[รีวิว] HP OMEN 16 AMD Ryzen AI 9 365 + NVIDIA GeForce RTX 5070

เบื่อไหม? เวลาจะซื้อคอมใหม่ที ต้องมานั่งปวดหัวเลือกของร้อยแปดอย่าง เมาส์ตัว คีย์บอร์ดตัว ไมค์อีกตัว กลัวซื้อมาแล้วไม่เข้ากันอีก วันนี้เราจะมาแนะนำชุดคอมโบ้ที่เหมือนเกิดมาเพื่อกันและกัน จากค่าย HP และแบรนด์ลูกรักสายเกมมิ่งอย่าง HyperX ที่จะเปลี่ยนโต๊ะคอมให้กลายเป็น Battlestation ในรีวิวนี้เราจะมาเจาะลึกทุกซอกทุกมุมของ 3 ส่วนประกอบหลัก HP OMEN 16 เกมมิ่งโน้ตบุ๊กที่เป็นเหมือนยานแม่สุดแรง HyperX Pulsefire Saga Pro เมาส์คู่ใจที่เหมือนอาวุธสั่งได้และ HyperX QuadCast 2 ไมโครโฟนที่จะทำให้เสียงคมชัดเหมือนผู้สั่งการในแข่งขัน

มาดูกันว่าชุดคอมโบ้จากค่ายเดียวกันแบบนี้ มันจะเจ๋งกว่าการเลือกของต่างค่ายมารวมเองจริงไหม? แล้วชุดนี้มันเหมาะกับเกมเมอร์สายไหนกันแน่? ไปหาคำตอบกันเลย

HP OMEN 16 ยานแม่สุดแกร่ง

มาเริ่มกันที่หัวใจของชุดนี้ OMEN 16 โน้ตบุ๊กที่เป็นทุกอย่างให้เธอแล้ว! เราจะมาแงะดูทุกส่วน ตั้งแต่หน้าตาภายนอก จอเทพ ๆ ไส้ในสุดแรง ไปจนถึงการใช้งานในระยะยาว

Design

ดีไซน์รอบนี้ HP ทำการบ้านมาดีมาก ลบภาพเกมมิ่งโน้ตบุ๊กที่ต้องมีแต่ไฟ RGB แสบตาไปเลย ตัวเครื่องสีดำ Shadow Black โคตรดุ โคตรเรียบ จะแบกไปนั่งทำงานร้านกาแฟก็ดูดี จะวางบนโต๊ะคอมที่บ้านก็โคตรเท่ วัสดุก็ไม่ไก่กานะ ฝาพับกับตัวเครื่องเป็นอะลูมิเนียม ให้ฟีลลิ่งพรีเมียมสุด ๆ โลโก้ OMEN ก็เรียบ ๆ แต่ดูแพง ไม่ตะโกนว่าเป็นเกมเมอร์จนเกินไป

ถึงดีไซน์จะดูบาง แต่เรื่องน้ำหนักนี่ไม่เบาเลยนะ ตัวเครื่องหนักประมาณ 2.44 กิโลกรัม นี่ยังไม่รวมอะแดปเตอร์ชาร์จไฟที่หนักเอาเรื่องอีกก้อน พูดง่าย ๆ คือมันเกิดมาเพื่อเป็นคอมตั้งโต๊ะในร่างโน้ตบุ๊ก มากกว่าจะให้เราแบกไปไหนมาไหนทุกวัน ก็ต้องแลกกันหน่อยล่ะนะ อยากแรงก็ต้องยอมหนัก

จุดที่ต้องบอกกันตามตรงเลยคือเรื่องคีย์บอร์ด จากที่ทดสอบคือฟีลลิ่งตอนกดมันจะนิ่ม ๆ ยวบ ๆ ไปหน่อย ขาดแรงต้านสายพิมพ์งานหรือเกมเมอร์ที่ชอบฟีลลิ่งแบบ Mechanical Keyboard อาจจะขัดใจนิด ๆ

ปุ่มลูกศรอาจจะแอบเล็กไปเสียหน่อยหากใครที่ต้องใช้งานสำหรับการเล่นเกมเป็นหลัก คงต้องมีการปรับตัวเล็กน้อย

เรื่องพอร์ตนี่ต้องให้เขาเลย OMEN 16 จัดมาให้แบบไม่มีกั๊ก มีทั้ง USB Type-A 3, USB Type-C ที่ต่อจอแยกได้ ชาร์จไฟก็ได้, HDMI 2.1 สำหรับจอ 4K, ช่องเสียบสาย LAN เพื่อความนิ่งของอินเทอร์เน็ต และช่องหูฟัง/ไมค์ เสียบได้ทุกอย่างที่เกมเมอร์ต้องการ แต่แอบเสียดายที่ไม่มีช่องอ่าน SD Card มาให้ สาย Content Creator อาจจะต้องพกตัวอ่านการ์ดแยกนะ

OMEN 16 เหมือนถูกสร้างมาเพื่อเกมเมอร์สายจริงจังแต่ไม่ฮาร์ดคอร์คือคนที่อยากได้เครื่องแรง ๆ เปิดกราฟิกสุดทุกเกม แต่ไม่ชอบความวุ่นวาย ไม่ได้อยากมานั่งโมเครื่องเองเยอะแยะ ขอแค่เครื่องสวย ๆ แรง ๆ แบบสำเร็จรูปพร้อมลุย OMEN 16 ตอบโจทย์นี้เป๊ะ ๆ

Display

ถ้าจะมีอะไรที่ต้องชมแบบสุด ๆ ของ OMEN 16 ก็คือจอภาพ รุ่นนี้มากับจอ IPS ขนาด 16 นิ้ว ความละเอียด WQXGA (2560×1600) คือคมกริบกว่า Full HD ทั่วไปเยอะ แต่ที่เด็ดสุดคือ Refresh Rate ที่สูงถึง 240Hz บอกเลยว่าภาพลื่น เล่นเกม FPS เห็นศัตรูก่อนเพื่อนแน่นอน แถมยังมี Response Time แค่ 3ms, ความสว่าง 500 nits และสีตรงระดับ 100% sRGB ใครเล่นเกม AAA ภาพสวย ๆ หรือทำงานกราฟิกก็แฮปปี้แน่นอน

สเปกเทพขนาดนี้ พอใช้จริงก็ไม่ผิดหวังเลย จอ 240Hz ทำให้เกมไม่มีภาพฉีกให้กวนใจ ส่วนเกมภาพสวยอย่างก็แสดงสีสันได้สดใสสมจริงจนแทบจะหลุดเข้าไปในเกม จอของ OMEN 16 คือของดีที่เกมเมอร์ทุกคนต้องรัก ไม่ว่าจะสายโปรหรือสายชิลล์

Performance

ภายในของ OMEN 16 รุ่นนี้คือการจับคู่ของแรงแห่งยุค CPU เป็น AMD Ryzen AI 9 365 ที่มีถึง 10 คอร์ 20 เธรด ส่วนการ์ดจอก็เป็น

NVIDIA GeForce RTX 5070 เซ็ตนี้เกิดมาเพื่อเล่นเกมที่ความละเอียด 1440p หรือ 1600p แบบปรับสุดทุกอย่างได้สบาย ๆ

เพื่อให้เห็นภาพความแรงแบบชัด ๆ เราได้ทำการทดสอบประสิทธิภาพของ OMEN 16 ด้วยโปรแกรม Benchmark ยอดนิยมและเกมฟอร์มยักษ์ ผลลัพธ์ที่ได้ก็ไม่ทำให้ผิดหวังเลย

เริ่มต้นด้วยการทดสอบความเร็วของ SSD ขนาด 1TB PCIe Gen4 ที่ให้มา ผลจาก CrystalDiskMark แสดงให้เห็นความเร็วในการอ่าน/เขียนที่สูงมาก ซึ่งหมายถึงการโหลดเกม, เปิดโปรแกรม หรือบูทเครื่องที่จะทำได้อย่างรวดเร็วทันใจ

• ความเร็วในการอ่าน (Read): 6206.05 MB/s
• ความเร็วในการเขียน (Write): 5359.24 MB/s

ต่อกันที่การทดสอบประสิทธิภาพด้านกราฟิกด้วยโปรแกรม 3DMark ซึ่งเป็นมาตรฐานที่เกมเมอร์ทั่วโลกยอมรับ คะแนนที่ได้แสดงให้เห็นถึงพลังของ RTX 5070 ที่พร้อมรับมือกับเกมยุคใหม่ได้เป็นอย่างดี

• Time Spy (DX12): 12,304
• Fire Strike (DX11): 28,060
• Solar Bay Extreme (Ray Tracing): 11,394
• Steel Nomad (DX12): 2,892

มาถึงการทดสอบในสนามจริงกับเกมที่ขึ้นชื่อเรื่องกราฟิกสุดอลังการ เราได้ทดสอบที่ความละเอียด Native ของจอ (2560×1600) โดยเปิด-ปิดฟีเจอร์ Ray Tracing เพื่อดูความแตกต่างของ Frame Rate

เกม	การตั้งค่ากราฟิก	ความละเอียด	DLSS	Ray Tracing	FPS เฉลี่ย
Black Myth Wukong	Cinematic	2560×1600	On	On	23 FPS
Black Myth Wukong	Cinematic	2560×1600	On	Off	35 FPS
Black Myth Wukong	Very High	2560×1600	On	On	26 FPS
Black Myth Wukong	Very High	2560×1600	On	Off	45 FPS
inZOI	Ultra	2560×1600	On	–	79 FPS
inZOI	Ultra	2560×1600	Off	–	80 FPS
Hogwarts Legacy	Ultra	2560×1600	On	–	194 FPS
Hogwarts Legacy	Ultra	2560×1600	Off	–	47 FPS
Stellar Blade	Very High	2560×1600	On	–	203 FPS
Stellar Blade	Very High	2560×1600	Off	–	74 FPS

OMEN Tempest Cooling ก็ถือว่าเอาอยู่ ไม่ได้เกิดอาการเครื่องร้อนจนประสิทธิภาพตก (throttling) แต่ถ้าใครเป็นสายเล่นทั้งวันทั้งคืน การหา Cooling Pad ดี ๆ มาเสริมทัพก็จะช่วยให้เครื่องเย็นและแรงคงที่ได้ยาว ๆ

อีกเรื่องที่ทำออกมาได้ดีคือลำโพง ที่ได้ HyperX มาช่วยปรับจูนเสียงให้ แถมยังรองรับ DTS:X® Ultra อีก เสียงที่ได้เลยมีมิติมาก เบสแน่น แยกทิศทางเสียงเท้าศัตรูในเกมได้สบาย ๆ แม้จะไม่ใส่หูฟัง

สรุปคือ OMEN 16 แรงจริงอะไรจริง แต่ก็ต้องแลกมากับความร้อนและเสียงพัดลมที่ดังขึ้นเวลาเล่นเกมหนัก ๆ ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติของเกมมิ่งโน้ตบุ๊กสเปกสูง

สำหรับเกมมิ่งโน้ตบุ๊ก เรื่องแบตเตอรี่ก็อย่างที่รู้ ๆ กัน OMEN 16 ก็เช่นกัน ถ้าใช้งานเบา ๆ ทั่วไปอาจจะอยู่ได้ 4-5 ชั่วโมง แต่ถ้าคิดจะเล่นเกมโดยไม่เสียบสายชาร์จล่ะก็ ชั่วโมงครึ่งก็เก่งแล้ว ย้ำอีกครั้งว่าเครื่องแบบนี้อยู่ห่างที่ชาร์จไม่ได้

HyperX Pulsefire Saga Pro อาวุธคู่ใจ

ฟีเจอร์ที่เด็ดที่สุดของ Saga Pro คือการออกแบบที่ถอดเปลี่ยนชิ้นส่วนได้ (Modular Design) ไม่ว่าจะเป็นเคสเมาส์ ปุ่มกด สามารถถอดเปลี่ยนได้ง่าย ๆ เพราะมันยึดกันด้วยแม่เหล็ก ไม่ต้องใช้ไขควงเลย

แต่ความเจ๋งที่แท้จริงมันอยู่ตรงนี้ HyperX เขาแจกไฟล์ Printables สำหรับเครื่องพิมพ์ 3 มิติให้ไปใช้กันฟรี ๆ กว่า 32 แบบ ใครมีเครื่องพิมพ์ 3 มิติอยู่ที่บ้าน สามารถพิมพ์ชิ้นส่วนเมาส์ออกมาได้เองเลย

อย่างไรก็ตาม ชิ้นส่วนที่แถมมาให้ในกล่องอาจจะไม่ได้แตกต่างกันมากนัก ดังนั้น ถ้าอยากจะคัสตอมให้สุดจริง ๆ ก็ต้องพึ่งเครื่องพิมพ์ 3 มิติเป็นหลัก

HyperX ไม่ได้ขายแค่เมาส์ แต่กำลังขายแพลตฟอร์ม ให้เหล่าเกมเมอร์สาย D.I.Y. ได้ปลดปล่อยจินตนาการ เมาส์ตัวนี้จึงไม่ได้มีค่าตายตัว แต่สามารถพัฒนาไปพร้อมกับคอมมูนิตี้ได้เลย

เซ็นเซอร์ HyperX 26K ที่ปรับ DPI ได้สูงสุดถึง 26,000 และรองรับ Polling Rate แบบไร้สายสูงถึง 4,000Hz สวิตช์เป็นแบบ HyperX Optical Switches ให้ฟีลลิ่งการคลิกที่แน่นและสะใจ

ต่อได้ 3 แบบเลย ทั้งไร้สายผ่าน 2.4GHz dongle, Bluetooth 5.0 หรือจะเสียบสาย USB-C ก็ได้ ที่สำคัญคือแบตเตอรี่อึดมาก ใช้ได้นานถึง 90 ชั่วโมง ต่อการชาร์จครั้งเดียว (ที่ Polling Rate 1,000Hz) เล่นเกมกันลืมชาร์จไปเลย

ด้วยน้ำหนักแค่ 72 กรัม ทำให้ Saga Pro เป็นเมาส์ที่เบาและคล่องตัวมาก HyperX พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเมาส์ที่คัสตอมได้ ไม่จำเป็นต้องลดสเปกเลย Saga Pro คือการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างความสร้างสรรค์และประสิทธิภาพระดับโปรอย่างแท้จริง

HyperX QuadCast 2 เสียงสั่งการสุดคมชัด

QuadCast 2 ยังคงดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์เหมือนเดิม แต่ดูพรีเมียมขึ้นด้วยบอดี้อะลูมิเนียมและไฟสีแดงที่เป็นซิกเนเจอร์ของ HyperX แต่ที่เจ๋งกว่าหน้าตาก็คือฟังก์ชันที่ใช้งานได้จริง:

• Shock Mount ในตัว: ช่วยลดเสียงกระแทกโต๊ะเวลาเราหัวร้อนได้ดีมาก แถมยังถอดง่ายด้วยสลักแบบใหม่
• Tap-to-Mute: ฟีเจอร์ขวัญใจมหาชน แค่แตะเบา ๆ ที่หัวไมค์ก็ปิดเสียงได้ทันที ไฟก็จะดับลงให้เรารู้สถานะ ป้องกันเสียงหลุดตอนสตรีมได้ดีสุดๆ
• Pop Filter ภายใน: มีแผ่นกันลมในตัว ช่วยลดเสียงรบกวนเวลาเราพูดได้ในระดับหนึ่ง

อีกหนึ่งการอัปเกรดที่สำคัญคือปุ่มหมุนอันเดียวที่ทำได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการปรับความดังของเสียง (Gain), ปรับเสียงหูฟังมอนิเตอร์ หรือเลือกระหว่างโหมดการรับเสียงทั้ง 4 แบบ โดยไม่ต้องสลับจอไปปรับในโปรแกรมเลย สะดวกสบายสำหรับสตรีมเมอร์มาก ๆ

จุดแข็งที่สุดของ QuadCast 2 คือคุณภาพเสียงที่ดีแบบไม่ต้องปรับแต่งอะไรให้วุ่นวาย เสียงพูดที่ได้จะมีความอุ่น (warm), คมชัด (crisp) และใส (clear) แถมยังตัดเสียงรบกวนรอบข้างได้ดีมากในโหมด Cardioid ด้วยความสามารถในการอัดเสียงที่ความละเอียดสูงถึง 24-bit/96kHz ทำให้ได้เสียงคุณภาพระดับสตูดิโอเลยทีเดียว

QuadCast 2 มีโหมดรับเสียงให้เลือกถึง 4 แบบ ทำให้ใช้งานได้หลากหลาย:

• Cardioid: รับเสียงจากด้านหน้า เหมาะสำหรับสตรีมเกมคนเดียว, พากย์เสียง หรือประชุมออนไลน์
• Omnidirectional: รับเสียงจากทุกทิศทาง เหมาะสำหรับจัดรายการ Podcast ที่มีคนหลาย ๆ คน
• Bidirectional: รับเสียงจากด้านหน้าและด้านหลัง เหมาะสำหรับสัมภาษณ์แบบนั่งคุยกันสองคน
• Stereo: รับเสียงซ้าย-ขวา สร้างมิติเสียงสมจริง เหมาะสำหรับอัดเสียงเครื่องดนตรี หรือทำ ASMR

จุดแข็งที่แท้จริงของ QuadCast 2 คือความง่ายที่คิดมาอย่างดีแม้ว่าโปรแกรม NGENUITY จะปรับแต่งเสียงได้ไม่เยอะ แต่นั่นคือความตั้งใจของ HyperX เพราะไมค์ตัวนี้ถูกสร้างมาเพื่อ Content Creator ส่วนใหญ่ที่ต้องการอุปกรณ์ที่ใช้งานง่าย ให้เสียงดี และเอาเวลาไปโฟกัสกับการทำคอนเทนต์ของตัวเองดีกว่าต้องมานั่งปวดหัวปรับ EQ

Conclusion

หลังจากเจาะลึกกันไปครบทุกชิ้นแล้ว ก็ถึงเวลาตัดสินว่าเซ็ตนี้ควรค่าแก่การใช้งานหรือไม่ HP OMEN 16, HyperX Pulsefire Saga Pro และ HyperX QuadCast 2 ไม่ใช่แค่ของดี 3 ชิ้นมาวางรวมกัน แต่มันคือการรวมพลังของฮาร์ดแวร์ที่ถูกออกแบบมาให้ทำงานร่วมกันได้อย่างลงตัว

ข้อดีของการใช้ของจากค่ายเดียวกันคือความเข้ากันได้แบบสุดๆ เราสามารถควบคุมทุกอย่างได้ผ่านโปรแกรม OMEN Gaming Hub ตัวเดียว ทั้งปรับความแรงของแล็ปท็อป ปรับไฟ RGB ของเมาส์, การเชื่อมต่อเมาส์ที่ง่ายดายด้วยฟีเจอร์ Instant Pair และดีไซน์ที่คุมโทนไปในทิศทางเดียวกัน ทั้งหมดนี้สร้างประสบการณ์ที่สะดวกและเป็นหนึ่งเดียวมากกว่าการใช้ของคละแบรนด์แน่นอน

ชุดนี้เหมาะสุด ๆ สำหรับ เกมเมอร์และ Content Creator สายจริงจัง ที่ต้องการประสิทธิภาพสูง แต่ไม่ชอบความยุ่งยาก นี่คือกลุ่มผู้ใช้งานที่ต้องการเฟรมเรตและคุณภาพของภาพในระดับสูงสุดจากเกมมิ่งโน้ตบุ๊ก ซึ่งผลการทดสอบก็พิสูจน์แล้ว

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมและสั่งซื้อสินค้าได้ที่ [คลิก]