รีวิวเกม | MX vs ATV Legends

• ผู้พัฒนา : Rainbow Studios
• ผู้จัดจำหน่าย : THQ Nordic
• แนวเกม : Racing, Sports
• ขนาดไฟล์ :  35 GB 
• ดูข้อมูลเพิ่มเติม คลิกที่นี่

สำหรับใครที่กำลังมองหาความเร้าใจในความเร็วที่ต่างไปจากการแข่งขันในสนามทางเรียบ ต้องห้ามพลาดจากเกมใหม่ล่าสุดจาก THQ Nordic ในชื่อ MX vs ATV Legends เกมแข่งรถวิบากที่ผู้เล่นสามารถที่จะเลือกประเภทของรถที่ใช้งานได้หลากหลายแบบไม่ว่าจะเป็นมอเตอร์ไซค์วิบาก รถ ATV หรือรถ UTV ตะลุยไปในสนามแข่งขันหลากสไตล์พร้อมโหมดขับชิลให้ลองฝึกทักษะ จะมีอะไรที่น่าสนใจภายในเกมบ้างเราไปหาคำตอบพร้อม ๆ กันเลย

ลุยได้ครบจบในเกมเดียว

ตามปกติแล้วหากเป็นเกมแข่งรถทั่ว ๆ ไปก็มักที่จะมีการแบ่งประเภทของตัวเกมเอาไว้ชัดเจนว่าเป็นมอเตอร์ไซค์หรือรถยนต์ แต่ด้วยความที่ตัวเกม MX vs ATV Legends ที่เป็นการนำเสนอมุมมองของการแข่งรถสไตล์วิบากทำให้เราสามารถที่จะได้เล่นในยานพาหนะที่เหมาะสำหรับการแข่งขัน ฉะนั้นภายในเกมเราสามารถที่จะรับประสบการณ์ในการขับขี่ทั้งมอเตอร์ไซค์วิบาก รถ ATV และรถ UTV

สามารถที่จะสนุกได้ไม่ว่าจะเป็นสองล้อหรือสี่ล้อ พร้อมเอกลักษณ์และการควบคุมตัวรถที่แตกต่างกันไป การที่เราขับมอเตอร์ไซค์วิบากได้ดี ไม่ได้หมายความว่าเราจะสามารถเล่นรถ ATV หรือ UTV ได้โดยที่ไม่ต้องปรับตัว เนื่องจากลักษณะที่แตกต่างกันไป จุดถ่วงของตัวรถ ส่วนประกอบต่าง ๆ มีให้เลือกหลากหลาย ทำให้ต้องมีการปรับตัวทุก ๆ ครั้งที่ได้เล่น

สนามหลากหลายแข่งได้ไม่มีเบื่อ

อีกหนึ่งสิ่งที่เป็นตัวชี้วัดว่าเกมแนวแข่งรถจะสนุกหรือไม่คงหนีไม่พ้นเรื่องของสนามแข่ง ที่ต้องมีความหลากหลายและปรับมาให้เหมาะกับประเภทรถที่ทำการแข่งขัน ภายในเกมจะมีการแบ่งสนามที่แตกต่างกันไปตามแต่รถที่ใช้งาน และทุก ๆ ครั้งจะมีจุดแซง จุดโค้ง และที่ขาดไม่ได้คือเนินสำหรับการเล่นท่าทางที่เป็นของคู่กันสำหรับการแข่งรถแนววิบากให้ไม่ซ้ำกัน และคงจะเป็นการไม่พูดเกินเลยหากจะบอกว่าการเล่นแต่ละสนามเพียงแค่รอบเดียวแล้วจะกลายมาเป็นที่หนึ่งคงไม่ใช่เรื่องที่ง่ายนัก

กราฟิกภายในเกมสมจริงราวกับไปอยู่ในแทร็ก

ระบบการเล่นภายในเกมไม่มีอะไรที่ซับซ้อนใช้คีย์บอร์ดและจอยเล่นได้โดยไม่ต้องปรับแต่ง แต่ระบบฟิสิกส์ภายในเกมถือว่าทำออกมาได้น่าสนใจ อย่างเรื่องของสภาพสนามหากเป็นโคลนจะทำให้รถของเราทำความเร็วได้ช้าลง ขณะเดียวกันยังส่งผลต่อการควบคุมรถที่ทำได้ยากขึ้น การเล่นท่าทางขณะที่เหินหาวมีระบบฟิสิกส์อยู่ในระดับดี อาจจะมีบางจุดที่เรางงว่าทำไมถึงหยุดเฉย ๆ ไปเลยแทนที่จะมีการตอบสนองแบบอื่น แต่ท่าทางส่วนใหญ่และการตอบสนองค่อนข้างที่จะเป็นไปตามที่เราหวัง

ในส่วนของบรรยากาศภายในสนามทำออกมาได้น่าสนใจ ดูมีชีวิตชีวาส่งผลให้การเล่นภายในเกมไม่รู้สึกเบื่อ สนุกไปกับการเล่นในแต่ละสนามพร้อมความท้าทายที่เพิ่มขึ้น

ปรับแต่งได้ทั้งตัวรถและผู้เล่น

การปรับแต่งเป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์จำเป็นที่จะต้องมีให้ได้เลือกกันภายในเกมแนวนี้ MX vs ATV Legends มาพร้อมกับตัวเลือกในการปรับแต่งตัวละครของผู้เล่นได้ครบไม่ว่าจะเป็นหมวก เสื้อ ถุงมือ หรือใครที่อยากได้ความสะดวกก็สามารถที่จะซื้อเป็นสกินที่พร้อมสำหรับการใช้งานได้ ขณะเดียวกันสำหรับตัวรถมีการปรับแต่งให้เลือกไม่ต่างกัน แต่จะเพิ่มเติมในส่วนของส่วนประกอบภายในที่มีผลต่อตัวรถไม่ว่าจะเป็นเบรค โช๊ค ล้อและอื่น ๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะมีผลต่อการเล่นพอสมควร ใครที่เล่นอยู่ก็ควรที่จะเอาใจใส่ในเรื่องนี้เช่นกัน เพราะในจังหวะสำคัญหากเลือกใส่ของมาไม่ถูกต้องก็อาจจะทำให้แพ้ไปเลยก็เป็นได้

เอาชนะทุกอุปสรรคเพื่อก้าวขึ้นสู่ความเป็นที่หนึ่ง

ภายในเกมมาพร้อมกับโหมดหลัก ๆ ที่เราจะยกมาพูดแยกไปเลยนั่นคือโหมด Career ที่เราจะได้เลือกเล่นไปตลอดจนกว่าจะเบื่อก็ว่าได้ ภายในจะเป็นการแข่งขันในสนามต่าง ๆ พร้อมด้วยเก็บคะแนนไปในตัว เมื่อเราแข่งไปถึงจุดหนึ่งจะเป็นการสรุปอันดับ หากทำอันดับได้ดีก็มีโอกาสที่บรรดาผู้สนับสนุนจะเข้ามาสู่ตัวเรา พร้อมกับการได้เข้าไปแข่งในรายการพิเศษที่จัดขึ้น

อย่างไรก็ตามแม้ว่าเราจะมีรถพร้อมสำหรับการเล่นแล้วก็ตาม แต่ในช่วงเริ่มจะมีการบังคับให้เราต้องเล่นในแต่ละประเภทรถกันไปก่อน แต่ไม่นานหลังจากนั้นเราจะสามารถเข้าไปเล่นในโหมด Career ได้ทุกประเภทตามที่มีการกำหนดขึ้นมา หลังจากนั้นถึงจะเป็นช่วงเวลาที่เราได้สนุกอย่างแท้จริง

มาพร้อมโหมดการเล่นหลากหลายให้เลือก

ภายในเกมนอกจากโหมด Career ยังมีโหมด Exhibition ที่ภายในจะเป็นการแข่งแยกย่อยกันไปอย่าง Quickplay ที่เราสามารถเข้าไปเล่นในสนามต่าง ๆ ได้อย่างอิสระ หรือจะเป็น Time Trial แข่งจับเวลาเอาชนะใจตัวเอง เช่นเดียวกับโหมดออนไลน์ที่แบ่งเป็น Race Online เป็นการแข่งกับผู้เล่นอื่นตามปกติ และ Squad Compound ที่จะให้เราเข้าไปเล่นกับเพื่อน ๆ ได้โดยตรง

อีกหนึ่งโหมดที่น่าสนใจคือ Split Screen ที่ทำให้เราได้ย้อนกลับไปนึกถึงเกมแนวแบ่งจอได้เป็นอย่างดี แน่นอนว่าการมีโหมดนี้ขึ้นมาทำให้เราสามารถที่จะเล่นเกมพร้อม ๆ กับเพื่อนที่อยู่ข้าง ๆ เราได้ทันทีแบบไม่ต้องสนใจการเชื่อมต่อใด ๆ วัดกันไปให้รู้แบบไม่มีข้ออ้างว่าใครเก่งกว่ากัน