[รีวิว] Marvel’s Spider-Man: Miles Morales สำหรับชาวพีซี
ดื่มด่ำประสบการณ์กราฟิกที่หาไม่ได้จากที่อื่นนอกจากพีซี
หลังจากที่ประสบความสำเร็จกับเกมในภาคหลังนำมาสู่พีซี ล่าสุดก็ถึงเวลาแล้วที่ทาง Insomniac Games จะนำเพื่อนบ้านที่แสนดีของเราอีกหนึ่งชุดมาให้ชาวพีซีได้สัมผัสกันใน Marvel’s Spider-Man: Miles Morales ที่ยังคงเอาไว้ซึ่งความดีงามในแง่ของเนื้อเรื่อง การออกแบบตัวละครรวมไปถึงสิ่งที่ถูกปรับแต่งมาให้เฉพาะบนพีซีที่ห้ามพลาด
เมื่อเพื่อนบ้านที่แสนดีไม่ได้มีเพียงคนเดียว
เรามักจะคุ้นชินกับภาพของสไปเดอร์แมนที่ผู้อยู่ภายใต้หน้ากากคือปีเตอร์ ปาร์คเกอร์แต่แท้จริงแล้ว ยังมีอีกหนึ่งตัวละครที่ได้อยู่ภายใต้หน้ากากแมงมุมเช่นกัน และเขาคนนั้นมีชื่อว่าไมล์ โมราเลส ที่ถูกสร้างขึ้นมาครั้งแรกในปี 2011 บุคคลที่มีมุมมองการใช้ชีวิตที่ต่างไปจากตัวละครเดิมที่เรารู้จัก ซึ่งภายในเกม Marvel’s Spider-Man: Miles Morales ได้มีการอ้างอิงเรื่องราวจากจุดเริ่มต้นของตัวละครบางส่วนมาปรุงแต่งใหม่ให้ลงตัวยิ่งขึ้นในการนำเสนอออกมาในรูปแบบของเกม
เราจะเห็นได้ว่าในช่วงเริ่มของเกมไมล์ที่ยังคงเป็นเพียงฮีโร่หน้าใหม่ ที่เป็นเสมือนฮีโร่ฝึกหัดที่ยังคงต้องเรียนรู้หลาย ๆ สิ่งจากปีเตอร์พร้อมกับนับถือเขาอย่างมาก ฉากเริ่มที่เป็นการร่วมมือกันเพื่อจัดการหนึ่งในวายร้ายของสไปเดอร์แมนอย่างไรโนเผยให้เราได้เห็นความอ่อนประสบการณ์ของไมล์ชัดเจน ซึ่งเรื่องราวภายในเกมจะเป็นการมอบประสบการณ์ที่ให้เราได้เติบโตไปกับตัวละครและสร้างเอกลักษณ์ที่แตกต่างจากเพื่อนบ้านที่แสนดีออกไป
เมืองที่มีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น
ฉากหลังภายในเกม Marvel’s Spider-Man: Miles Morales ยังคงที่อยู่เมืองนิวนิวยอร์ก ตึกและถนนต่าง ๆ ยังคงเป็นสถานที่เดิมที่เราคุ้นเคยในเกมชุดก่อน อย่างไรก็ตามด้วยความที่ตัวเกมใหม่ขึ้นเราเลยได้เห็นการเพิ่มรายละเอียดสิ่งมีชีวิตภายในฉากมากขึ้นกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นงานภาพแนวสตรีทอาร์ต ผู้คนในฉากที่ทำกิจกรรมที่ดูธรรมชาติ ที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือบทพูดของตัวละครภายในเกม ที่น่าจะเกิดความสงสัยและพอจะทราบกันแล้วว่าสไปเดอร์แมนไม่ได้มีคนเดียว แต่ว่าใครกันแน่ที่เป็นสไปเดอร์แมนตัวจริง
และด้วยเมืองที่ดูจะมีพื้นที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิมทำให้การเก็บของพิเศษภายในเกมมีความท้าทายยิ่งขึ้นกว่าเดิม เช่นเดียวกับการท้าทายพิเศษที่จะได้โหนใยได้สนุกและคล่องยิ่งขึ้น เช่นเดียวกับระบบช่วยเหลือชาวเมืองที่แตกต่างไปจากเดิม ภายในเกมจะมีวิธีการค้นหาผ่านแอปพลิเคชันที่ชื่อว่า Friendly Neighborhood Spider-Man App ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อให้เราได้ทำภารกิจรองนั่นเอง
ดื่มด่ำกับกราฟิกสุดงดงามเพื่อชาวพีซีโดยเฉพาะ
แน่นอนว่าตัวเกมไม่ได้ถูกปล่อยออกมาให้เล่นครั้งแรก เราต่างทราบกันดีว่าตัวเกมถูกปล่อยออกมาให้กับผู้เล่นคอนโซลได้สนุกกันไปก่อนแล้ว และเนื้อเรื่องที่เราจะได้รับบนพีซีก็ไม่ได้แตกต่างกัน อย่างไรก็ตามสิ่งที่ชาวพีซีจะได้เหนือกว่าเครื่องเล่นอื่นคืออิสระในการปรับแต่งภาพภายในเกมได้ตามแต่ที่เครื่องของเราจะรับไหว
สิ่งแรกคือเรื่องของระบบพิเศษที่ถูกเพิ่มเข้ามาสำหรับผู้ใช้งานการ์ดจอที่รองรับโดยเฉพาะไม่ว่าจะเป็น NVIDIA DLSS 2 และ DLSS 3 ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเล่นเกมดียิ่งขึ้นโดยที่คุณภาพของกราฟิกไม่ได้ตกลง หรือหากใครอยากได้งานภาพที่คมชัดและละเอียดยิ่งขึ้นสามารถที่จะเปิด NVIDIA DLAA เพื่องานภาพที่จัดหนักจัดเต็มยิ่งขึ้นได้ รวมถึง NVIDIA Reflex ที่ลดค่าความหน่วงต่าง ๆ ลงไปได้อีกขั้น
แต่สำหรับผู้ที่ไม่ได้มีการ์ดจอของทาง NVIDIA ตัวเกมมีการเพิ่มเทคนิคอื่น ๆ เข้ามาด้วยเช่นกันอย่างเทคนิคการ upsacle ไม่ว่าจะเป็น AMD FSR 2.1 ที่ได้รับการการันตีว่าใช้ได้กับการ์ดจอของทุกค่ายพร้อมประสิทธิภาพที่ไม่ได้ด้อยไปกว่ากัน Intel XeSS และ IGTI ที่รองรับการใช้งานในส่วนนี้เช่นกัน
อีกหนึ่งสิ่งที่ต้องไม่ลืมพูดถึงคือ Ray Tracing ที่ช่วยเพิ่มรายละเอียดภายในฉากดูสมจริงมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของแสงเงาการตกกระทบแสงและกระจกบนอาคารสูง ทำให้เราได้เห็นมิติใหม่ ๆ ที่หาไม่ได้จากที่อื่นนอกจากบนพีซี แม้จะไม่ได้มีให้เปิดใช้งานกันได้กับทุกคนแต่สำหรับใครที่มีอุปกรณ์รองรับ เชื่อได้เลยว่ามันจะเพิ่มมุมมองใหม่ ๆ ในการเล่นเกมที่มีความสมจริงได้มากยิ่งขึ้น
เรื่องดี ๆ ที่เรายังคงเห็นได้จากเกมในภาคนี้ที่ลงพีซีเป็นเกมชุดที่สองแล้วนั่นก็คือรองรับการแสดงผลในหลากหลายอัตราส่วนไม่ว่าจะเป็น 16:9, 16:10, 21:9, 32:9 และ 48:9 และการควบคุมด้วยจอยอย่าง DualSense ก็ยังคงรองรับการใช้งานและปรับแต่งได้เช่นเดียวกับในเกมชุดก่อน
บทสรุปของ Marvel’s Spider-Man: Miles Morales ที่ถูกนำมาลงให้ชาวพีซีได้เล่นกันต้องบอกว่า ในแง่ของเนื้อเรื่องแน่นอนว่าไม่ได้ต่างไปจากเดิมที่ลงให้กับเครื่องคอนโซล แต่สิ่งดีงามที่เราจะได้รับไปคือเรื่องของการปรับแต่งอิสระกราฟิกภายในเกมที่หากองค์ประกอบต่าง ๆ ลงตัวจะได้รับประสบการณ์ที่เนื้อกว่าอย่างแน่นอนใครที่สนใจสามารถหามาเล่นได้แล้วทั้งบน Steam และ Epic Games
สุดท้ายนี้ขอขอบคุณ Sony Interactive Entertainment อีกครั้งสำหรับโอกาสดีๆ ในการรีวิวเกมในวันนี้ ส่วนคราวหน้าเราจะมีอะไรมาแบ่งปันอีกนั้นก็ขอเชิญติดตามที่นี่เช่นเคยที่ ThisIsGame Thailand ครับผม
รายละเอียดเพิ่มเติมและสั่งซื้อเกมได้ที่ [คลิก]