[รีวิว] Mac mini M4 Pro นิยามใหม่ของ Mini PC

Mac mini M4 Pro เป็นการพลิกโฉมครั้งสำคัญของ Apple ที่ไม่ใช่แค่อัปเกรดเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่เป็นการออกแบบใหม่หมดจดครั้งใหญ่ครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2010

โดยเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อ 29 ตุลาคม 2024 และเริ่มวางจำหน่ายจริงในวันที่ 8 พฤศจิกายน 2024 ใครที่ติดตามข่าวเทคโนโลยีจะรู้ว่ามันสร้างความฮือฮาได้ไม่น้อย เพราะ Apple บอกเองว่า “นี่คือพลังของ Mac Studio ในขนาดที่เล็กลง” ฟังดูแล้วน่าสนใจมาก

นอกจากประสิทธิภาพที่แรงจนหลายคนต้องเหลียวหลัง ยังมีความพิเศษด้านสิ่งแวดล้อม เพราะ Mac mini M4 Pro เป็นหนึ่งใน Mac รุ่นแรก ๆ ที่ Apple ประกาศว่า เป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutral) แล้ว ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญของแบรนด์ในการใส่ใจโลกไปพร้อมกับการพัฒนาเทคโนโลยี

ว่าแต่จะมีอะไรที่น่าสนใจอีกบ้างเราไปหาคำตอบกันได้เลย

Design

Mac mini M4 Pro เปิดเกมใหม่ให้กับโลกของคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก โดยปรับโฉมใหม่หมดจด ทำให้มันเล็กลงกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด จากเดิมที่เคยเป็นทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาด 7.75 นิ้ว ตอนนี้ลดเหลือเพียง 5 นิ้วเท่านั้น ถึงความสูงจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 2 นิ้ว จาก 1.41 นิ้ว แต่น้ำหนักยังคงเบา

โครงสร้างหลักทำมาจาก อะลูมิเนียมเกรดพรีเมียม ให้ความรู้สึกแข็งแรงทนทาน และยัง ใส่ PSU ในตัว มาให้เลย ไม่ต้องห้อยสายไฟไว้ใต้โต๊ะเหมือนแต่ก่อนสะอาดตาและคล่องตัวกว่าเดิม

หนึ่งในการเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดคือ การย้ายพอร์ต USB-C บางส่วนมาไว้ด้านหน้า พร้อมกับ ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. ซึ่งแตกต่างจากแนวคิดการออกแบบของ Mac mini รุ่นเก่าที่ทำให้ทุกพอร์ตอยู่ด้านหลังหมด

อันนี้เหมาะมากสำหรับใครที่ชอบเสียบหูฟัง หรือย้ายแฟลชไดรฟ์บ่อย ๆ เพราะไม่ต้องเอื้อมไปด้านหลังตลอดเวลา

แต่… มีข้อควรระวังเล็กน้อย ปุ่ม Power ที่เคยอยู่ด้านหลัง ตอนนี้ถูกย้ายไปอยู่ ด้านล่างของตัวเครื่อง ซึ่งอาจไม่สะดวกสำหรับบางคน โดยเฉพาะผู้ใช้งานที่ชอบกดปิดเครื่องบ่อย ๆ

Mac mini M4 Pro ไม่ได้แค่เล็กและสวย แต่ยัง เตรียมพร้อมสำหรับอนาคต ด้วยพอร์ต Thunderbolt 5 จำนวน 3 พอร์ตที่ด้านหลัง ซึ่งให้ความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลสูงถึง 120Gb/s แรงกว่า Thunderbolt 4 ถึง 2 เท่า

การใส่เทคโนโลยีนี้มาให้ตั้งแต่ตอนนี้ ก็แสดงถึงวิสัยทัศน์ของ Apple ที่มองไกลถึงการทำงานระดับโปรในอนาคต เช่น การตัดต่อวิดีโอ 8K การประมวลผล AI หรือใช้งานกับจอภาพหลายตัวพร้อมกัน

นอกจากนี้ยังมีพอร์ตให้ครบครัน HDMI 2.1, Gigabit Ethernet (รองรับอัปเกรดเป็น 10Gb ), Wi-Fi 6E และ Bluetooth 5.3 รวมถึง USB-C ด้านหน้า ที่ความเร็ว 10Gb/s

Performance

ถ้าเคยคิดว่าคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กคงไม่มีทางเทียบกับเครื่องระดับเวิร์กสเตชันได้ มาลองเปลี่ยนความเชื่อเดิมกับ Mac mini M4 Pro ตัวใหม่ที่ Apple สัญญาว่าจะนำพลังของ Mac Studio มายัดลงในกล่องขนาดฝ่ามือ และจากผลทดสอบที่ผ่านมา… พวกเขาทำได้จริง

Mac mini M4 Pro ขับเคลื่อนด้วยชิป M4 Pro ซึ่งสร้างบนกระบวนการผลิต TSMC N3E (3nm) ที่ทันสมัย โดยให้ประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนเมื่อเทียบกับ M3 และ M2 Pro ที่ผ่านมา:

• CPU : สูงสุด 14 คอร์ (10 คอร์ประสิทธิภาพ + 4 คอร์ประหยัดพลังงาน)
• GPU : สูงสุด 20 คอร์
• Neural Engine : 16 คอร์ พร้อมแบนด์วิดธ์หน่วยความจำสูงถึง 273GB/s
• รองรับ Ray Tracing แบบฮาร์ดแวร์ ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของ Mac mini

แบนด์วิดธ์หน่วยความจำระดับนี้ใหญ่มาก ๆ ใหญ่กว่า AI PC ทั่วไปถึงสองเท่าเลยทีเดียว ทำให้มันเหมาะมากกับงานที่เกี่ยวข้องกับ AI, Machine Learning และการประมวลผลข้อมูลจำนวนมหาศาล

Apple ประกาศว่า “M4 Pro คือ CPU ที่เร็วที่สุดในโลก” และจากการทดสอบจริงก็เห็นได้ว่ามันไม่ได้เกินจริงแต่อย่างใด

ใน Cinebench R23 ชิป M4 Pro (12 คอร์) สามารถเอาชนะเครื่องที่ใช้ GPU RTX 3070 Ti ได้ การปรับปรุงประสิทธิภาพแบบ Multi-Thread เพิ่มขึ้น 30–50% เมื่อเทียบกับ M2 Pro

แม้จะไม่ใช่เครื่องเล่นเกมโดยตรง แต่ M4 Pro ก็แสดงศักยภาพของ GPU ที่ไม่แพ้ใคร GPU 20 คอร์ ให้ประสิทธิภาพสูงกว่า M4 พื้นฐานถึง 2 เท่า แรงกว่า iGPU ของ AMD และ Intel

SSD ในตัว Mac mini M4 Pro ถือว่าแรงพอสมควรด้วยอัตราการอ่านได้สูงสุด 7.6 GB/s และเขียนได้ประมาณ 6.3 GB/s ทำให้การโหลดไฟล์ใหญ่ การทำงานหลายอย่างพร้อมกัน หรือแม้แต่ตัดต่อวิดีโอ 8K ก็ทำได้อย่างลื่นไหล

เวลาดูสเปกของ Mac mini M4 Pro หลายคนอาจสงสัยว่า ทำไมมันใช้ RAM แค่ 32GB แต่กลับทำงานได้ลื่นกว่าเครื่อง PC ที่ใช้ 64GB? คำตอบคือ Unified Memory ของ Apple Silicon

แทนที่จะแยกหน่วยความจำระหว่าง CPU กับ GPU เช่นในโลก Windows โดยที่ข้อมูลต้องถูกย้ายไปมาระหว่างสองส่วนนี้ตลอดเวลา Apple เลือกออกแบบให้ CPU, GPU และ Neural Engine ใช้หน่วยความจำร่วมกัน การเข้าถึงข้อมูลที่ รวดเร็วมาก ลดการรอคอย และทำให้การทำงานหลายอย่างพร้อมกันลื่นไหลกว่าเดิมเยอะ

หากใครเคยคิดว่า Mac ไม่เหมาะกับการเล่นเกม มาถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนความเชื่อเดิมเสียใหม่ เพราะ Mac mini M4 Pro แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า Apple ไม่ได้มองข้ามตลาดเกมอีกต่อไป

ด้วยประสิทธิภาพ GPU ระดับสูงและการรองรับเทคโนโลยีกราฟิกอย่าง Ray Tracing เป็นครั้งแรกบน Mac mini ตัวนี้จึงพร้อมจะมอบประสบการณ์เล่นเกมที่ดีกว่าที่เคยมีมาบน macOS อย่างชัดเจน

เกม	FPS เฉลี่ย
Resident Evil 2	120
Diablo IV	60
Minecraft	113
Project Zomboid	107
Prison Architect	60
RimWorld	60
War Thunder	62.9
Shadow of the Tomb Raider	42
Bioshock Remastered	57
No Man’s Sky	66

Apple กำลังลงทุนหนักในการนำเกมมาสู่ macOS โดยเฉพาะผ่าน Apple Arcade ที่มีเกมคุณภาพสูงจำนวนมากให้เล่นแบบเหมาจ่ายรายเดือน

นอกจากนี้ เวอร์ชัน Steam บน macOS ก็เริ่มรองรับ Mac ที่ใช้ Apple Silicon ได้ดีขึ้นเรื่อย ๆ และเกม indie ก็ทยอยพอร์ตมาเยอะมาก บางเกมก็แรงกว่า

แต่… ยังมีข้อจำกัดอยู่ไม่ว่าจะเป็น เกม AAA ส่วนใหญ่ยังไม่มีเวอร์ชัน macOS การพอร์ตเกมจาก Windows ยังไม่ใช่เรื่องที่นักพัฒนาหลายรายมองว่าคุ้ม หากเป็นสายเกมหนัก ๆ ที่รอเกมระดับ Triple-A ทุกเดือน ตอนนี้ยังคงต้องพึ่ง PC อยู่

แม้จะมีประสิทธิภาพระดับนี้ แต่ Mac mini M4 Pro ยังควบคุมอุณหภูมิได้ค่อนข้างดีในระดับใช้งานปกติ แต่ หากใช้งานหนักนาน ๆ เช่น เรนเดอร์วิดีโอหลายชั่วโมงติดต่อกัน ตัวเครื่องอาจร้อนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และพัดลมจะเริ่มมีเสียงดังขึ้น

ต่างจาก Mac mini M4 รุ่นพื้นฐานที่เงียบตลอดเวลา รุ่น Pro นี้จึงเหมาะกับคนที่เน้นประสิทธิภาพเหนือความเงียบ

Magic Trackpad

Magic Trackpad เป็นอุปกรณ์ไร้สายและชาร์จซ้ำได้ที่มาพร้อมกับคุณสมบัติ Multi-Touch และ Force Touch เต็มรูปแบบ เซ็นเซอร์ใต้พื้นผิว Trackpad สามารถตรวจจับความแตกต่างเล็กน้อยของแรงกดที่ใช้ ทำให้เพิ่มฟังก์ชันการทำงานและเชื่อมต่อกับเนื้อหาได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น

มีพื้นผิวกระจกขนาดใหญ่แบบ Edge-to-Edge ทำให้การเลื่อนและการปัดผ่านเนื้อหาโปรดมีประสิทธิภาพและสะดวกสบายยิ่งขึ้น Magic Trackpad จะจับคู่กับ Mac โดยอัตโนมัติ และแบตเตอรี่สามารถใช้งานได้ประมาณหนึ่งเดือนหรือมากกว่านั้นต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง

มีพอร์ต USB-C และมาพร้อมกับสายชาร์จ USB-C แบบถัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้ร่วมกับ macOS ซึ่งทำให้ประสบการณ์การใช้งาน Mac โดยรวมราบรื่นเป็นพิเศษ และยังสามารถใช้เพื่อปลุก Mac mini จากระยะไกลได้อีกด้วย

Magic Mouse

Magic Mouse เป็นเมาส์ไร้สายและชาร์จซ้ำได้ที่ออกแบบมาให้เลื่อนบนโต๊ะทำงานได้อย่างราบรื่นด้วยการออกแบบฐานที่ปรับให้เหมาะสม พื้นผิว Multi-Touch ช่วยให้คุณสามารถใช้ท่าทางสัมผัสง่ายๆ เช่น การปัดระหว่างหน้าเว็บและการเลื่อนดูเอกสาร

แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้ประมาณหนึ่งเดือนหรือมากกว่านั้นต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และพร้อมใช้งานทันทีที่แกะกล่องโดยจับคู่กับ Mac โดยอัตโนมัติ มีพอร์ต USB-C และมาพร้อมกับสายชาร์จ USB-C แบบถัก

แม้ว่าพอร์ตชาร์จจะอยู่ด้านล่าง แต่ไม่ใช่ปัญหาที่เกิดขึ้นบ่อยนักเนื่องจากอายุการใช้งานที่ยาวนาน ทำให้ไม่ต้องชาร์จบ่อยครั้ง

Magic Keyboard with Touch ID

Magic Keyboard with Touch ID เป็นคีย์บอร์ดไร้สายและชาร์จซ้ำได้ที่มาพร้อมกับคุณสมบัติ Touch ID ในตัว ซึ่งช่วยให้การยืนยันตัวตนสำหรับการเข้าสู่ระบบและการซื้อสินค้าเป็นไปอย่างรวดเร็ว ง่ายดาย และปลอดภัย

มอบประสบการณ์การพิมพ์ที่สะดวกสบายและแม่นยำอย่างน่าทึ่ง แบตเตอรี่ภายในใช้งานได้ยาวนานประมาณหนึ่งเดือนหรือมากกว่านั้นต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และจับคู่กับ Mac โดยอัตโนมัติ มีพอร์ต USB-C และมาพร้อมกับสายชาร์จ USB-C แบบถัก

สามารถใช้ Touch ID เพื่อปลดล็อก Mac ทำการซื้อจาก App Store, Apple TV, Apple Books และบนเว็บไซต์โดยใช้ Apple Pay นอกจากนี้ยังสามารถใช้ Touch ID เพื่อสลับบัญชีผู้ใช้ได้อย่างรวดเร็ว

คีย์บอร์ดมีปุ่มฟังก์ชันที่ด้านบนแถวซึ่งให้ทางลัดสำหรับฟังก์ชันระบบทั่วไป เช่น ความสว่าง, Mission Control, Spotlight Search, การควบคุมสื่อ และระดับเสียง

Conclusion

Mac mini M4 Pro ไม่ใช่แค่อัปเกรดเล็ก ๆ น้อย ๆ จากเดิม แต่มันคือการพลิกโฉมครั้งสำคัญของ Apple ที่ทำให้คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะขนาดเล็กตัวหนึ่งกลายเป็นเครื่องทำงานระดับเวิร์กสเตชันจริง ๆ

ด้วยขุมพลัง M4 Pro ที่มาพร้อม CPU, GPU และ Neural Engine ประสิทธิภาพสูง การเชื่อมต่อ Thunderbolt 5 สุดล้ำสมัย และสถาปัตยกรรมหน่วยความจำแบบรวมที่ออกแบบมาเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด ประสิทธิภาพโดยรวมเหนือกว่า Mac mini รุ่นเก่าหลายเท่า และสามารถแข่งกับพีซีระดับไฮเอนด์บางรุ่นได้

แต่ถ้าเป็นสายเกมเมอร์ตัวยงที่ต้องการเฟรมเรตระดับสูงหรือปรับสุดทุกอย่างบนเกม AAA ล่าสุด ต้องบอกก่อนว่า Mac mini M4 Pro ยังไม่ใช่คำตอบ แม้จะมี GPU ที่แรงขึ้นมากจาก M2 Pro แต่หากเทียบกับการ์ดจอแยกอย่าง RTX 3060 หรือ RTX 4060 Mobile ก็ยังคงตามหลังอยู่พอสมควร

หากชอบเล่นเกมเบา ๆ ด้วยเครื่องมืออย่าง Game Porting Toolkit และ CrossOver อาจพบว่าเจ้านี่เล่นได้และเล่นลื่นมากกว่าที่คาดไว้ด้วย

โดยเฉพาะการรองรับเทคโนโลยี MetalFX Upscaling ที่ช่วยให้ภาพสวยขึ้นและประหยัดทรัพยากร ทำให้ประสบการณ์เล่นเกมบน macOS ดีขึ้นอย่างเห็นได้

ถ้ากำลังมองหาเครื่องที่แรง เบา เงียบ และพร้อมสำหรับงานระดับสูง Mac mini M4 Pro คือหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุดในตลาดตอนนี้ ด้วยราคา 49,900 บาท