทำให้เรามีโอกาส Scout มันได้มากขึ้นด้วยเช่นกัน แต่ก็มีข้อควรระวังเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการโจมตีแบบออโต้ (คำสั่ง Fight) ก็อาจจะทำให้มอนสเตอร์ของเราเผลอกำจัดมันโดยไม่ได้ตั้งใจก็ได้ ฉะนั้นให้เราเลือกโจมตีแบบ Order ที่เราใส่คำสั่งเองได้จะดีกว่า เพราะถึงแม้ว่าเราจะเลือกตั้งค่า Tactics ในการต่อสู้ได้ แต่หลัก ๆ มอนสเตอร์ของเราก็เน้นโจมตีศัตรูจนตายอยู่ดี นอกจากนี้บางครั้งเมื่อเรากำจัดศัตรูได้มันจะมาขอเข้าเป็นพวกเราก็ได้เช่นกัน!

image 2802

อ้อ! สิ่งที่ต้องระวังมี 2 ข้อครับ ได้แก่เมื่อเราเข้าต่อสู้ แล้วมีมอนสเตอร์มากกว่า 1 ตัวในนั้น หากเราเลือกที่จะจับมอนสเตอร์ตัวใดตัวหนึ่งไว้ ก็จะทำให้การต่อสู้สิ้นสุดทันที มอนสเตอร์อีกตัวจะหายไปเลย รวมไปถึงเมื่อเราเข้าต่อสู้กับมอนสเตอร์ตัวใดตัวหนึ่งแล้ว เมื่อออกมาจากการต่อสู้จะทำให้มอนสเตอร์ที่อยู่ใกล้ ๆ หายไปทันที! ซึ่งผู้เล่นต้องระวังจุดนี้ให้ดีครับ

image 2801

แต่ที่น่าสนใจและทำให้ผู้เขียนเสพติดมาก ๆ ก็คือการรวมร่างเพื่อพัฒนาระดับของมอนสเตอร์ให้สูงขึ้น และแข็งแกร่งขึ้นเพื่อใช้ในการต่อสู้กับคนอื่น ๆ ต่อไป เพราะเกมนี้จะไม่เหมือนกับเกมสะสมตัวละครมือถือที่เราสามารถอัปเกรดระดับดาวของมอนสเตอร์ได้ด้วยการนำมอนสเตอร์ประเภทเดียวกันมาอัปเกรด แต่เราจะสามารถทำได้ด้วยการนำมอนสเตอร์มารวมร่างให้กลายเป็นมอนสเตอร์ตัวใหม่ (แต่เลเวลกลับไปเป็นเลเวล 1) โดยเราสามารถเลือกได้ตั้งแต่มอนสเตอร์ที่ต้องการ (หากเป็นกรอบสีทองคือมอนสเตอร์ที่มีระดับ Rank ที่สูงขึ้น) รวมไปถึงเลือกสกิลที่ต้องการจากมอนสเตอร์ตัวเดิมมาให้มอนสเตอร์ที่รวมร่างใหม่ได้บางอัน ซึ่งจุดนี้กลายเป็นจุดที่สนุกมาก ๆ เพราะเหมือนเราจะได้ทดสอบการรวมร่างและการเลือกสกิลติดตัวได้เรื่อย ๆ ทำให้ผู้เขียนเชื่อว่าผู้เล่นหลายคนจะอยู่ในรูปแบบ “เนื้อเรื่องไม่เดิน วัน ๆ เอาแต่จับมอน และรวมร่างมอน” แน่นอน

ระบบฤดูกาลที่ส่งผลต่อเกมเพลย์

image 2800

องค์ประกอบที่ต้องพูดถึงอย่างมาก และเป็นสิ่งที่น่าสนใจตั้งแต่มีการประกาศออกมาตั้งแต่แรกของเกม Dragon Quest Monsters: The Dark Prince ก็คือระบบฤดูกาลที่ภายในเกมนี้จะมีการใส่ระบบนี้เข้ามาด้วย แถมฤดูกาลภายในเกมนี้ไม่ได้ใส่เข้ามาแค่สวย ๆ เท่านั้น แต่มีผลอย่างมากในการเล่นเกมนี้ ซึ่งทำให้ผู้เขียนประทับใจองค์ประกอบของเกมนี้มาก ๆ

image 2799

อย่างแรกที่ต้องพูดถึงเลยก็คือพื้นที่ที่จะเปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาลทำใหการสำรวจโลกของผู้เล่นนั้นน่าสนใจมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ที่มีการเปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาล ทำให้ส่งผลต่อการเข้าถึงพื้นที่บางอย่างได้ เช่น ในฤดูหนาวจะทำให้แม่น้ำแข็งตัว ทำให้เราสามารถเดินบนน้ำแข็งได้ นั่นแปลว่าเราอาจจะได้มีโอกาสสำรวจถ้ำที่อยู่อีกฝั่งที่ปกติเข้าไม่ถึงก็ได้ หรือแม้กระทั่งน้ำพุที่จะเกิดขึ้นในช่วงฤดูร้อนเท่านั้นจะทำให้เราเข้าถึงพื้นที่บางที่ที่เราเข้าไม่ได้ในฤดูอื่นก็เป็นได้ รวมไปถึงเถาวัลย์ที่งอกออกมาเฉพาะฤดูใบไม้ผลิ เป็นต้น

image 2798

นอกจากเรื่องพื้นที่แล้ว ฤดูกาลยังส่งผลโดยตรงต่อมอนสเตอร์ที่ปรากฏตัวในแผนที่ด้วย ไม่ว่าจะเป็นการปรากฎตัวของ Stump Chump ในฤดูไม้ผลิ, Leafy ที่จะปรากฏตัวในฤดูใบไม้ร่วง, Teeny ที่จะปรากฏตัวเฉพาะฤดูหนาว เป็นต้น ทำให้การสำรวจพื้นที่เดิม ๆ ในช่วงฤดูกาลที่แตกต่างกันนั้นเป็นสิ่งที่พลาดไม่ได้ เพราะเราจะได้พบเจอกับมอนสเตอร์ที่แปลกตาไปจากเดิมอย่างแน่นอน

image 2797

แน่นอนว่าระบบฤดูกาลนี้ส่งผลให้คุณค่าการเล่นซ้ำของเกม Dragon Quest Monsters: The Dark Prince สูงขึ้นอย่างมาก และผู้เขียนเชื่อว่าในอนาคตทางผู้พัฒนาเกมจะสามารถอัปเดตมอนสเตอร์ใหม่ หรืออีเวนต์ที่อ้างอิงกับฤดูกาลภายในเกมนี้มาให้เราได้ใช้งานกันแน่นอน

สรุปรีวิว

image 2796

Dragon Quest Monsters: The Dark Prince ถือได้ว่าเป็นเกมที่ทำออกมาได้ดีสมกับการรอคอยเป็นอย่างมาก ด้วยระบบของเกมที่เข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน แต่กลับสร้างคุณค่าในการเล่นซ้ำได้สูงมาก ๆ ทำให้ผู้เล่นที่ชื่นชอบเกมแฟรนไชส์ Dragon Quest เล่นได้สนุก ในขณะที่ผู้ที่ไม่เคยเล่นเกมแฟรนไชส์นี้มาก่อน แต่ชอบเกมแนวสะสมมอนสเตอร์ก็จะต้องชอบอย่างแน่นอน

ส่วนตัวผู้เขียนขออนุญาตให้คะแนนเกมนี้ที่ 9 เต็ม 10 ครับ ผู้เขียนขอย้ำว่า รีวิวนี้ รวมถึงคะแนนนี้เป็นมุมมองของผู้เขียนเท่านั้น แฟนเกมคนอื่น ๆ อาจจะมีมุมมองที่แตกต่างกันก็ได้ครับ

จุดเด่น

– มอนสเตอร์จำนวนมากให้เราได้จับกัน
– ระบบฤดูกาลที่โดดเด่น
– เล่นจอใหญ่หรือพกพาก็สวยงาม
– ระบบฟิวชั่นมอนสเตอร์ที่ทำเอาเสพติดง่าย ๆ
– มอนสเตอร์ที่อยู่ในทีม แต่ไม่ได้เข้าสู้ก็ได้ EXP ด้วย
– เร่งความเร็วตอนต่อสู้ และตั้งต่อสู้อัตโนมัติได้ด้วย
-มอนสเตอร์ส่วนใหญ่ไม่ใช่มอนสเตอร์ประเภทย้อมสี แต่เป็นดีไซน์ที่แตกต่างออกไป

ข้อสังเกต

– ระบบออโต้ที่ทำให้เราเผลอฆ่ามอนสเตอร์ตายบ่อย ๆ
– การตั้งค่า Tactics ยังไม่ค่อยเห็นผลเท่าไหร่นัก
– เฟรมเรตยังถือว่ามีข้อน่าสังเกตอยู่ไม่น้อย อยากให้มีแพทช์แก้ไขออกมาให้ไว

สุดท้ายนี้ขอขอบคุณ Bandai Namco Entertainment Asia ที่เอื้อเฟื้อและสนับสนุนเกมมาให้เราได้รีวิวในครั้งนี้ด้วยครับ ส่วนครั้งหน้าจะเป็นเกมอะไรนั้น โปรดติดตามกันได้เลย…

สำหรับใครที่สนใจก็สามารถสั่งซื้อเกมได้ที่ BNEAs’ e-store :  [คลิก] และตัวแทนจำหน่ายในไทย

ภาพสกรีนช็อตเพิ่มเติม

image 2786
image 2784
image 2783
image 2782
image 2781
image 2780
image 2779
image 2778
image 2777
image 2776
image 2775
image 2773
image 2772
image 2774
image 2773
image 2771
image 2770
image 2769

Youryu

นักผจญเกมที่ไม่จำกัดประเภทและแพล็ตฟอร์ม
Back to top button