[รีวิว] Shin Megami Tensei V: Vengeance – ออกผจญภัยกับเหล่าปีศาจในเรื่องราวที่เข้มข้น

Shin Megami Tensei V: Vengeance เป็นเกมที่จะพาผู้เล่นมาผจญภัยไปกับตัวละครที่คุ้นหน้าคุ้นตาอีกครั้ง โดยเกมดังกล่าวมาพร้อมกับคอนเทนต์เนื้อเรื่องหลักในชื่อ The Canon of Creation ซึ่งเป็นแคมเปญในภาค V ที่เคยวางจำหน่ายมาแล้ว และอีกคอนเทนต์ชื่อว่า The Canon of Vengeance ที่บอกเล่าเรื่องราวของกลุ่มปีศาจ Qadistu ที่ปรากฏตัวขึ้นในโลกมนุษย์ โดยจะมีดันเจี้ยนใหม่และแผนที่ใหม่ให้ออกสำรวจ และในส่วนของระบบการต่อสู้จะได้รับการปรับจูนความสมดุลใหม่สำหรับเรื่องราวภาคนี้ด้วย

และในวันนี้ผู้เขียนได้มีโอกาสเข้าไปสร้างตี้มอนสเตอร์ออกผจญภัยในดินแดนปีศาจมาแล้ว และผู้เขียนก็ไม่พลาดที่จะนำรีวิวมาให้ทุกคนได้ติดตามกันครับ

อนึ่ง… การรีวิวนี้เกิดขึ้นบน PS5 และถ้าหากผู้อ่านกลับมาอ่านในภายภาคหน้า ข้อสังเกตบางข้ออาจมีการแก้ไขเรียบร้อยหลังจากที่รีวิวเผยแพร่ไปแล้วก็เป็นได้ครับ

เกมที่ต่อยอดความสำเร็จด้วยเนื้อเรื่องที่น่าติดตามอีกเส้นหนึ่ง

เริ่มจากประเด็นแรกที่หลายคนสงสัยก่อนเลยว่า Shin Megami Tensei V: Vengeance แตกต่างไปจากเกมเวอร์ชั่นธรรมดาอย่างไร ซึ่งผู้เขียนต้องขออธิบายว่าเกมเวอร์ชั่นใหม่นี้จะมาพร้อมกับเนื้อเรื่อง 2 ส่วนด้วยกัน นั่นก็คือ The Canon of Creation ซึ่งเป็นเนื้อเรื่องหลักจากเกมที่วางจำหน่ายเมื่อ 3 ปีก่อน ในขณะที่ The Canon of Vengeance เป็นเนื้อเรื่องใหม่ที่ถูกใส่เข้ามาภายในเกมนี้ โดยเนื้อเรื่องที่ 2 นี้จะบอกเล่าเรื่องราวของกลุ่มปีศาจ Qadistu ที่ปรากฏตัวขึ้นในโลกมนุษย์ ซึ่งจะมีเนื้อหาที่ดาร์กกว่าเนื้อเรื่องปกติ โดยผู้เล่นสามารถเลือกเส้นเรื่องได้ตั้งแต่ตอนต้นเกม ที่จะมีฉากให้เราได้เลือกว่าจะจับมือผู้หญิงปริศนาหรือไม่ ซึ่งหากเราจับมือผู้หญิงคนดังกล่าวเราจะเข้าสู่เส้นเรื่องใหม่ แต่ถ้าเราไม่จับเราก็จะไปเล่นเส้นเรื่องเดิมนั่นเอง โดยเนื้อหาของ 2 เส้นเรื่องนี้จะมีความคล้ายคลึงกันในช่วงแรก แต่จะเริ่มมีความแตกต่างในช่วงครึ่งหลังเป็นต้นไปนั่นเองครับ ซึ่งจุดนี้เองทำให้เกมนี้เป็นอีกหนึ่งเกมที่แฟนพันธุ์แท้ของซีรีส์ไม่ควรพลาด รวมไปถึงหากใครอยากเล่นเกมนี้แต่ยังไม่เคยเล่นเกมภาคเดิมมาก่อนก็สามารถมาเล่นเกมเวอร์ชั่นนี้ได้เลย

กราฟิกที่สวยงามเล่นได้ลื่นไหลไม่มีสะดุด

กราฟิกของ Shin Megami Tensei V: Vengeance ถือว่าสวยงามน่าพอใจ แม้จะไม่ได้ดูสมจริงหรือล้ำสมัยเท่าเกมอื่น ๆ ในปัจจุบัน แต่ผู้เขียนต้องขออธิบายให้ทุกคนได้เข้าใจกันก่อนว่าเกมนี้วางจำหน่ายครั้งแรกเมื่อ 3 ปีก่อน และถูกนำกลับมาจำหน่ายอีกครั้งพร้อมเนื้อหาใหม่ โดยไม่ได้มีการ Remake หรือ Remaster เต็มรูปแบบ ดังนั้นกราฟิกอาจดูไม่ได้ล้ำเหมือนกับเกมในยุคนี้ไปบ้าง อย่างไรก็ตามหากเทียบกับเกมต้นฉบับที่วางจำหน่ายเมื่อก่อน

จุดเด่นของเกมนี้คือดีไซน์ตัวละครที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ค่ายเกมนี้มักสร้างตัวละครที่ 3 ปีก่อนผู้เขียนรู้สึกว่าคุณภาพกราฟิกของเกมนั้นดีขึ้นในระดับหนึ่ง โดยเฉพาะในแง่ของพื้นผิวกราฟิกของโมเดลต่าง ๆ นั้นดูละเอียดและคมชัดขึ้นอย่างมาก นอกจากนี้ผู้เขียนได้มีโอกาสเล่นเกมนี้ยาวนานหลายชั่วโมง โดยไม่พบปัญหาอาการกระตุกหรือเฟรมเรตตกเลย ทำให้มั่นใจได้ว่าผู้เล่นจะได้สัมผัสประสบการณ์การเล่นเกมที่ราบรื่นอย่างแน่นอน

จับมอนสเตอร์มาร่วมทีม หรือรวมร่างพวกมันเพื่อสร้างทีมที่แข็งแกร่ง

สำหรับเกมเพลย์หลัก ๆ ของเกมนี้ก็คือ Turn-Based RPG ที่ผู้เล่นจะได้สะสมมอนสเตอร์จำนวนมากเข้าร่วมทีมของผู้เล่นที่มีสมาชิกในทีมได้สูงสุด 4 คน โดยผู้เล่นจะต้องสลับกันโจมตีศัตรูไม่ว่าจะเป็นการใช้การโจมตีปกติที่มีหลากหลายรูปแบบ การโจมตีด้วยสกิลต่าง ๆ ซึ่งแน่นอนว่าเกมนี้มาพร้อมกับระบบแพ้-ชนะทางด้วย แต่ที่น่าสนใจไปมากกว่านั้นก็คือระบบออโต้ภายในเกมนี้ที่ผู้เล่นสามารถใช้งานได้ โดยเราสามารถเลือกได้ด้วยว่าจะให้ออโต้แบบใช้สกิลหรือไม่ ซึ่งจากที่ผู้เขียนลองใช้ระบบนี้ดูก็พบว่า AI ของระบบฉลาดพอสมควรด้วยการเลือกสกิลการโจมตีที่ศัตรูแพ้ทางตลอด ยกเว้นกรณีเดียวคือตัวละครเรามีสกิลเดียว ไม่มีให้เลือก AI ก็จะฝืนใช้สกิลดังกล่าวใส่ศัตรูแม้ว่าสกิลนั้นจะแพ้ทางศัตรูก็ตาม แต่โดยรวมแล้วก็ต้องยอมรับว่า AI ในระบบออโต้ของเกมนี้นั้นมีประโยชน์อย่างมากเลยทีเดียว

นอกจากนี้มอนสเตอร์ภายในเกมนี้มีให้ได้ใช้งานภายในเกมนี้ก็มีมากกว่า 270 ตัวเลยทีเดียว แถมมอนสเตอร์แต่ละตัวมีการดีไซน์ออกแบบมาได้อย่างมีเอกลักษณ์ ซึ่งหากใครเป็นแฟนเกมของซีรีส์นี้อยู่แล้ว (รวมไปถึงซีรีส์ Persona) เราจะได้เห็นมอนสเตอร์ที่คุ้นหน้าคุ้นตาจำนวนมาก ที่ผู้เขียนค่อนข้างมั่นใจว่าผู้เล่นจะยังคงประทับใจอยู่เช่นเคย ซึ่งสำหรับผู้เล่นมือใหม่ที่เพิ่งเข้ามาในจักรวาลของเกมนี้อาจจะรู้สึกประหลาดกับมอนสเตอร์ที่มีหน้าตารูปร่างแปลกไปจากเกมอื่น ๆ เป็นอย่างมาก ซึ่งผู้เขียนต้องขอบอกก่อนว่าดีไซน์มอนสเตอร์เหล่านี้เรียกได้ว่าเป็นเอกลักษณ์ประจำค่ายนี้ไปเรียบร้อยแล้ว โดยสิ่งที่ผู้เล่นควรจะต้องคำนึงถึงก็คือมอนสเตอร์เหล่านี้มีดีไซน์ที่ถูกอ้างอิงว่าพวกมันคือปีศาจ ฉะนั้นดีไซน์ของพวกมันจึงได้ดูแปลกตาไปจากปกติพอสมควร

ผู้เล่นสามารถเชิญชวนพวกมันเข้าทีมได้ด้วยการเผชิญหน้ากับพวกมันในการต่อสู้ และกดพูดคุยเพื่อที่จะชักชวนพวกมันซึ่งผู้เล่นจะต้องตอบคำถามให้ถูกใจพวกมัน รวมไปถึงผู้เล่นจะต้องให้ของกำนัลพวกมัน ซึ่งหลาย ๆ ครั้งมอนสเตอร์เหล่านี้จะเรียกร้องของกำนัลที่ค่อนข้างโหดไปบ้าง ซึ่งเราสามารถเจรจาต่อรองได้! และเมื่อทุกอย่างลงตัวมอนสเตอร์เหล่านั้นก็จะมาเข้าร่วมทีมของผู้เล่นทันที

อีกหนึ่งจุดเด่นที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือการรวมร่างของเหล่ามอนสเตอร์เหล่านี้เพื่อก่อกำเนิดมอนสเตอร์ตัวใหม่ ๆ ให้เราได้นำมาใช้งาน ซึ่งระบบนี้ถือว่าเป็นระบบที่โดดเด่นที่สุดภายในเกมซีรีส์นี้เลยก็ว่าได้ โดยผู้เล่นสามารถนำมอนสเตอร์ที่ชวนมาร่วมทีมมาทำการรวมร่างกันเพื่อให้กลายเป็นมอนสเตอร์ที่แข็งแกร่งขึ้น ซึ่งมีมอนสเตอร์จำนวนมากที่ผู้เล่นสามารถหาได้ผ่านการรวมร่างเท่านั้น โดยนอกเหนือจากความแข็งแกร่งแล้วลักษณะของมอนสเตอร์ก็จะมีความอลังการมากขึ้นไปตามลำดับ อีกทั้งมอนสเตอร์ที่ถูกรวมร่างออกมานี้จะมีการนำสกิลของมอนสเตอร์ตัวต้นร่างมาด้วย ทำให้มอนสเตอร์เหล่านี้แข็งแกร่งขึ้นทั้งในแง่ของค่าสถานะ และสกิลที่มีมากขึ้นตามไปด้วยนั่นเอง ซึ่งจุดนี้เองทำให้มองว่าเกมนี้เป็นอีกหนึ่งเกมที่ผู้เล่นจะต้องใช้เวลาภายในเกมนี้เยอะมาก ๆ

สำหรับผู้เล่นที่มีความกังวลว่าระบบการรวมร่างมอนสเตอร์ภายในเกมนี้เป็นระบบสุ่มหรือไม่ รวมไปถึงผู้เล่นต้องคอยจดบันทึกหรือไม่ว่าการนำมอนสเตอร์ A มาผสมกับมอนสเตอร์ B ผลออกมาจะเป็นมอนสเตอร์แบบใด ก็ไม่ต้องกังวลใจไป เพราะว่าเกม Shin Megami Tensei V: Vengeance มีข้อมูลทุกอย่างเปิดเผยให้เราได้เห็นอย่างชัดเจนทำให้ระบบการรวม มอนสเตอร์ของเกมนี้ใช้งานได้ง่ายมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่ที่เพิ่งเข้ามาเล่นหรือมือเก่าที่ขาดการเล่นเกมซีรีส์นี้ไปนานก็ไม่ต้องใช้เวลาทำความเข้าใจนานจนเกินไป ซึ่งโดยรวมแล้วระบบนี้ทำให้เกมดังกล่าวกลายเป็นเกมที่โดดเด่นขึ้นอย่างมากในตลาดเกมในปัจจุบันครับ

โลกกึ่งเปิดกว้างที่มีอะไรให้เราได้สำรวจเยอะมาก ๆ

อีกหนึ่งองค์ประกอบที่ผู้เขียนยังคงยืนยันว่าเกมซีรีส์นี้โดดเด่นมาก ๆ ก็คือความเปิดกว้างของแผนที่ที่แม้ว่าเกมนี้จะไม่ได้เป็นเกม Open-World แบบเต็มตัวแต่พื้นที่ที่มีให้สำรวจนั้นก็มีเยอะมาก ๆ เลยทีเดียว  โดยนอกจากพื้นที่ที่ผู้เล่นจะได้ออกสำรวจผ่านช่องทางต่าง ๆ ที่แอบซ่อนไว้จำนวนมาก ภายในแผนที่จะยังมีเควสให้เราได้เลือกทำอยู่อีกจำนวนพอสมควรเลยทีเดียว ซึ่งเควสเหล่านี้ก็เป็นการเติมสีสันและคุณค่าในการเล่นเกมนี้ให้สูงขึ้นไปอีกขั้น

นอกจากนี้ อย่างที่ได้พูดไปในข้างต้นแล้วว่าในพื้นที่เหล่านี้ก็จะมีมอนสเตอร์ที่กระจัดกระจายตัวให้เราได้พบเจอและเรียกพวกมันเข้าทีมได้อีกด้วย ทำให้การสำรวจในพื้นที่แต่ละพื้นที่จะต้องใช้เวลาไม่น้อยเลยทีเดียว ซึ่งจุดนี้เองถือว่าเป็นจุดเด่นที่ผู้เขียนค่อนข้างมั่นใจว่าผู้เล่นหลายหลายคนจะต้องชื่นชอบ

อย่างไรก็ตามหากผู้เล่นคนดังกล่าวไม่ใช่สายสำรวจต้องการพุ่งตรงไปหาปลายทางอย่างเดียวเพื่อดำเนินเรื่องต่ออาจจะเล่นเกมนี้ได้ลำบากเสียหน่อย เพราะว่าตัวเกมจำเป็นที่จะต้องให้ผู้เล่นทำการฟาร์มเลเวลมอนสเตอร์บ้าง รวมไปถึงนำมอนสเตอร์ เหล่านั้นมารวมร่างกันเพื่อให้เกิดมอนสเตอร์ใหม่ที่แข็งแกร่งมากพอที่จะไปต่อสู้กับบอสประจำพื้นที่ได้

อีกสิ่งหนึ่งที่อาจเป็นอุปสรรคของผู้เล่นยุคใหม่เล็กน้อยก็คือ ตัวนำทางการทำเควสภายในเกมนี้ที่ไม่ได้มีบ่งบอกชัดเจนว่าผู้เล่นจะต้องวิ่งไปยังพื้นที่ใด (ในบางเควส) รวมไปถึงไม่ได้มีลูกศรนำทางที่ชัดเจนว่าผู้เล่นจะต้องวิ่งไปทางใดเพื่อทำเควสต่อให้เรียบร้อย สิ่งที่ผู้เล่นจะต้องทำก็คืออ่านข้อความของเควสให้ชัดเจนเพราะคำอธิบายเควสค่อนข้างที่จะให้ข้อมูลครบถ้วนอยู่แล้ว เพียงแต่บางครั้งไม่ได้มีไกด์นำทางที่ชัดเจนเหมือนกับเกมยุคใหม่นั่นเอง ซึ่งจุดนี้ผู้เขียนมองว่าเป็นจุดท้าทายสำหรับผู้เล่นยุคใหม่แต่สำหรับผู้เล่นมือเก่าแล้วบอกเลยว่าแค่นี้จิ๊บ ๆ ครับ

ระบบปลีกย่อยที่น่าสนใจอีกเพียบ

นอกจากนี้ภายในเกมดังกล่าวยังมีระบบปลีกย่อยให้ผู้เล่นได้ใช้งานอีกเยอะมาก ๆ ที่ผู้เขียนมองว่าเป็นสิ่งที่ทำให้เกมนี้น่าเล่นมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นระบบ Magatsuhi Skills ที่เปรียบเสมือนกับท่าไม้ตายของตัวละครของผู้เล่น, ระบบเรียนรู้สกิลของมอนสเตอร์ต่าง ๆ ผ่าน Essence, ระบบสกิลพิเศษที่จะทำให้ผู้เล่นออกผจญภัยในโลกนี้ได้ง่ายขึ้น, ระบบเซฟที่สามารถเซฟที่ไหนก็ได้, ระบบ Demon Haunt ที่เปรียบเสมือนกับที่พักของผู้เล่นที่ผู้เล่นจะได้เข้าไปในพื้นที่นี้เพื่อพูดคุยกับมอนสเตอร์ที่เรามีอยู่ในทีมได้ด้วย ซึ่งระบบเหล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ผู้เขียนได้ยกตัวอย่างขึ้นมาเท่านั้นเพราะภายในเกมนี้ยังมีระบบต่าง ๆ ให้ผู้เล่นได้ปรับแต่งและใช้งานอีกเยอะมาก ๆ ซึ่งโดยรวมแล้วจะทำให้ประสบการณ์การเล่นเกมของผู้เล่นในครั้งนี้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดอย่างแน่นอน

สรุปรีวิว

สำหรับเกมนี้ผู้เขียนก็ยกให้เป็นอีกหนึ่งเกมที่ต้องเล่นจริง ๆ ครับ ด้วยเอกลักษณ์ของเกมที่โดดเด่น รวมไปถึงเนื้อหาที่เข้มข้นที่ในตอนนี้มีมากถึง 2 เส้นเรื่องให้เราได้ผจญภัยยิ่งทำให้เกมนี้มีคุณค่าในการเล่นมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงระบบต่าง ๆ ของเกมที่โดดเด่นเล่นได้เพลิดเพลินไม่มีเบื่อ ก็ยิ่งทำให้เกมนี้ทรงคุณค่ามากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตามอาจจะมีข้อที่ต้องระวังเล็กน้อยก็คือในเรื่องของภาษาที่หากใครไม่เก่งภาษาอังกฤษอาจจะมีเกาหัวไปบ้าง ซึ่งผู้เขียนก็ขอเป็นกำลังใจให้นะครับ

ส่วนตัวผู้เขียนขออนุญาตให้คะแนนเกมนี้ที่ 9.5 เต็ม 10 ครับ ผู้เขียนขอย้ำว่า รีวิวนี้ รวมถึงคะแนนนี้เป็นมุมมองของผู้เขียนเท่านั้น แฟนเกมคนอื่น ๆ อาจจะมีมุมมองที่แตกต่างกันก็ได้ครับ

จุดเด่น

– เนื้อเรื่องใหม่ที่ถูกเพิ่มเข้ามาให้ได้เล่นกัน

– กราฟิกที่สวยงามขึ้น รายละเอียดโมเดลดีขึ้น

– ระบบออโต้ที่ AI ที่ฉลาดในระดับหนึ่ง

– ระบบจับและรวมร่างมอนสเตอร์ยังโดดเด่นเช่นเคย

– การสำรวจโลกที่มีอะไรให้ทำเยอะมาก ๆ

– ระบบปลีกย่อยที่ถูกอัปเกรดให้ดีขึ้น

ข้อสังเกต

– ไม่มีระบบนำทางเวลาทำเควส ทำให้ผู้เล่นที่อาจจะไม่ถนัดภาษาอังกฤษเล่นเกมได้ลำบากไปบ้าง

– ระบบนำทางเควสที่ยังไม่ได้อำนวยความสะดวกให้ผู้เล่นยุคใหม่เท่าไหร่นัก

สุดท้ายนี้ขอขอบคุณ SEGA

ที่เอื้อเฟื้อและสนับสนุนเกมมาให้เราได้รีวิวในครั้งนี้ด้วยครับ ส่วนครั้งหน้าจะเป็นเกมอะไรนั้น โปรดติดตามกันได้เลย…

ใครที่สนใจก็สามารถสั่งซื้อเกมได้ที่ :  [คลิก] 

ภาพสกรีนช็อตเพิ่มเติม

ผู้อ่านคนใดต้องการติดตามรีวิว / พรีวิวเกมอื่น ๆ ของ This Is Game Thailand ก็สามารถมาได้ที่นี่ครับ >>>คลิก<<<