[รีวิว] Project CARS 3 เกมแข่งรถภาคต่อที่มาพร้อมรถให้เลือกกว่า 200 คัน

ในปัจจุบันตลาดเกมแนว Racing ถือว่ามีการเปิดกว้างอย่างมาก และตอนนี้ก็ได้เวลาที่จะได้พบกับการมาถึงอีกครั้งของเกมชื่อดังในภาคใหม่อย่าง Project CARS 3 เกมแข่งรถที่มาพร้อมกับรถที่ให้ได้เลือกกว่า 200 คัน พร้อมระบบการปรับแต่งต่าง ๆ มากมายที่รอให้ทุกคนได้สัมผัสอยู่

Project CARS 3 มาพร้อมกับโหมดต่าง ๆ ที่น่าสนใจที่ยังคงได้สืบทอดมาจากเกมภาคก่อนและได้มีการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น และหากพิจารณาดูให้ดีจะพบว่าทางทีมงานผู้พัฒนามีการหยิบยกข้อดีจากเกมแข่งรถที่มีในตลาดอยู่ในตอนนี้ออกมาได้เป็นอย่างดี

มาว่าที่โหมดผู้เล่นคนเดียวกันบ้างอย่างโหมด Career จะเป็นโหมดที่เราจะเสียเวลาไปกับมันมากที่สุด โดยการเล่นภายในโหมดนี้เราจะได้รับประสบการณ์ในการแข่งขันรถรายการต่าง ๆ เริ่มตั้งแต่ GT, Formula E ไปถึงการแข่งในรถแต่งก็มีให้ได้เล่นกัน โดยการเข้าแข่งขันในรายการต่าง ๆ จะมีความต้องการที่แตกต่างกันไปโดยมากแล้วจะเป็นพวกชิ้นส่วนรถที่ต้องได้ตามต้องการ

นอกจากนี้เรายังต้องการ XP สำหรับการเข้าเล่นและเพื่อเก็บเปาหมายต่าง ๆ โดยเจ้าสิ่งนี้จะช่วยทำให้ได้สนุกกับการเล่นได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการจบการแข่งด้วยเวลาที่กำหนด หรือจะเป็นการดริฟต์ในรูปแบบที่แตกต่างไป ซีงการทำได้ตามเป้าหมายจะช่วยให้เราได้ค่า XP ที่มากตามไป

อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะมีรถให้ได้เล่นกว่า 200 คัน แต่การที่จะปลดล็อคอาจจะไม่ได้ง่ายมากนะ เพราะการปลดล็อคด้วยกันสองวิธีคืออย่างแรกคงหนีไม่พ้นการแข่งขันในรายการต่าง ๆ แล้วปลดล็อคออกมา หรืออย่างที่สองก็คือการอัปเกรดหรือดาวน์เกรดชิ้นส่วนรถของเราที่มีอยู่ เพื่อให้ตรงกับความต้องการในการแข่งสำหรับการปลดล็อคนั่นเอง

นอกจากนี้ยังเป็นครั้งแรกที่เกม Project CARS 3 มาพร้อมกับระบบการอัปเกรดตัวรถหลังจากที่ซื้อไปเรียบร้อยแล้ว การปรับแต่งส่วนประกอบในแต่ละส่วนของรถจะส่งผลให้เหมือนกับการปรับแต่งในโลกของความเป็นจริง ปรับได้หมดตั้งแต่โครงรถไปจนถึงป้ายทะเบียน

ซึ่งหากเรานำไปเทียบกับ Project CARS 2 ในส่วนนี้ถือว่ามีการเพิ่มจำนวนรถให้มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม จากเดิมที่มีเพียง 189 คัน ตอนนี้ในเกม Project CARS 3 ได้มีการเพิ่มขึ้นมาถึง 211 คัน อย่างไรก็ตามมีเพิ่มก็ย่อมมีลดลงไปซึ่งนั่นก็คือในส่วนของสนามการแข่งขันที่มีนั่นเอง โดยแต่ละคันก็ล้วนแล้วแต่มาจากแบรนด์ชื่อดังทั้งสิ้น

สนามแข่งภายในเกมมีสถานที่ที่แตกต่างกันกว่า 50 แห่งทั่งโลก ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันในทวีปต่าง ๆ ตั้งแต่ยุโรปไปถึงเอเชีย ซึ่งการที่มีสนามให้ได้เล่นมากมายขนาดนี้จะช่วยให้เราได้รับประสบการณ์ในแต่ละสนามที่ราวกับได้ไปที่จริง แน่นอนว่าระบบสภาพอากาศภายในเกมก็มีการทำออกมาได้เป็นอย่างดี

Project CARS 3 ได้มีการปรับปรุงในเรื่องของประสบการณ์ในการเล่นแต่ละสนามเข้าไปแทนทดแทนจำนวนของสนามแข่งขันทั่วโลกที่ลดลงมาจากเดิมใน Project CARS 2 ที่มีสนามกว่า 63 แห่ง โดยเหลือเพียง 51 แห่ง แต่ก็มีการทดแทนในรูปแบบการเล่นที่แต่ละสนามที่มีความน่าสนใจมากขึ้น

ในส่วนของโหมดการเล่นทั่ว ๆ ไปก็ถือว่าทำออกมาได้น่าสนใจ เพราะเราจะได้จัดการในการแข่งขันต่าง ๆ ได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการวางแผนในแต่ละสนามว่าจะออกมาในทิศทางใด ซึ่งการแข่งในส่วนนีเจะทำให้เราได้ค่าต่าง ๆ มาใช้งานในส่วนอื่น ๆ ด้วย

การเล่นในโหมดออนไลน์ภายในเกม Project CARS 3 ทำออกมาได้น่าสนใจอย่างมาก เราจะได้แข่งขันและได้รับประสบการณ์ที่ท้าทายกว่าการเล่นกับ AI ในโหมดทั่วไป อีกทั้งยังจะได้แต้มสำหรับการนำไปอัปเกรดและปลดล็อคสิ่งต่าง ๆ ภายในเกมได้มากกว่าเดิม

บทสรุปของ Project CARS 3 ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเกมแข่งรถที่ทำออกมาได้น่าสนใจและดึงดูดผู้เล่นหน้าใหม่ได้เป็นอย่างดี ตอบโจทย์ทั้งการเล่นในโหมดผู้เล่นคนเดียวและออนไลน์ ใครที่กำลังมองหาเกมแข่งรถตัวใหม่ที่แตกต่างจากสิ่งที่มีอยู่ก็ขอให้ได้มาลองกับ Project CARS 3 ได้เลย

จุดเด่น

– มีรถให้เลือกกว่า 200 คัน

– มาพร้อมกับสนามในการแข่งขันที่หลากหลาย

– โหมดการเล่นผู้เล่นคนเดียวทำออกมาให้มีฟีเจอร์น่าเล่นอันหลากหลาย

– การเล่นออนไลน์มาพร้อมกับการเชื่อมต่อที่เป็นอย่างดี

– ระบบปรับแต่งรถที่ชวนให้ผู้เล่นได้ใช้ความสามารถในการปรับแต่ง

จุดสังเกต

– ความโดดเด่นของรถแต่ละคันที่อาจจะไม่มีมากนัก

สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณ BANDAI NAMCO Entertainment ที่เอื้อเฟื้อและสนับสนุนเกมมาให้เราได้รีวิวกันในครั้งนี้ด้วยครับ และหากใครต้องการซื้อเกมนี้ไปเล่น สามารถสั่งซื้อได้ที่นี่เลย  >>คลิก<<