Switchข่าวคอนโซล / พีซีรีวิวรีวิว / พรีวิวเกม

[รีวิว] Princess Peach Showtime เมื่อเจ้าหญิงต้องไปผจญภัยในโรงละคร

กลับมาเป็นตัวละครนำอีกครั้งในรอบเกือบ 20 ปีเลยทีเดียว

ใครว่าผู้หญิงจะไม่สามารถเป็นช้างเท้าหน้าได้คงต้องเปลี่ยนคำพูดเพราะบทบาทของสตรีในปัจจุบันได้เปลี่ยนจากเดิมสู่ความเท่าเทียมมากขึ้น เช่นเดียวกับการตีความของตัวละคร Peach เจ้าหญิงที่มักจะโดนตัวร้ายจับตัวไปตลอด แต่ในปี 2005 เธอก็ได้ฉีกแนวครั้งแรกกับเกม Super Princess Peach ไปแล้ว ทว่านั่นคือครั้งเดียวที่เจ้าหญิงคนเก่งของเราได้รับบทนำ จนกระทั่งการมาถึงของ The Super Mario Bros. Movie ที่เราได้เห็นมุมแข็งแกร่งของ Peach

Princess Peach Showtime เป็นเหมือนกับการตอกย้ำภาพลักษณ์ใหม่ของ Peach ที่อาจจะวางรากฐานให้บทบาทของตัวละครนี้ในอนาคตเพื่อเสริมความเป็นสมัยใหม่ และโละทิ้งความเชื่อเดิมๆ ว่าผู้หญิงจะต้องเป็นตัวรอง ทว่าเวลาเดียวกันการให้ความสำคัญด้านความรู้สึกและความอ่อนโยนแบบที่ผู้ชายให้ไม่ได้ ก็ยังคงอยู่เพียบพร้อม ซึ่งวันนี้ ThisIsGame Thailand จะพาทุกคนไปผจญภัยในดินแดนแห่งแสงสีกับเจ้าหญิงกันในรีวิวใหม่ ว่าแล้วอย่ารอช้าเชิญติดตามได้เลย

รีวิว Princess Peach Showtimes รีวิว Princess Peach: Showtime!

การนำเสนอ

ถึงจะเป็นเกมจากจักรวาลของเกม Super Mario แต่เราก็จะพบว่าไม่ได้มีการพูดถึงตัว Mario ในเนื้อหาแคมเปญหลักแต่อย่างใด และดูไม่ขัดเขินสักเท่าไรด้วย โดยเรื่องราวจะเกี่ยวข้องกับเจ้าหญิง Peach ที่พบกับใบปลิวของโรงละครแห่งหนึ่งแล้วอยากไปชมการแสดงก็เลยเดินทางกันไปกับเหล่าหัวเห็ด Toad ในฐานะบอดี้การ์ด ทว่าก็เกิดเจอกับการรุกรานของปีศาจปริศนาจนทำให้เธอต้องติดอยู่ในโรงละครพร้อมกับ Stella พรรคพวกใหม่ซึ่งเป็นจิตวิญญาณแห่งการแสดงนั่นเอง

เมื่อเรื่องเกริ่นนำได้จบลง ผู้เล่นก็จะมีอิสระในการเลือกเข้าไปยังละครเวทีเรื่องต่างๆ เพื่อเคลียร์ให้ครบและปลดล็อกแอเรียต่างๆ เป็นส่วนๆ จากช่วงแรกก็จะมีละครเวทีสี่เรื่อง แต่ละเรื่องเจ้าหญิงจะต้องสวมบทบาทที่ไม่เหมือนกัน โดยเรื่องแรกจะเป็นอัศวินนักดาบที่มีสกิลในการต่อสู้ฟาดฟันศัตรู จากนั้นก็จะเปิดทางให้เราเข้าเล่นเรื่องอื่นแบบไม่ต้องเรียงลำดับ ทั้งนี้เมื่อเคลียร์ในส่วนของละครเวทีแต่ละชุดครบก็จะมีการเล่าเนื้อหาในบทต่อๆ ไป ถือว่าแม้จะให้อิสระในการเลือกปลดล็อกสกิลแต่ก็ยังจัดว่าเป็นเกมผจญภัยที่มีความเป็นเส้นตรงไม่น้อยเหมือนกัน

รีวิว Princess Peach Showtimes รีวิว Princess Peach: Showtime!

เนื้อหาถูกออกแบบมาให้สามารถเล่าเรื่องราวได้ด้วยตัวเองแบบไม่ต้องพึ่งพิงความรู้ของเกม Super Mario เก่าๆ มาก่อน และเราจะได้เห็นเจ้าหญิงผจญภัยแบบเต็มๆ เลย ซึ่งตรงนี้คาดว่าเป็นการตอกย้ำภาพของเจ้าหญิงในเวอร์ชันภาพยนตร์ที่เคยสร้างตำนานนักบู๊กันมาแล้วในปี 2023 ที่ผ่านมา เพราะสัญลักษณ์การแสดงออกของเธอใน Princess Peach Showtime ถูกถ่ายทอดมาในฐานะของความกล้าหาญนั่นเองครับ กระนั้นความขี้เล่นอ่อนหวานยังคงมีเหมือนเดิม เช่น เราสามารถสไลด์จากราวบันไดลงมาได้ เป็นสิ่งที่ไม่คิดว่าจะใส่เข้ามาด้วยนะเนี่ย!

เกมเพลย์เข้าใจง่าย หยิบมาเล่นเมื่อไรก็ได้

เราสามารถควบคุมเจ้าหญิง Peach ได้ในสองพาร์ตหลักๆ คือ พาร์ตแรกจะเป็น Hub World นั่นคือโรงละครที่ผู้เล่นจะได้วิ่งวนไปมาเพื่อเข้าไปยังละครเวทีเรื่องต่างๆ ตรงส่วนนี้เป็นพื้นที่กว้างๆ ให้เราสำรวจ พูดคุยกับ NPC หรือซื้อของปลดล็อกเสื้อผ้า (จะกล่าวในส่วนถัดไป) ส่วนพาร์ตต่อมาคือการเข้าสู่โรงละคร ซึ่งละครเวทีจะมีสองช่วงคือช่วงเปิดเรื่องเป็นคัตซีนสั้นๆ และพื้นที่ให้เราเดินสำรวจ ‘ในชุดเจ้าหญิง’ ก่อนที่จะได้แปลงโฉมเป็นตัวละครหลักในเรื่องนั้นๆ ด้วยคอสตูมพิเศษอย่างนักดาบ คาวบอย เจ้าแห่งกังฟู และนางเงือก!

ช่วงที่เราควบคุมตัวละคร Peach ในตอนเปิดเรื่องละครเวที ผู้เล่นจะสามารถใช้พลังริบบิ้นในการต่อสู้กับศัตรูได้ โดยเราจะเห็นว่าเวลาสู้กับพวกมันแล้ว Peach จะไม่ได้โจมตีตรงๆ แต่ใช้ริบบิ้นในการสบัดปลดอาวุธแล้วศัตรูก็จะวิ่งหนีไป เรียกได้ว่าความรุนแรงเป็นศูนย์​แทบจะไม่เห็นการทำดาเมจแบบเจ็บตัวเลย ซึ่งก็ไม่ใช่จะไม่มีเสียทีเดียว เพียงแค่เห็นชัดแบบรู้สึกได้ ทั้งนี้ไฮไลต์จะเริ่มต้นขึ้นเมื่อถึงฉากที่เราต้องแปลงร่าง เพราะมูฟเซ็ตท่าทางจะเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง

เมื่อ Peach ต้องสวมบทบาทเป็นตัวละครในละครเวทีแล้ว ท่าทางของเธอจะเปลี่ยนจากเจ้าหญิงธรรมดาเป็นตัวละครนั้นๆ เช่นการเดิน การโจมตี และในบางด่านก็จะเป็นเหมือนกับมินิเกมให้เล่นยาวๆ เช่น คาวบอยไล่ขี่ม้าตามหาโจร เจ้าหญิงนางเงือกก็ต้องร้องเพลง หรือการเป็นฮีโร่ที่จะได้ขี่เครื่องบินไล่ล่าศัตรู ปิดท้ายด้วยบอสหรือไม่ก็มินิเกมก่อนตัดจบที่ไม่ยากจนเกินไป และยังคงความเป็น ‘แฟรนไชส์ Mario’ ด้วยวิธีการต่อสู้ที่ครีเอต

รีวิว Princess Peach Showtimes รีวิว Princess Peach: Showtime!

ปริมาณคอนเทนต์จัดเต็ม

นอกเหนือไปจากการตะลุยด่านแล้ว คอนเทนต์ของเกมใส่มาได้แบบเต็มอิ่มเลยครับ ซึ่งเต็มอิ่มในที่นี้ขอกล่าวถึงเรื่องปริมาณเพราะจะมีอะไรให้ทำเยอะมาก แม้ตัวละครเวทีแต่ละพาร์ตจะสั้นๆ ใช้เวลาเคลียร์แต่ละเรื่องได้ไม่นาน แต่ก็จะมีภารกิจท้าทายให้ปลดล็อกไว้ใช้สกิลเหล่านั้นยาวๆ สำหรับใครที่รู้สึกว่าอยู่ในช่วงแปลงร่างน้อยเกินไป นอกจากนี้ยังมีไอเทมอื่นๆ ให้เราได้ปลดล็อก อาทิลวดลายสกินต่างๆ ที่มีตั้งแต่ลายสก็อต, ลายจุด หรือสีทูโทน อันหลังนี้ขอบอกว่าสวยมากกก ดูเข้ากับเจ้าหญิงมากกว่าสีชมพูล้วนปัจจุบันอี๊ก

อีกหนึ่งสิ่งที่จะทำให้แต่ละการเข้าเล่นละครเวทีมีความท้าทายก็คือ ในเนื้อเรื่องจะมี ‘ดาว’ ให้เราเก็บเรื่องละประมาณ 10 ดวง ซึ่งจะแอบซ่อนอยู่ตามจุดต่างๆ หรือต้องทำแอ็กชันใดๆ ให้ถูกมันถึงจะโผล่มา คิดเสียว่าเป็นเหมือนไซด์เควสต์ให้ปลดล็อก ตรงนี้ก็น่าจะต้องใช้เวลานานเหมือนกันครับเพราะถ้าพลาดเราต้องวิ่งใหม่ตั้งแต่ต้น! ฉันใดก็ดีด้วยความที่การผจญภัยมันค่อนข้าง bite-sized หรือมีขนาดเล็ก เลยไม่ถือว่าเหนือบ่ากว่าแรง

รีวิว Princess Peach Showtimes รีวิว Princess Peach: Showtime!

กราฟิก

ตัวเกมรันด้วย Unreal Engine 4 และถือเป็นเกมแรกๆ ของ Nintendo ที่ใช้เอนจิ้นนี้แบบเต็มตัว ซึ่งภาพที่ได้รับนั้นสวยงามแบบตะโกน หรือแบบโฮ่งเลยดีกว่า เพราะถ้าสังเกตให้ดีจะมีหลายช่วงที่สลับคัตซีนเข้าตัวเกมเพลย์แบบเรียบเนียนสุดๆ เพราะคุณภาพโมเดลในเกมหลักก็ก้าวกระโดดขึ้นมาด้วย เช่นลายเสื้อบนตัวของเจ้าหญิงก็จะเห็นว่ามีตะเข็บแล้ว และเส้นผมเองแม้จะไม่ได้เรนเดอร์มาเป็นเส้นๆ แต่ก็ทำดีขึ้นกว่ายุคของ Odyssey อีก ทั้งนี้รู้สึกว่า Luigi’s Mansion 3 ยังคงยืนหนึ่งอยู่นะ และอีกจุดที่ชวนเสียอารมณ์คือบางครั้งอาจเจอเฟรมตกได้

บทสรุป Princess Peach Showtime

Princess Peach Showtime เป็นการผจญภัยครั้งใหม่ที่สดชื่นและเล่นกันได้เพลินๆ สำหรับแฟนเกม Mario ที่อยากเปลี่ยนแนวจากลุงหนวดมาเป็นเจ้าหญิงที่ขอลุยเอง และการพลิกบทให้เจ้าหญิงได้มาเป็นตัวนำอีกครั้งนับตั้งแต่ยุค Nintendo DS ถ้าถามมุมมองจากตัวผมเองแล้วว่ามันดูอิมแพกต์ไหม คิดว่าอาจจะไม่เท่ายุคนั้นที่มีเสียงฮือฮา แต่ถ้าพูดในแง่ของความสนุกคิดว่าจัดเต็มและเข้าถึงง่ายกว่าภาคที่แล้วแน่นอนครับ

รีวิว Princess Peach Showtimes รีวิว Princess Peach: Showtime!

ปัจจุบันตัวเกมเปิดให้เล่นแล้วบน Nintendo Switch พร้อมรองรับการใช้งานตั๋ว NSO Game Voucher ด้วย ใครที่กำลังมองหาเกมน่ารักๆ เล่นได้ทุกเพศทุกวัยไม่ควรพลาด ที่สำคัญยังมี เดโมฟรีให้ดาวน์โหลดบน eShop เช่นกัน ถือเป็นอีกเกมที่เปิดปีใหม่ของปู่นินได้อย่างน่าสนใจ ส่วนโอกาสหน้านั้น ThisIsGame Thailand จะมีอะไรมาอัปเดตให้ฟังอีก ว่าแล้วอย่าลืมติดตามที่นี่เช่นเคยครับผม

GantaroZX

นักเขียนข่าววิดีโอเกมที่ปากร้ายที่สุดในประเทศไทย | ผู้ใหญ่บ้านแห่ง Animal Crossing | กินเก่ง
Back to top button