[รีวิว] Hi-Fi Rush หนุ่มร็อคเกอร์หัวใจดนตรี

ถือเป็นการปรับโฉมการทำตลาดครั้งใหญ่เลยครับสำหรับ Microsoft ที่ในปีนี้ได้มีการยืนยันอย่างเป็นทางการว่าเกมในเครือ Xbox Game Studios จะได้รับการวางจำหน่ายบนแพลตฟอร์มอื่นๆ พร้อมเปิดปีใหม่ด้วยเกมถึง 4 เกมที่ล้วนเป็นเกมคุณภาพยอดเยี่ยม แต่เกมระดับบิ๊กที่จะมาถึงเป็นอันดับแรกก่อนใครคือผลงานสุดแหวกของ Tango Gameworks ที่คว้ารางวัลด้านเพลงไปหลายต่อหลายรายการ โดยวันนี้เองพวกเราก็ได้มีโอกาสสัมผัสเกมเวอร์ชัน PlayStation 5 พร้อมนำความประทับใจมารีวิวกันแล้วด้วยครับ

เนื้อเรื่องเข้าใจง่ายสไตล์การ์ตูน

หลายคนคงมีโอกาสได้ลองเล่นเกมนี้กันตั้งแต่เมื่อครั้งที่วางจำหน่ายครั้งแรกตั้งแต่ปีที่อแล้ว แต่สำหรับใครที่ยังไม่ได้สัมผัสมาก่อนขอบอกเลยว่าเป็นเกมที่ย่อยง่าย เล่นได้สบายๆ เพราะนี่คือการเปิดแฟรนไชส์ใหม่สำหรับค่าย Tango เลย และยังทำหน้าที่ได้ดีฉีกแนวไปจากผลงานเก่าๆ แนวสยองขวัญได้โดยสิ้นเชิง ซึ่งเรื่องราวของเกมนี้จะเกี่ยวข้องกับหนุ่ม Chai ที่เข้าร่วมโครงการการดัดแปลงมนุษย์ทรงพลัง แต่ดัน! ดวงซวยเกิดเหตุที่ทำให้เครื่องเล่นเพลงคล้ายเอ็มพีสามตกลงมากลางหน้าอกพี่แกพอดีจนร่างกายเป็นหนึ่งเดียวกับเสียงเพลงโดยบังเอิญ

จังหวะการเล่าเรื่องของเกมถือว่าน่าสนใจมากครับเพราะมาถึงก็พาเราไปทำความรู้จักกับตัวละครผ่านคัตซีนต้นเกมที่โชว์ลักษณะนิสัยของตัวเอกแบบเต็มๆ ไม่ต้องอมพะนำอิดออดใดๆ อีกทั้งเกมนี้ก็เป็นแนวแอ็กชันผจญภัยแบบไปตามซีนเรื่อยๆ อยู่แล้ว คล้าย Bayonetta ทุกอย่างจึงเร็วทันใจไปหมด ความ straight-to-point แบบนี้ยังเสริมด้วยการนำเสนอส่วนกราฟิกที่เหมือนกับการ์ตูนทำให้มันค่อนข้างดูเพลิน ตัดภาพจากคัตซีนฉับเข้าตัวเกมเพลย์แบบเรียบเนียนกริบ เมื่อเคลียร์ซีนนั้นๆ จบ เราก็จะกลับมาที่ฐานลับเพื่อพักผ่อน โดยในห้องพักเองก็จะมีคำสั่งเจ๋งๆ อย่าง การให้ Chai พูดถึงความรู้สึกของตัวเองเมื่อผ่านเหตุการณ์ใดๆ มา หรือจะเล่นกับแมวก็ยังได้

เกมเพลย์แบบแอ็กชันผสมผสานเคาะจังหวะ

อย่างที่ทราบกันดีว่าเกมนี้เป็นรูปแบบแอ็กชัน แต่เมื่อผสมผสานเข้ากับรูปแบบการเล่นสไตล์เกมดนตรีเคาะจังหวะ ดังนั้นเราก็จะต้องอาศัยก็ฟังเสียงเพื่อบังคับด้วย ซึ่งตลอดการเดินทางของเราจะมีเสียงเพลงคลอตามทาง และการกดปุ่มโจมตีก็จึงเหมือนว่าเกมพยายามปลุกเร้าให้สอดคล้องกับจังหวะ ถ้าใครไม่ถนัดก็สามารถกดปุ่มไกด์ให้มีเกจจังหวะขึ้นแสดงด้านล่างจอก็ได้ ทำให้เรารู้ว่าควรกดปุ่มในตอนไหน กระนั้นเกมไม่ได้บังคับให้เรากดปุ่มตามบีทแต่อย่างใด เราสามารถวิ่งไปมาแบบอิสระได้เลย เพียงแค่การทำคอมโบจะง่ายและรู้ตัวอีกทีก็มันส์มือแล้วเพราะหัวเราอาจจะโยกไปตามอัตโนมัติ ฮา

นอกจากนั้นแล้วคำสั่งการโจมตีเองก็จะเป็นรูปแบบคอมมานด์ แบ่งออกเป็นปุ่มโจมตีเบา และโจมตีแรง ที่สามารถกดรัวๆ ตามจังหวะสร้างคอมโบได้ แต่ยิ่งเล่นไปนานๆ ก็จะสามารถเก็บชิ้นส่วนจากศัตรูมาแลกเป็นพอยต์ปลดล็อกท่าโจมตีการกดคอมบิเนชันใหม่ๆ ออกมาที่อลังการมากขึ้นได้เหมือนกันครับ และยังมีคำสั่งการกดปุ่มดอดจ์ด้วย เมื่อเราหลบตามจังหวะเป๊ะๆ ก็จะเปิดโอกาสให้เราสวนกลับได้เร็วและแรง แต่ขอย้ำอีกครั้งว่าไม่ได้บังคับให้เราต้องกดปุ่มให้ตรง เพียงแค่จะมีการจัดเรตให้ว่าทำดีหรือเปล่าตอนช่วงจบการต่อสู้ในซีนนั้นๆ เฉยๆ ครับ

ความสามารถของ Chai สามารถอัปเกรดได้เมื่อเรากลับมาสู่ฐานลับแล้ว โดยจะมีท่าทางใหม่ๆ ให้ปลดล็อก แบ่งเป็น Attack ที่เป็นคอมบิเนชันปุ่มต่างๆ และ Special Attack ซึ่งเป็นเหมือนท่าอัลติ ปกติจะใช้งานได้เมื่อเก็บแบตเตอรีสีแดงตามฉาก และอีกหนึ่งหมวดคือ Items ที่จะเป็นการเพิ่ม HP และเกจพลังต่างๆ เป็นต้น นอกจากนี้ก็จะมีเครื่องแต่งกายและสกินใหม่ๆ ที่ยังแบ่งเป็นเสื้อยืดด้านใน ผ้าคลุม เป็นต้น

คอนเทนต์อัปเดตครบถ้วน

อ้อ! ที่สำคัญยังมีคอนเทนต์ของแต่งพิเศษที่เพิ่มเข้ามาในเวอร์ชัน PlayStation 5 ด้วย นอกเหนือจากเสื้อยืดสำหรับปลดล็อกที่ให้ Chai ฉลองการครบรอบหนึ่งปีการวางจำหน่ายของเกมเวอร์ชันต้นฉบับแล้ว ผู้เล่นบน PlayStation 5 จะได้รับโหมดพิเศษของเกม Hi-Fi Rush ครบถ้วนตั้งแต่เปิดเกมครั้งแรก ทั้งนี้ทั้งนั้นแน่นอนว่าเป็นโหมดที่เหมาะกับคนที่เคยเล่นจบแล้วมาก่อนเพราะจะเป็นการท้าทายความสามารถของผู้เล่นซึ่งอาศัยสกิลพื้นฐานด้วยนะ โดยจะมีทั้งชุดภารกิจใหม่ถึง 40 ฉาก และศัตรูที่ไม่ปรากฏในเกมต้นฉบับนั่นเองครับ

กราฟิกกับดนตรีคือจิตวิญญาณของ Hi-Fi Rush

ต้องยอมรับเลยว่างานกราฟิกของเกมนี้ออกแบบมาได้มีสไตล์มากๆ ทั้งที่เป็นทีมงานญี่ปุ่นแต่เนรมิตโลกแห่งการ์ตูนรูปแบบตะวันตกได้แบบมีเอกลักษณ์น่าจดจำ เท่านั้นไม่พอก็สลับกันกับเอฟเฟกต์ตัวละครด้วยตัวอักษรเช่นเสียงตุ้บตั้บแบบฝรั่ง และที่กล่าวข้างต้นขอบอกว่าการทรานซิสจากฉากเกมเพลย์มาคัตซีนหรือคัตซีนไปเกมเพลย์ที่ราบรื่นที่คือสิ่งที่ต้องยกนิ้วให้รัวๆ เลย ส่วนเพลงเองมีการนำเพลงจากวงดนตรีจริงๆ เข้ามาอยู่ในเกมด้วย เพลงทั้งหมดเป็นแนวป๊อบร็อคตามลักษณะนิสัยของ Chai อยู่แล้ว ตรงนี้ช่วยส่งให้ดึงคาแรกเตอร์มาให้เด่นชัดด้วยครับ

บทสรุป

มองในแง่ความสนุกของ Hi-Fi Rush แล้วตัวเกมเป็นผลงานที่ฉีกแนวสำหรับค่าย Tango เพื่อโอกาสการทำงานเกมรูปแบบใหม่ๆ แถมในเกมเวอร์ชัน PlayStation ก็ถือเป็นภาคสมบูรณ์ที่มีเนื้อหาทุกอย่างอัดแน่นวนกันได้ยาวๆ ทั้งการเก็บอัปเกรดตัวละครและความลับต่างๆ ที่อัดแน่นมาทุกอณู ทั้งนี้ถ้ามองในด้านการจัดจำหน่ายเกมแล้ว เกมนี้คือตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดที่จะเปิดศักราชใหม่สำหรับ Xbox ในฐานะผู้จัดที่พลิกบทครั้งสำคัญในสงครามคอนโซล ด้วยระดับสเกลที่ยังไม่ต้องเป็นเกมทัพหน้า ทว่าในอนาคตก็พอจะจินตนาการได้ว่าสเกลจะต้องไล่ขึ้นไปอย่างยิ่งใหญ่มากขึ้น

สำหรับใครที่สนใจเกม Hi-Fi Rush ก็ไม่ต้องรอนานเพราะจะวางจำหน่ายบน PlayStation 5 ในวันที่ 19 มีนาคมนี้ เช่นเดียวกับการวางจำหน่ายบน Xbox Series X|S และ PC รวมไปถึงการให้บริการบน Game Pass เรียกได้ว่ามีครบ ส่วนโอกาสหน้านั้น ThisIsGame Thailand จะมีอะไรมาแบ่งปันอีก ว่าแล้วอย่าลืมติดตามที่นี่เช่นเคย และอย่าลืมรอพบกับผลงานเกมยอดเยี่ยมอื่นๆ จากเครือ Xbox Game Studios ที่จะมาโลดแล่นบนแพลตฟอร์มใหม่ในเร็วๆ นี้ด้วยนะครับ