[รีวิว] Silent Hill f เมืองห่าผี: หลอน ซ่อน ร้าย

หมายเหตุ: ตัวเกมที่นำมารีวิวเป็นเวอร์ชัน PlayStation 5 และรันบนเครื่องเล่นรุ่นมาตรฐาน ประสบการณ์ที่ได้รับอาจมีความแตกต่างกันในบางแพลตฟอร์ม

การมาถึงของ Silent Hill f ทำให้แฟนเกมทั่วโลกต่างตื่นเต้นไม่เพียงแค่เพราะเป็นเกมที่มีชื่อภาคแปลกและยังได้ Ryukishi07 มาร่วมดูแลเนื้อเรื่อง แต่ยังเป็นภาคใหม่แกะกล่องที่ต้อนรับประสบการณ์เน็กซ์เจ็นด้วย เท่านั้นไม่พอยังยกเซ็ตติ้งไปอยู่ในพื้นที่ใหม่อย่างประเทศญี่ปุ่น แต่สิ่งที่เป็นซิกเนเจอร์ทั้งความสยองเชิงจิตวิทยาจะยังคงอยู่หรือไม่ องค์ประกอบอะไรที่จะทำให้เกมมีความเป็น เมืองห่าผี วันนี้ ThisIsGame Thailand จะนำความประทับใจมารีวิวกัน

การนำเสนอ

เรื่องราวของเกม Silent Hill f ยังคงเล่นกับจิตใจของคนและปมที่นำมาประยุกต์รอบนี้ก็มีทั้งเรื่องความไม่ไว้ใจ เรื่องบทบาทของผู้หญิง (ที่อยากจะพูดถึงในหัวข้อถัดๆ ไป) ผสานเข้ามาเป็นความกลัว ซึ่งการผจญภัยของ Hinako ตัวเอกเริ่มต้นขึ้นจากวันธรรมดาๆ วันหนึ่งที่เธอต้องเจอจนชินทั้งครอบครัวที่มีความรุนแรงและการไปพบกับเพื่อนที่มีเพียงจำนวนหยิบมือของเธอ แต่ทว่าทุกสิ่งก็เปลี่ยนไปเมื่อวันหนึ่งหมอกปริศนา และดอกฮิกันบานะได้งอกเงยขึ้นมาทั่วทั้งเมือง พร้อมกับการปรากฏของสัตว์ประหลาดมากมาย

จากปกติ Silent Hill ในทุกภาคมักมีการแบ่งช่วงอยู่สามช่วงคือโลกแห่งความจริง (ในเมืองร้าง ที่ ณ ภาคเก่าๆ อยู่ในเมืองตะวันตกริมหุบเขาแห่งหนึ่ง) โลกแห่งหมอก และโลกฝันร้าย แต่สำหรับเกมนี้ เกมเพลย์แบ่งออกเป็นสองช่วงคือเมืองเอบิสึโอกะที่ถูกปกคลุมด้วยหมอก ที่เป็นโลกแห่งความจริงของ Hinako ที่ต้องเผชิญ และช่วงที่เป็นความฝันที่ถูกตัดไปยังศาลเจ้าอันมืดมิด แต่จังหวะเกมเพลย์ก็จะเหมือนกันทั้งคู่คือหาทางไปต่อ แก้ปริศนา และที่สำคัญที่สุด ห้ามตาย!

ความสยองขวัญแบบญี่ปุ่นมาครบถ้วนราวกับว่าจะเป็นการส่งท้ายฤดูร้อนด้วยความเย็นยะเยือก เราจะพบกับความแหวะแบบเฉพาะตัวทั้งเนื้อหนังมังสาที่หลุดออกมาแบบ Gore สุดๆ หรือจะเป็นรูบนร่างกายชวนให้เราขนหัวลุก จุดนี้รู้สึกว่าฉีกแนวไปจนไม่ค่อยมีความเป็น Silent Hill เท่าไร ซึ่งไม่ใช่เรื่องคำตินะ มันเป็นเกมใหม่ที่บอกเล่าเรื่องราวที่แตกต่างจริงๆ

เกมเพลย์ Silent Hill f

เกมเป็นแนว Over-the-shoulder เหมือนกับเกมเอาตัวรอดสยองขวัญในยุคใหม่ และถ้าสังเกตให้ดีจะพบว่าจังหวะการเล่นเกมค่อนข้างเร็วเมื่อเทียบกับ Silent Hill 2 เวอร์ชันรีเมคในปีที่แล้วครับ ใครที่ชื่นชอบความเป็นแอ็กชันน่าจะชอบใจไม่น้อย ทั้งนี้เกมก็บาลานซ์ให้ไม่ต้องบู๊เกินจนอารมณ์ถูกดึงไป นั่นคือจะมีเกจของพลังกาย รวมไปถึงอาวุธจะมีความคงทนด้วย กระนั้นด้วยปูมหลังของ Hinako เองที่เป็นเด็กสาววัยกำลังโตและยังเป็นนักกีฬา ไม่น่าแปลกใจที่เธอจะมีความคล่องตัว ได้ทั้งปีนป่าย กระโดดข้ามหน้าต่าง

ในส่วนของระบบต่อสู้เองหลายคนอาจจะได้ยินมาว่ามันเป็นเหมือน Souls-like หรือเปล่า ก็จะบอกเลยว่าไม่ได้เป็นเกมแนวนั้นแต่อย่างใด แต่เราจำเป็นต้องอาศัยการสังเกตจังหวะของศัตรูที่พุ่งเข้ามา โดยทุกตัวมีแพทเทิร์นของมันเองอยู่แล้ว และถ้าเรากดปุ่ม Dodge ได้พอดีก็จะทำให้เวลาสโลว์ช่วงนึงพร้อมคืนพลังความอึดให้เราโจมตีกลับได้ และการใช้อาวุธนั้นจะเป็นอาวุธประชิดหมดเลย ทั้งท่อแป๊บ มีด ง้าว แบ่งออกเป็นตีเบา R1 และตีแรง R2 ตามผังปุ่มของ PS5 ครับ

นอกจากนั้นแล้วพูดถึง Silent Hill จะไม่มีพัสเซิลเลยก็ไม่ได้ เกมนี้มาพร้อมกับปริศนาที่จะทำให้เราต้องกรีดร้องด้วยความยาก แต่เบาะแสก็ชี้ให้เห็นชัดแบบ อ๋อ! ซึ่งถ้าสังเกตโดยรวมไม่มีพัสเซิลที่เป็นเส้นผมบังภูเขาเท่าไร ทุกอย่างมันมีที่มาที่ไป และเกี่ยวข้องกับตัว Hinako เองโดยตรงด้วย โดยทั้งส่วนแอ็กชันและพัสเซิล ยังคงสามารถเลือกปรับความยากง่ายได้เช่นเดิทเดียวกันกับเกมที่ผ่านมา

ด้วยความท้าทายทั้งหมดทั้งปวงที่เราจะต้องเผชิญ ผู้เล่นจำเป็นต้องอัปเกรดความสามารถให้ตัวละครด้วย โดยระหว่างทางก็จะมีจุดเซฟที่เป็นเหมือนกับศาลเจ้า ซึ่งไม่ได้ทำหน้าที่เป็นจุดเซฟธรรมดา แต่เราสามารถนำไอเทมเครื่องฟื้นพลัง หรือของใช้อื่นๆ มาบูชาเพื่อเพิ่มค่า Faith และแลกเป็นเครื่องราง (Omamori) ที่เป็นเหมือนกับเพิร์คถาวรได้ เช่นเพิ่มความอึดระหว่างการวิ่ง เพิ่มพลังชีวิตสูงสุดเป็นต้น

ตีความแนวคิด ‘สิ่งที่อยู่ตรงหน้า อาจไม่ใช่สิ่งที่เป็น’ ใหม่

Hinako ไม่ใช่คนที่ไว้ใจใครง่ายและเราจะพบว่าเธอจะได้ยินเสียงแว่วแปลกๆ ตลอด ทั้งเรื่องที่ดีหรือไม่ดี ผ่านสัญลักษณ์อย่างตุ๊กตาเด็กหญิงที่ปรากฏพร้อมกับข้อความสลักตามพื้น ป้าย ที่ทำให้เธอฉุกคิดในสถานการณ์ต่างๆ บางทีก็ช่วยได้ บางทีก็สายเกินไป ซึ่งเราจะได้เห็นว่าเธอมีพัฒนาการมากขึ้นในการก้าวข้ามสิ่งเหล่านั้น แต่อีกใจหนึ่งเธอก็ยิ่งถลำลึกลงไปในความมืดมิดของจิตใจคนมากเข้าไปทุกที

ฟังก์ชันสมุดบันทึกเป็นอีกหนึ่งส่วนสำคัญที่เราจะต้องเปิดเข้ามาดูเบาะแสสำหรับแก้พัสเซิล หรือติดตาม Lore ซึ่ง Hinako จะเป็นคนที่มีเรื่องใหม่ๆ ให้เล่าตลอด แต่นั่นก็คือสิ่งที่ทำให้เรารู้ว่า ‘ของที่มันอยู่ตรงหน้า อาจไม่ใช่สิ่งที่เป็น’ ทุกตัวละคร ทุกสถานที่ หรือเรื่องราวต่างๆ ที่เธอจดอยู่ในสมุดนั้นจะมีความเปลี่ยนแปลงตามเนื้อเรื่องไปเรื่อยๆ ไม่ว่าคนที่เธอไว้ใจหรือไม่ไว้ใจก็ตาม พวกเขาเป็นส่วนประกอบที่ทำให้ Hinako ได้รู้ความเป็นจริงของมนุษย์มากขึ้นตลอด ตรงนี้อยากชื่นชมมากว่าไดนามิกของเนื้อเรื่องดีและมีมิติ ส่วนหนึ่งคงต้องปรบมือให้ Ryukishi07 ลายเส้นเขาชัดมากๆ

เกิดเป็นหญิงแท้จริงแสนลำบาก!

มาถึงเรื่องที่ผมอยากพูดถึงมากที่สุดนั่นคือปมของผู้หญิงตัวเล็กๆ แต่ใจแข็งแกร่งอย่าง Hinako ที่เหมือนกับว่าเธอเกิดผิดยุคสมัยอย่างไหนอย่างนั้น! เป็นที่ทราบกันดีครับว่าเกมนี้มีเรื่องราวอยู่ในคริสต์ทศวรรษ 1960 ที่ ณ ตอนนั้นประเทศญี่ปุ่นเพิ่งหลุดพ้นจากความลำบากในการฟื้นฟูจากสงครามโลกครั้งที่สองใหม่ๆ แต่ยังคงยังห่างไกลกับกฎหมายการปกป้องสวัสดิการของผู้หญิงกันเป็นเวลาหลายปีเลยด้วยซ้ำ ความเป็นหญิงหัวขบถท่ามกลางบรรยากาศของเมืองเล็กๆ ที่เป็นเมืองที่ขับเคลื่อนด้วยแรงงานชายเสียส่วนมาก ย่อมเป็นสิ่งที่ขัดหูขัดตา ไม่ว่าจะเป็นพ่อหรือเพื่อนบางคนที่มองเธอเป็นคนแปลกแยก

แม้เราจะไม่เจอคนรอบข้างเลยหลังจากหมอกมรณะได้ปกคลุมทั้งเมืองเอาไว้ แต่ Hinako จะได้ยินเสียงของคนซุบซิบหรือแม้กระทั่งเสียงจากวิทยุที่ทำให้เธอนึกถึงความขมขื่นในชะตาชีวิตการเป็นผู้หญิงที่เกิดขึ้น ทั้งสามีขี้เมาที่ขว้างปาสิ่งของใส่ภรรยาเพียงเพราะเธอทำอาหารไม่อร่อย พ่อที่ดุด่าลูกสาวที่ไม่กล่าวสวัสดีตอนเช้า (ทั้งที่ต่อให้ทักทายไปก็ไม่มีการตอบรับ) และยิ่งร้ายไปกว่านั้นเมื่อผู้หญิงด้วยกันเองยังเกลียดเธอเลยในฐานะศัตรูหัวใจ ทั้งนี้ถึงอย่างไร Hinako ก็สามารถก้าวข้ามมันได้อย่างสวยงามแม้จะตะกุกตะกักและเสียเลือดเนื้อ

สิ่งเหล่านี้มันเกี่ยวข้องกับสถานการณ์ทางการเมืองที่ส่งผลต่อประชากรทั้งหมด ผมมักจะพูดอยู่บ่อยครั้งว่าความเป็นชาตินิยมของญี่ปุ่นได้ตายลงไปตั้งแต่การประกาศยอมแพ้ในสงครามโลก ผู้ชายหลายคนเสียหน้า สิ้นหวัง และเหลือเพียงหนทางไม่กี่อย่างนั่นคือรีบเร่งในการฟื้นฟูบ้านเมืองที่พังทลาย ไม่ได้มีเวลามาคิดเกี่ยวกับการสู้รบเป็นมหาอำนาจอีก และในคริสต์ทศวรรษ 1960s ที่เป็นเวลาราว 15-20 ปีต่อมา พวกเขาทำสำเร็จ กระนั้นแล้วเมื่อประสบการณ์ร่วมของคนทั้งชาติได้เจอมา พวกเขาย่อมให้ความสำคัญกับผลลัพธ์และความสำเร็จมากกว่า จนกลายเป็น เรียวไซเค็มโบะ หรือหลักการสอนให้ผู้หญิงเป็นภรรยาที่ดีสงบเสงี่ยมเจียมตน เพื่อเสริมบารมีให้กับชายชาญผู้ทำหน้าที่ช้างเท้าหน้าอย่างแข็งขัน ช่างแสนขัดกับภาพของหญิงทะโมนแบบ Hinako เสียนี่กระไร!

มีเพียงพี่สาวของ Hinako เท่านั้นที่ดูเหมือนจะเข้าใจเธอทุกอย่างและสาวน้อยเองยังบอกว่าเป็นเพียงจุดมุ่งหมายเดียวที่ทำให้การอยู่ในบ้านหลังนี้ ‘พอจะทน’ ขึ้นมาได้บ้าง แต่ท้ายที่สุดเธอก็ออกไปแต่งงานพร้อมย้ายไปอยู่กับสามีตามความคาดหวังของพ่อแม่ เหตุการณ์นี้ผมคิดว่าหาก Hinako มีพี่สาวที่แข็งกระด้างและช่วยเป็นปากเป็นเสียงให้เธอ บางทีปมในใจอาจจะไม่เกิดขึ้นเสียด้วยซ้ำ แต่พี่ของเธอกลับเลือกที่จะจำนนให้กับการกดทับนี้ ไม่มีแม้แต่ความคับข้องใจหรือช่วยปรับทุกข์ ฟังดูแล้วก็เป็นส่วนหนึ่งอ้อมๆ ให้ Hinako เผชิญกับความเส็งเคร็งของบ้านเพียงคนเดียว

แม่ของ Hinako คืออีกหนึ่งตัวละครที่ผมมองว่าสำคัญกับความเป็นไปของเธอเพราะก็เป็นผู้หญิงสนิมสร้อยปากร้อยดอกไม้ ไม่ยืนหยัดกับอุดมการณ์ของ Hinako จนกลายเป็นว่าลูกสาวก็เลยเกลียดไปด้วยเลย สิ่งที่ทำได้มากที่สุดมีเพียงแค่บอกว่า ‘ลูกจ๋าหยุดเถอะ ขอโทษพ่อเสีย พ่อเขาเป็นห่วงลูกถึงดุ’ หรือ ‘คุณคะ ใจเย็นๆ กับลูกหน่อย’ เผลอๆ ยังไม่ทันได้อ้าปากพูดออกไป สามีก็ชกหน้าเข้าให้แล้วด้วยซ้ำ และที่น่าหดหู่ก็คือทัศนคติที่มีต่อผู้หญิงก็ยังไม่ได้หายไปจากสังคมญี่ปุ่นเลย ผมคงหาวิจัยอะไรมาประกอบไม่ได้เพราะนี่มันคือรีวิวอะเนอะ ซึ่งคุณจะปฏิเสธหรอว่าตอนนี้ผู้หญิงสามารถมีบทบาทเทียบเคียงผู้ชายได้ มันน่าสลดนะ

Hinako เป็นเหมือนตัวแทนผู้หญิงสมัยใหม่และเป็นเหมือนกับภาพของนักศึกษาที่ประท้วงในช่วงปี 1968-1969 เมื่อพวกเขาต้องการที่จะมีสิทธิ์ในการออกความเห็น กล้าที่จะรับรู้ในความเป็นตัวของตัวเอง Hinako ไม่จำเป็นต้องเป็นแม่ที่น่ารักของลูกอย่างที่ใครคาดหวัง เธอไม่จำเป็นต้องเรียนจบและหาสามีที่คู่ควร เพียงแค่เป็น Hinako ที่ไม่ต้องซ่อนความคับแค้น ขัดข้องใจ มีความสุขกับความเป็นจริง เคารพในตัวเอง และมีบทบาทในฐานะมนุษย์ที่เป็นประชากรโลกก็พอ แต่น่าเสียดายที่เธอก็คงไม่ได้อยู่ทันเห็นภาพนั้น ภาพที่ความเท่าเทียมได้รับการโอบรับ

กราฟิกและเพลงประกอบ

การแสดงผลของเกมที่ผมเลือกใช้คือ Performance Mode ผ่านหน้าจอ 1080p พบว่าเกมสามารถให้ภาพได้เต็มความละเอียด และมีเฟรมเรตที่ 60FPS นิ่งๆ เลยครับ และเพลงประกอบยังได้ Akira Yamaoka มาทำให้เหมือนเดิม ซึ่ง Silent Hill มักมาพร้อมเพลงร็อค แต่รอบนี้พิเศษครับ พี่แกผสมผสานทั้งเครื่องดนตรีญี่ปุ่นอย่างชามิเซ็นและขลุ่ย เข้ากับกีตาร์ไฟฟ้า กลายเป็นแนวที่มีเอกลักษณ์มากๆ ขอชมเพิ่ม

ทั้งนี้มีเรื่องที่น่าพิจารณาเล็กน้อยคืออนิเมชันและการบังคับ รวมไปถึงความละเอียดลออของเกม แน่นอนว่าเกมถ่ายทอด ‘ความน่ากลัวที่สวยงาม’ บรรยากาศที่ดูเป็นมนต์สะกดแม้น่าสะอิดสะเอียน แต่พวกรายละเอียดอย่างต้นไม้ใบหญ้า เวลาเราเดินผ่านก็ทะลุตัว ไม่มีการตอบสนองตามฟิสิกส์ครับ ไม่รู้ว่าเรื่องมากไปเองหรือเปล่า แต่มันดึงความสนใจมากๆ เลย อดเสียดายไม่ได้ครับ อย่างไรก็ตามนี่คือโปรเจ็กต์ใหญ่โปรเจ็กต์แรกที่ NeoBards เป็นคนลงมือทำ มันอาจจะไม่ได้พลิกชีวิตเหมือนตอนภาคสองเวอร์ชันรีเมคจาก Bloober Team ทว่า Silent Hill f จะเป็นพอร์ตโฟลิโอที่แข็งแรงมากๆ ของค่ายนี้แน่นอน

บทสรุป

Silent Hill f ถ่ายทอดความสยองขวัญออกมาได้ในแบบที่ทำให้เราลืมไปเลยว่ามันเป็น Silent Hill และตัวละคร Hinako เองก็เป็นตัวเอกหญิงสายแข็งที่ทำให้เราอยากให้กำลังใจตลอดการเดินทางของเธอมากๆ (ส่วนตัวผมชอบหญิงแกร่งด้วยไง) และแม้เรื่องกราฟิกจะไม่ได้โดดเด่นมากนักด้วยบรรยากาศของเมืองเอบิสึโอกะที่ดูซีดเซียวอยู่แล้วแถมมีหมอกมาปกคลุมอีก แต่จุดแข็งอย่างเนื้อเรื่องที่เดินเรื่องอย่างฉับไว ทุกๆ คัตซีนมีความคืบหน้าหมด ทำให้เป็นเกมสยองขวัญที่มันส์! และละเมียดดีจริงๆ

สำหรับใครที่สนใจ Silent Hill f ไม่ต้องรอนานเพราะจะได้ฤกษ์วางจำหน่ายในวันที่ 25 กันยายนนี้แล้ว พร้อมให้ทุกคนสั่งจองล่วงหน้าทุกช่องทางไม่ว่าจะเป็น PlayStation 5, Xbox Series X|S และ PC ผ่านร้านค้า Steam ในราคาเริ่มต้นที่ 2,113 บาท โดยยังมีเวอร์ชัน Digital Deluxe ให้เป็นเจ้าของที่จะมาพร้อมไอเทมเครื่องแต่งกายใหม่ๆ และสิทธิ์การเข้าเล่นเกมล่วงหน้า 48 ชั่วโมงให้ได้หลอนกัน และท้ายที่สุดขอขอบคุณ Konami อีกครั้งกับเกมที่นำมารีวิวกันวันนี้ ส่วนโอกาสหน้า ThisIsGame Thailand จะมีอะไรมาอัปเดตอย่าลืมติดตามที่นี่เช่นเคย

©Konami Digital Entertainment