Switchคอนโซล / พีซีรีวิวรีวิว / พรีวิวเกม

[รีวิว] Kirby Air Riders ภาคใหม่ของเกมเคอร์บี้ ขี่ดาว ฝ่าสายลม

สปินออฟที่แฟนเกมรอคอยภาคต่อมานานกว่า 20 ปี

ย้อนกลับไปตอนยุค 2000s ไม่มีใครคิดว่า Kirby Air Ride จะกลายเป็นเกมที่แฟน Nintendo ชื่นชอบ แม้ในระดับคัลท์ เพราะท่ามกลางความสำเร็จของ Mario Kart ที่ ณ ตอนนั้นเป็นรอง Super Smash Bros. Melee แต่ Kirby ที่เป็นสปินออฟรูปแบบรถแข่งไม่ได้ยืนบนกระแสหลักเท่าไร ทว่ามันก็เต็มไปด้วยรายละเอียดที่ทำให้ชุมชนผู้เล่นต่างชื่นชมว่านี่คือประสบการณ์ที่หาจากไหนไม่ได้

Kirby Air Riders ก็เช่นกัน เกมนี้ได้ต่อยอดจากผลงานเดิมที่เคยช่วยเชปคำว่า Action Racing ให้ชัดเจนจากโหมดการเล่นทั้งหลายที่ทำให้เกมมีความตูมตามทั้งที่มันเป็นเกมแบบรถแข่งแท้ๆ ซึ่งหลังจากที่ผู้เล่นจำนวนมากได้รอคอยภาคต่อมานาน กระทั่งกลางปีที่ผ่านมาก็ได้เปิดตัวภาคใหม่กันแบบเต็มๆ เสียที และวันนี้มันก็วางจำหน่ายให้ทุกคนได้เล่นกันแล้วในที่สุด จะเป็นอย่างไรบ้างนั้น ว่าแล้วมาติดตามในรีวิวกันเลย

Kirby Air Riders ยังมาพร้อมเกมเพลย์ครบทุกแนว แถมด้วยหลักสูตรการสอนที่แน่นกว่าเดิม

เกมเพลย์ของ Kirby Air Riders ยังประกอบไปด้วยสามเสาหลักสำคัญดังนี้ Air Ride โหมดมาตรฐานที่มาพร้อมการแข่งขันในสนามรูปแบบต่างๆ, Top Ride โหมดการเล่นรูปแบบมุมกล้องจากด้านบน และ City Trial โหมดที่ผู้เล่นจะได้ถูกจับใส่แผนที่ขนาดใหญ่เพื่อทำการห้ำหั่นสไตล์กึ่ง Battle Royale และเก็บอัปเกรดเรื่อยๆ ทั้งสามโหมดนี้เคยปรากฏตัวมาแล้วในภาค Air Ride บนเครื่องเล่น GameCube เมื่อ 22 ปีก่อน และกลับมาให้เล่นไม่ต้องปลดล็อกเลย แกะกล่องปุ๊บสนุกได้ทันที

ในส่วนของ Air Ride ที่เป็นการเล่นหลักๆ ที่เราจะได้ใช้เวลามากที่สุดนั้น เป็นการแข่งที่ให้ความรู้สึกเหมือนเกม Racing แต่ขณะเดียวกันก็เป็นแนวแอ็กชันผจญภัยด้วย เพราะในสนามนั้นไม่ได้เป็นแค่เส้นทางให้เราได้ขี่ดาวโลดโผนเข้าไปเท่านั้น แต่ยังมีศัตรูที่ถูกจัดวาง สามารถถูกดูดรับความสามารถเหมือนเกมเคอร์บี้ภาคหลักได้เช่นกัน โดยความสามารถทุกอย่างก็มีลักษณะเฉพาะตัว ไม่ว่าจะเป็นการใช้ดาบ ไฟ หรือไมโครโฟนที่มีการทำดาเมจกว้าง และแน่นอนว่าหัวใจสำคัญที่เป็นการประชันความเร็วย่อมทำให้ผู้เล่นทุกคนต้องคอยนำสกิลเหล่านี้มาใช้ฟาดกับทั้งมอนสเตอร์รายทางที่กีดขวาง (หรือบางทีอาจจะแค่เดินเล่นในฉากแล้วซวยโดนเราชน) เช่นเดียวกับคู่ต่อสู้เพื่อให้ถึงเส้นชัยและเป็นที่หนึ่ง

[รีวิว] Kirby Air Riders ภาคใหม่ของเกมเคอร์บี้ ขี่ดาว ฝ่าสายลม

เมื่อเราเห็นว่า Air Ride เป็นการแข่งแบบแอ็กชันสามมิติคล้ายกับการเล่นเกมเคอร์บี้จริงๆ แต่เสริมด้วยองค์ประกอบแนว Racing ก็จะมาถึงโหมดที่ช่วยเบรคฟีลอย่าง Top Ride ที่จะมีความเป็น Racing เต็มตัวมากขึ้นครับเพราะว่าแม้เราจะยังใช้ความสามารถต่างๆ แบบโหมดหลักได้ เมื่อเกมถูกซูมออกมาเป็นแผนที่ขนาดใหญ่ เลยทำให้เราโฟกัสกับการมุ่งหน้าสู่เส้นชัยได้มากขึ้น และสังเกตให้ดีจะไม่ได้บังคับให้เราเลือกแค่ประเภทยานพาหนะดาวสองแบบแล้ว เราสามารถเลือกดาว เครื่องยนต์ต่างๆ ได้เลย และยานเดิมที่เป็นเหมือนตัวแทนการควบคุมแบบอิสระ – แบบเล็งซ้ายขวา ถูกเปลี่ยนมาเป็น ‘สไตล์การขับ’ แทน จึงต้องใช้กลยุทธ์มากกว่าเดิม เพราะตัวดาว และผู้ขับล้วนมีสแตทต่างกันอยู่แล้ว!

[รีวิว] Kirby Air Riders ภาคใหม่ของเกมเคอร์บี้ ขี่ดาว ฝ่าสายลม

ใช่ครับ! หลายคนที่อาจได้ลอง Global Test Ride น่าจะได้มีโอกาสใช้ตัวละครต่างๆ แล้ว รอบนี้ Kirby พกเพื่อนกันมาแทบยกซีรีส์เลย ทั้งหน้าเก่าอย่าง King Dedede และ Meta Knight ที่ทั้งคู่จะไม่ได้อาศัยยานพาหนะเฉพาะ เปลี่ยนมาเป็นนักแข่งมาตรฐาน ทว่าก็ยังมีกิมมิคเฉพาะตัวเช่นอาวุธประจำกายอย่างค้อนและดาบ ไปจนถึงท่าอัลติ (Special) และสถานะเริ่มต้นไม่เท่ากัน ซึ่งที่ผมพูดว่าเป็นนักแข่งมาตรฐาน เป็นเพราะพวกเขาสามารถใช้ท่าดูดรับพลังแบบเคอร์บี้ได้นั่นเองครับ อย่างไรเสียพอสามารถดูดพลังมาได้แบบนี้ พวกท่าโจมตีประจำตัวเวลาไปซัดกับศัตรูตรงๆ ก็เลยไม่ได้มีความแตกต่างกันนักนอกจากอนิเมชันเท่ๆ เพราะท้ายที่สุดเราก็จะใช้พลังจากมอนสเตอร์แทนนั่นเอง

นอกจากนี้ในฉากเองได้รับการออกแบบมาให้เหมาะกับการค้นหา สำรวจ มากๆ ครับ เราอาจเจอทางแยกหรือบางฉากที่มีกิมมิคพิเศษ แม้กระทั่งในฉากของเก่าเองก็อาจจะมีพวกกังหันที่ถ้าเกิดเราพุ่งไปโดนตอนใบพัด (ที่ติดกระเช้า) หมุนมาพอดี ก็จะโดนเหวี่ยงไปสู่เส้นทางใหม่ๆ ซึ่งที่ผมรู้สึกชอบคือมันจะมีฉากที่ฉายกล้องออกไกลๆ เยอะมาก ให้ความรู้สึกแบบ Cinematic มากขึ้น แม้ว่าจะเป็นการแข่งที่ความเร็วสูงมากๆ ก็ตาม

[รีวิว] Kirby Air Riders ภาคใหม่ของเกมเคอร์บี้ ขี่ดาว ฝ่าสายลม

เห็นแบบนี้แล้วหลายคนอาจรู้สึกว่าโอ้โห มันเป็นเกมที่มีรายละเอียดเยอะอะไรขนาดนี้ และนี่ยังไม่ได้พูดถึงโหมด City Trial ขวัญใจของเด็กหนวดทั่วโลกเลยนะ ความเจ๋งก็คือ Kirby Air Riders มาพร้อมโหมดฝึกสอนแยกออกมาให้เราได้ลองฟีเจอร์ต่างๆ ที่จำเป็นกันครบถ้วนกระบวนการ จะเป็นโหมดไหนก็มีการฝึกแบบลงมือทำจริงๆ ทำให้เราได้รู้ว่าเทคนิคพื้นฐานที่ควรมีคืออะไร เพราะว่าแม้จะเป็นเกมที่นำเสนอด้วยโฉมหน้าสุดน่ารักและการบังคับที่ ‘ไม่ต้องกดเร่งเครื่อง’ แต่เราก็จำเป็นต้องคอยกดเบรคเพื่อบูสต์หรือลองดริฟต์ด้วยเช่นกัน อันนี้รู้สึกว่าเวิร์คมากๆ หรือถ้าใครไม่อยากทำก็ไม่เป็นไร มีวิดีโอให้นั่งดูเฉยๆ ดูจบปุ๊บ รู้วิธีเล่นขั้นเริ่มต้น 100%

City Trial มหานครแห่งความเร็ว กลับมาแบบป่วนกว่าเดิม

สิ่งที่ยังคงอยู่ในใจแฟนเกมเสมอคือ City Trial ที่จับเรามาอยู่ในฉากกว้างมากๆ เพื่อให้ทุกคนได้เก็บอัปเกรดตามจุดต่างๆ และนำสแตทที่ได้รับไปแข่งในไฟต์สุดท้าย ฟังดูเหมือนจะธรรมดา แต่สิ่งที่อยู่ใน City Trial กลับเฟื่องฟูไปด้วยเซอร์ไพรส์ที่คาดเดาไม่ได้! เริ่มจากข้อแรกคือปริมาณผู้เล่นที่รองรับมากถึง 16 คนพร้อมกัน เพิ่มขึ้นจากเดิมที่มีเพียง 4 คนใน GameCube เท่านั้น และลองนึกดูว่าเมื่อทุกคนจะต้องแก่งแย่งกัน มันจะยิ่งปั่นป่วนมากขึ้นขนาดไหน

ข้อถัดมาเราจะได้ดาวเริ่มต้นเป็น Compact Star ยานพาหนะขนาดเล็กจิ๋วสแตทต่ำต้อยที่มีเพียงความสามารถพื้นฐานในการเร่งเครื่องและร่อนไปมาในระยะสั้นๆ แถมยังมี HP ต่ำมากๆ พอพูดถึง HP แล้วทุกคนน่าจะรู้ว่ามันหมายความว่ายานของเราสามารถระเบิดตูมได้ เพราะสกิลที่จะปรากฏในฉากนั้นย่อมมีจำกัด เมื่อคนใดคนหนึ่งเก็บไปมากๆ เข้า ก็ต้องหาทางขโมยมาเป็นของตัวเอง เราจึงจะได้เห็นมหกรรมยำทีนส์ของผู้เล่นตลอดระยะเวลา 3 – 7 นาทีของการแข่งในโหมดนี้ครับ

[รีวิว] Kirby Air Riders ภาคใหม่ของเกมเคอร์บี้ ขี่ดาว ฝ่าสายลม
[รีวิว] Kirby Air Riders ภาคใหม่ของเกมเคอร์บี้ ขี่ดาว ฝ่าสายลม

นอกจากนั้นแล้ว ฉากเองก็มีรายละเอียดมากมายเลย ทั้งไบโอมที่ไม่เหมือนกัน ซึ่งรอบนี้มีสถานที่มากขึ้น แต่รักษาคอนเซปต์เดิมหลักๆ คือพื้นที่เมือง ทางเดินใต้ดิน สวนลอยฟ้า และภูเขาไฟ โดยมีพื้นที่ใหม่เช่นเรือโจรสลัด โคลอสเซียม หรือสนามแข่งรถด้วย เราสามารถเลือกเปลี่ยนเพลงประกอบจะเป็นเพลงใหม่หรือเพลงคลาสสิกที่ได้รับการรีมิกซ์ก็ได้ ตามจุดเหล่านี้ บางทีก็จะเกิดดรอปกล่องสีสันสดใสเข้ามา หากเราทำการสปินแดชใส่ก็จะมีโอกาสที่ได้อัปเกรดที่แอบซ่อนเอาไว้ครับ แต่ถ้าโชคร้าย… สิ่งที่ตามมาก็จะเป็นระเบิด อันนี้ก็มีเหมือนกัน

ขณะเดียวกันเล่นๆ อยู่จะเกิดอีเวนต์พิเศษขึ้นมาได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ฝนลูกเหล็กหนามที่จะร่วงลงมาให้เราหลบไปมา หากโดนก็เจอดาเมจไปจุกๆ หรืออาจมีบอสอย่าง Dynablade นกสีแดงขนาดยักษ์ให้เราต่อสู้ เช่นเดียวกับการแข่ง Mini Race รอบเมืองเพื่อชิงรางวัลเป็นอัปเกรด ยิ่งเร็วก็ยิ่งได้เยอะ พอครบเวลาที่กำหนดแล้ว เราจะได้นำสแตทที่อัปเกรดมาใช้เพื่อเล่นในมินิเกมหรือไฟต์สุดท้าย มีตั้งแต่การแข่งร่อน การแข่งในสนามเต็ม หรืออาจจะเป็น Melee ที่จับเราเข้ามาอยู่ในอีกสนามแล้วแข่งชนศัตรูให้ตุยกันไปข้าง

[รีวิว] Kirby Air Riders ภาคใหม่ของเกมเคอร์บี้ ขี่ดาว ฝ่าสายลม
ทั้งหมดนี้สามารถเล่นแยกได้ในโหมดที่เรียกว่า Stadium เช่นกัน
[รีวิว] Kirby Air Riders ภาคใหม่ของเกมเคอร์บี้ ขี่ดาว ฝ่าสายลม
บอสท้ายเกมรอไฝว้!

เกือบลืมไปว่า… ไอเทมที่เราจะได้เจอไม่ได้มีแค่สกิล อัปเกรด และยานอวกาศ (ดาว) ใหม่ๆ เท่านั้น แต่อาจจะเจอชิ้นส่วนของยานอวกาศในตำนานที่มีเพียงแค่ในโหมดนี้ ชิ้นส่วนต่างๆ จากภาคเก่า เช่น Dragoon ยังมีเหมือนเดิม และถ้าเราเล่นโหมดทีมก็สามารถรวมกลุ่มกันเพื่อประกอบยานขึ้นมาได้เช่นกัน นอกจากนั้นชาเลนจ์ในไฟต์สุดท้ายยังมีโหมดแยกให้เราเล่นเพลินๆ ไม่รู้ว่าจำเป็นมากไหม แต่เหมือนว่าอะไรที่เคยมีในภาค Air Ride ของเดิม ได้ถูกนำกลับมาทั้งหมด พร้อมเลเวลอัปขึ้นมา

หนึ่งในส่วนสำคัญที่ทำให้ City Trial มีความแตกต่างคือเราสามารถกระโดดออกจากยานของตัวเองได้ และเราจะได้ควบคุมตัวละครเหมือนกับเล่นเกมเคอร์บี้สามมิติเลย ทั้งนี้การบังคับจะจำกัดเพียงแค่วิ่ง กระโดด และไม่ว่าจะเลือกเป็น Kirby ตัวหลัก, Starman หรือ Rick ทั้งหมดจะมีความเร็วเท้าเท่ากัน เพราะเกมเองก็มองว่าเราจำเป็นที่จะต้องหาดาวใหม่มากกว่าครับ ดังนั้นอีกส่วนที่เพิ่มเข้ามาคือการไฮแจ๊คยานที่กดปุ่ม Y ได้จากที่เห็นไกลๆ แล้วกระโดดขึ้นกันได้เลยตั้งแต่ตอนยานลำแรกของเราสภาพร่อแร่ พอมันกดติดขอบกว่าฟินมาก ท้ายที่สุดสำหรับโหมดนี้ จะมีตัวเลือก Free Run ไว้สำหรับเล่นแบบไม่จำกัดเวลา ใครที่ต้องการชิลๆ กับบรรยากาศในเมือง หาจุดถ่ายรูปน่ารักๆ หรือเล่นกับเพื่อนก็สบายมาก

คอนเทนต์รอให้ปลดล็อก แต่ก็มีมากพอในช่วงเริ่มต้น

อย่างที่ระบุข้างต้นว่าโหมดทั้งหมดเปิดให้เล่นได้ตั้งแต่แรก ดังนั้นเลยไม่ต้องเสียเวลาอะไรมาก และแน่นอนว่า Nintendo Switch 2 ของเรามันก็เป็นเลือดไฮบริดอยู่แล้ว ถอดจอยออกมาเล่นแบ่งกับเพื่อนเป็นสองหน้าจอกันได้เลยง่ายๆ แต่ถ้าเป็นเกมของคุณ Masahiro Sakurai แบบนี้ เสน่ห์ที่ไม่เคยหายคือความประหลาดใจที่เกิดขึ้นตลอด เราเลยมีอะไรให้ทำเพื่อปลดล็อกกัน ทั้งด่านลับที่เป็นสนามแข่งสุดท้าย หรือกระทั่งสนามแข่งจากเกมภาคดั้งเดิมก็มีให้เล่น รวมแล้วเลยมีฉากไว้แข่งกันถึง 18 ฉาก! ถึงจะเป็นการรีมาสเตอร์ของเดิมแบบไม่เพิ่มกิมมิคอะไรมาก ทว่าก็ทำให้เรามีอะไรให้เล่นกันยาวๆ และกราฟิกเองก็ดูสวยขึ้นมากครับ แหมผ่านมาตั้งกี่เจ็นเนอะ!

อีกหนึ่งความสนุกที่ขาดไม่ได้คือ​ Checklist ที่เป็นเหมือนภารกิจการปลดล็อกคล้าย Achievement ส่วนนี้ตอนแรกจะเป็นเพียงแค่ตารางเปล่าๆ จนกระทั่งเราทำอะไรสักอย่างสำเร็จ มันก็จะเริ่มแตกออกมาเรื่อยๆ และเมื่อทำลายช่องแรกแล้ว ก็จะมีคำใบ้สำหรับการทำภารกิจอื่นรอบข้างให้เหมือนกัน ยิ่งทำได้มากเท่าไร ตารางก็จะหายไป พร้อมเผยให้เห็นอาร์ตเวิร์กลับที่ซ่อนอยู่ เช่นเดียวกับฟีเจอร์พิเศษที่จะเพิ่มให้เราเรื่อยๆ เช่นตัวละครและยาน… รวมแล้วรางวัลซ่อนไว้มากกว่า 700 อัน จะบ้าไปแล้ว อาชีฟเม้น 700 อัน!!!

จุดเด่นอีกอย่างที่อยากพูดถึงก็คือ ผู้เล่นสามารถนำยานพาหนะ ดาวของตัวเอง มาตกแต่งได้แล้ว โดยมีทั้งสติกเกอร์ การพิมพ์แพทเทิร์น หรือโมเดลตุ้งติ้งที่สามารถห้อยติดรถได้ อาจฟังแล้เหมือนจะไม่ได้แต่งอะไรมากนัก แต่ขอบอกว่าเครื่องมือทำออกมาให้ใส่ดีเทลได้เยอะมากๆ ซึ่งถึงจะไม่ได้เพิ่มความสามารถอะไร ทว่าก็ทำให้มันตะโกนออกมาเป็นความเป็นตัวเองได้ชัดเจนกว่าเดิม ไม่ต้องจำกัดที่ลวดลายมาตรฐานอีก

ความสนุกบนโลกออนไลน์ ไม่ใช่เพียงแค่การร่อนเหิน

เห็นได้ว่าการกลับมาของ Kirby Air Riders ทำให้เราได้หายคิดถึงความสนุกแบบวายป่วงที่ไม่เหมือนเกม Racing อื่นๆ แต่เมื่อเทคโนโลยีก้าวหน้ามากขึ้น ของที่จะหายไปไหนเสียไม่ได้มันคือระบบการเล่นแบบออนไลน์ โดย Air Rides, Top Rides และ City Trial รองรับการเล่นทั้งแบบออฟไลน์กับ AI และโหมดออนไลน์เต็มความจุห้องตามที่กติการองรับ นึกภาพ City Trial ที่เต็มไปด้วยสายโหดที่รอเชือดเรากันได้เลย จะเปิดห้องเล่นกับเพื่อน หรือลงแรงก์เพื่อทำแนน Global Power ก็ได้ ระบบนี้จะคล้าย Smash แต่ว่าจะคำนวณว่าเราเชี่ยวชาญการเล่นมากกว่าผู้เล่นจำนวนกี่คน คิดว่าเป็นเกณฑ์นับคะแนนที่น่าสนใจดีครับ

การเล่นออนไลน์ไม่ได้จำกัดเพียงแค่การแข่งขันอย่างเดียว สิ่งที่ผมชอบมากๆ ก็คือ Paddock ที่เป็นเหมือนพื้นที่ออนไลน์แทนล็อบบี้แบบเดิมๆ เราสามารถวิ่งไปทักทายเพื่อนๆ ในห้องรับแขกกันได้ ซึ่งไม่ได้เป็นระบบแชทแบบพิมพ์หรือ Voice (หากไม่ได้ใช้ GameChat กับเพื่อน) แต่จะเป็นคีย์ลัดเพื่อเลือกข้อความทักทาย น้องๆ หนูๆ เลยไม่ต้องกังวลว่าจะเจอเกรียนก่อกวนหรือข้อความที่ไม่ประสงค์ดีครับ และเราเองก็ยังสามารถนำรถที่แต่งเนี่ยมาตั้งโชว์ได้ด้วยเช่นกัน ใครมีไอเดียดีๆ ทำโชว์รูมย่อยๆ ได้เลย (แบบไม่ออนไลน์) และยังตั้งจำหน่ายให้ซื้อจากเงินในเกมได้ด้วย (ฮา)

[รีวิว] Kirby Air Riders ภาคใหม่ของเกมเคอร์บี้ ขี่ดาว ฝ่าสายลม
[รีวิว] Kirby Air Riders ภาคใหม่ของเกมเคอร์บี้ ขี่ดาว ฝ่าสายลม

เสียดายโหมด Road Trip ที่เป็นจุดอ่อนเล็กน้อย

Kirby Air Riders มาพร้อมกับโหมดเนื้อเรื่องที่กล่าวเรื่องราวหลวมๆ เอาไว้ว่าเป็นโลกของมวลหมู่เจ้าก้อนและมอนสเตอร์ในโลกแห่งความฝันที่ไปเจอยานอวกาศรูปดาวโดยบังเอิญจนเกิดเป็นเทรนด์ใหม่ที่ทุกคนอย่างสนุกกับสมรภูมิแห่งความเร็ว แต่ผมคิดว่าทั้งเกมนี้ และเกมจาก Masahiro Sakurai ในผลงานก่อนหน้า หากไม่รวม Kid Icarus แล้ว องค์ประกอบเรื่องเนื้อเรื่องไม่ได้มีความโดดเด่นเท่าความสุดเหวี่ยงที่ผ่านมาในโหมดมาตรฐาน เป็นแค่การที่เราขี่ดาวไปทำภารกิจ

จะว่าเป็นจุดอ่อนเต็มๆ ก็คงรุนแรงไป เพราะถึงอย่างไร Road Trip เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ความสนุกของ Kirby Air Riders นั้นเด่นชัดสำหรับสายการเล่นโซโล่มากขึ้น เพราะมันก็ช่วยปลดล็อกคอนเทนต์บางอย่าง เช่นยานพาหนะใหม่ๆ เป็นต้น และการเล่นก็ไม่ถือว่าจืดชืด มันเป็นวิธีรวมเสาหลักเกมเพลย์ เข้ามาไว้ที่เดียวกัน และนำเสนอผ่านระบบแบบภารกิจรายตอนที่มีการปรับแต่งไม่ซ้ำแบบ หรืออาจจะเจอศัตรูที่ไม่มีในฉากอื่นๆ ได้ด้วย ผมชอบความสร้างสรรค์ของโครงสร้างเกมเหมือนกันที่เราจะได้เก็บตามเป้าที่วางไว้เป็นกิ่งก้านสาขา แถมติ๊กให้ด้วยว่าอันไหนวิ่งผ่านแล้ว

อีกจุดที่ผมยังรู้สึกว่าเป็นปัจเจกมากๆ คือ Top Ride เห็นหลายต่อหลายคนคาดหวังจะให้กลับมา แต่ตั้งแต่อ้อนแต่ออด ผมก็ยังคงไม่สามารถอินกับโหมดนี้ได้ การบังคับดูจะยังยากเหมือนเดิมเพราะว่ามันฉายขึ้นจากด้านบน และพอเข้าโค้งปุ๊บ การตอบสนองจากยานที่มีต่ออนาล็อกที่พยายามควงให้มันไปตาม ก็ทำให้ผมหมุนติ้วไปพร้อมกับผู้แข่งที่เสียการทรงตัว ไปๆ มาๆ ผมรู้สึกว่า Air Ride กับ City Trial นี่แหละที่เป็นแม่เหล็กจริงๆ

[รีวิว] Kirby Air Riders ภาคใหม่ของเกมเคอร์บี้ ขี่ดาว ฝ่าสายลม

กราฟิกและเพลงประกอบ

พูดถึงเรื่องเพอร์ฟอร์แมนซ์ก่อนเลย เกมนี้หวังผลอยู่ที่ 60FPS แต่ไม่มีจุดที่นัวๆ แล้วมันเหวี่ยงลงมาได้เหมือนกันครับ ซึ่งก็ไม่ได้ตกมาแบบน่าหงุดหงิด ทว่าก็เห็นได้ชัดในระดับหนึ่ง ส่วนเรื่องความละเอียดของภาพ โหมดการเล่นแบบ Docked เมื่อต่อโทรทัศน์จะเป็น 1080p ครับ ถือว่าแปลกมากเพราะเกมนี้มันก็เป็นเกมเน็กซ์เจ็นนี่นา ส่วนโหมด Portable ก็ต่ำกว่าความละเอียดมาตรฐานของจอด้วย และยิ่งเป็นงานภาพแบบการ์ตูนไปอีกมันก็เลยเหมือนว่าภาพไม่ค่อยสวยเท่าไร มีแค่สีที่ระเบิดกันแบบแฟลชชี่ ฉันใดก็ฉันนั้นเกมนี้มีความเร็วสูงมาก มากกว่าภาคต้นฉบับอีก ดังนั้นพอเข้าใจได้ว่าอาจลดหลั่นเรื่องกราฟิกเพื่อแสดงภาพที่ลื่นไหล

แต่ส่วนของเพลงประกอบอันนี้อยากชมว่าทำได้ดีมากๆ เพราะ มีทั้งเพลงใหม่และเพลงเดิมแบบรีมิกซ์ เช่นเพลง City Trial ของเวอร์ชัน GameCube ก็ถูกนำมาใส่ไว้ให้ และเลือกปรับให้ฟังได้ผ่านเมนูตั้งค่าคล้ายๆ กับ​ Smash เลย ส่วนเมนูหลักที่เป็นเพลงเริ่มต้น ถ้าสังเกตดีๆ ก็เหมือนกับเป็นการทริบิวต์ให้ภาคแรก เพราะจะสลับไปมาระหว่างเพลงธีมหลัก กับดนตรีของภาคเก่าเอาไว้ครับ

บทสรุป

Kirby Air Riders เพียบพร้อมด้วยสีสัน เกมเพลย์ และคอนเทนต์ที่เล่นวนกันได้ไม่รู้จบ เสริมด้วยระบบออนไลน์ และการแลกเปลี่ยนไอเดียการออกแบบยานพาหนะหรือดาวใหม่ๆ ซึ่งถึงแม้จะในเนื้อแท้ของตัวตนที่เป็นเกม Racing นั้นจะมีกิมมิคที่ผู้เล่นใหม่อาจจะงง (ทั้งที่มันควรดูเรียบง่ายมากที่ยานของเราพุ่งไปข้างหน้าได้เอง) แต่เสริมด้วยบทฝึกสอนที่ครอบคลุม และทุกโหมดล้วนเน้นย้ำให้ผู้เล่นได้เรียนรู้กันเรื่อยๆ จนเป็นยอดนักขี่ดาว

สิ่งที่ผมปฏิเสธไม่ได้คือ Kirby Air Riders ไม่ได้ทำหน้าที่ในการนำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆ ที่ชวนว้าว แต่ Kirby Air Riders คือแฟนเซอร์วิส นี่คือสิ่งที่ผมคิดตั้งแต่แรกเลย และมันเป็นเช่นนั้นจริงๆ ความสนุกของเกมที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นเรื่องความนัว แต่คนที่โตมาในยุค 2000s และได้เล่น Kirby Air Rides จะสัมผัสได้ตั้งแต่หน้าเมนูเลยด้วยซ้ำว่ามันเหมือนกับการบันทึกความทรงจำของซีรีส์สปินออฟภาคนี้ และพร้อมประสบการณ์สนุกให้เราไปอีกต่อเนื่องขั้นต่ำหลายปี

สำหรับใครที่สนใจเกมนี้ก็สามารถหาซื้อได้แล้วบน Nintendo Switch 2 ทั้งรูปแบบดิจิทัลดาวน์โหลดผ่าน eShop ประเทศไทยที่เพิ่งเปิดกันสดๆ ร้อนๆ เช่นเดียวกับกล่องตลับเกม ราคา 2,590 บาท ว่าแล้วก็ไปเลือกเฟ้นเป็นเจ้าของกันได้ ส่วน ThisIsGame Thailand ก็ขอตัวไปลับฝีมือก่อน ไม่แน่บางทีเราอาจจะได้ปะทะกันใน City Trial ก็ได้ สำหรับโอกาสหน้าจะมีอะไรมาอัปเดตและแบ่งปัน อย่าลืมติดตามที่นี่เช่นเคยครับผม

GantaroZX

นักข่าวเกมที่แต่งตัวโป๊ที่สุดในประเทศไทย
Back to top button