Thailand Game Showพรีวิว

ลองมาแล้ว! Dragon Quest Monsters: The Dark Prince ในงาน Thailand Game Show 2023

เกมสะสมมอนสเตอร์ที่โดดเด่นด้วยระบบฟิวชั่น

Dragon Quest Monsters: The Dark Prince เป็นเกมแนวเลี้ยงมอนสเตอร์ภาคใหม่ล่าสุดจากซีรีส์ Dragon Quest Monsters ที่กลับมาอีกครั้งหลังจากห่างหายไปนานพอสมควร โดยเกมนี้จะเปิดโอกาสให้เราได้รับบทเป็น Psaro ออกเดินทางดูแลเหล่ามอนสเตอร์และหาพวกมันมาเป็นพวกที่มีมากกว่า 500 ชนิด

และแน่นอนว่าผู้เขียนก็ได้มีโอกาสไปทดลองเล่นเกม Dragon Quest Monsters: The Dark Prince ที่งาน Thailand Game Show 2023 มาแล้ว และผู้เขียนก็ไม่พลาดที่จะนำความประทับใจแรกที่ได้ทดลองเล่นเกมนี้มาให้ผู้อ่านได้ติดตามกันครับ

อนึ่งบทความพรีวิว Dragon Quest Monsters: The Dark Prince นี้ผู้เขียนขอเขียนรวมข้อมูลจากการเล่น Demo ที่มีให้ดาวน์โหลดบน Switch และการทดลองเล่นภายในงาน Thailand Game Show 2023 เพื่อความละเอียดของข้อมูลครับ

image 7115

เริ่มต้นจากกราฟิกภายในเกม Dragon Quest Monsters: The Dark Prince ที่ถูกทำออกมาได้มีสีสันสวยงาม อาจจะไม่ได้คมชัดมากนัก แต่ก็ถือว่าสวยงามในฐานะเกมที่เล่นบน Switch รวมไปถึงสีสันของโลกก็สดใสสวยงาม ชวนให้ผู้เล่นหลงใหลในการสำรวจ

ในส่วนเกมเพลย์ของเกมนี้จะเป็นแนวเลี้ยงมอนสเตอร์ ที่ผู้เล่นจะได้ออกเดินทางเพื่อจับมอนสเตอร์มาเข้าทีมได้จำนวนมาก ซึ่งโดยมอนสเตอร์แต่ละตัวจะมีความสามารถและจุดเด่นที่แตกต่างกันไป แต่ข้อดีของเกมนี้ก็คือผู้เล่นสามารถจับได้เรื่อย ๆ ไม่มีไอเทมในการจับหมดแต่อย่างใด ทำให้เราสามารถจับทุกตัวที่ขวางหน้าก็ได้ (แต่ต้องต่อสู้บ้างไม่งั้น EXP ของมอนสเตอร์ของเราจะไม่ขึ้นเลย) ซึ่งมอนสเตอร์ที่เราจะได้เจอนั้นก็มาจากซีรีส์ Dragon Quest ที่คุ้นตาทั้ง Slime, แตงกวายืนขาเดียวอย่าง Cruelcumber และอื่น ๆ อีกมากมาย

นอกจากนี้ เกมยังมีระบบการต่อสู้ที่สนุกสนานโดยระบบการต่อสู้ของเกมเป็นแบบ Turn-based ที่มอนสเตอร์ของเราจะต่อสู้ด้วยตนเองซึ่งถือว่าเป็นการอำนวยความสะดวกให้ผู้เล่นอยู่ไม่น้อย แต่ที่น่าสนใจไปมากกว่านั้นก็คือเราสามารถตั้งค่า AI ให้มอนสเตอร์ได้ ทำให้เราสามารถกำหนดได้ว่าจะให้มอนสเตอร์เน้นแอ็กชั่นแบบใด ได้แก่โจมตีเป็นหลัก, เน้นดีบัฟศัตรู, เน้นบัฟเพื่อนร่วมทีม, เน้นฟื้นฟู HP หรือห้ามให้ (หรือ ใช้)เวทมนตร์เลย ซึ่งผู้เขียนประทับใจฟีเจอร์นี้มาก เพราะการที่เรากำหนดบทบาทให้มอนสเตอร์ในทีมได้ แปลว่ามอนสเตอร์ของเราจะต่อสู้แบบออโต้ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ผู้เขียนแอบเซอร์ไพรส์อยู่เหมือนกันก็คือ การอัปเกรดความสามารถของมอนสเตอร์ที่จะมาในรูปแบบของ Talent Point ที่มอนสเตอร์ของเราจะได้แต้มเหล่านี้มาจากการอัปเลเวล และเราสามารถนำแต้มเหล่านี้ไปใช้ในการอัปเกรด Talent หลักของมอนสเตอร์ได้ ซึ่งเมื่อเราอัปเกรด Talent หลักจนถึงแต้มที่กำหนด มอนสเตอร์ของเราก็จะได้รับสกิล หรือค่าสถานะเพิ่มเติมมาใช้งาน ซึ่งถือได้ว่าเป็นระบบที่ทำให้การเล่นเกมนี้ล้ำลึกขึ้น เพราะนั่นแปลว่าเราสามารถใช้มอนสเตอร์ตัวเดียวกัน แต่อัปเกรดไม่เหมือนกัน ซึ่งจะส่งผลต่อรูปแบบการเล่นได้เป็นอย่างมาก ซึ่งน่าคิดมากว่าในการต่อสู้ PvP ในเกมตัวเต็มจะสนุกขนาดไหนครับ

มาถึงระบบที่ผู้เขียนประทับใจที่สุดก็หนีไม่พ้นการฟิวชั่นมอนสเตอร์ที่จะทำให้เราได้สนุกกับการจับมอนสเตอร์และผสมกันอยู่เรื่อย ๆ โดยผลที่ออกมาจะเป็นการสุ่มมอนสเตอร์ แต่ไม่ได้เป็นการสุ่มดวงแบบไม่มีอะไรบอกใบ้เลย แต่ตัวเกมจะมีการบอกว่ามอนสเตอร์ที่เราจะได้หลังผสมนั้นมีตัวอะไรบ้าง พร้อมมีค่าสถานะให้ดูได้ด้วย ทำให้ผู้เขียนมองว่าเป็นการ “ลุ้นแบบมีหวัง” ซึ่งการผสมมอนสเตอร์จะเป็นการอัปแรงก์มอนสเตอร์ด้วย แถมเรายังสามารถเลือกความสามารถของมอนสเตอร์ที่ต้องการส่งต่อไปยังมอนสเตอร์ที่รวมร่างเสร็จแล้วได้ด้วย ทำให้การอัปเกรดมอนสเตอร์ของเรานั้นไม่เสียเปล่าอย่างแน่นอน

Dragon Quest Monsters: The Dark Prince เป็นเกมแนว RPG แนวสะสมมอนสเตอร์ให้ผู้เล่นรับบทเป็น Psaro เจ้าชายแห่งปีศาจที่ถูกคำสาปให้ไม่สามารถทำร้ายมอนสเตอร์ได้ ดังนั้นเขาจึงเปลี่ยนแปลงตนเองมาเป็นนักดูแลมอนสเตอร์แทน ผู้เล่นจะได้พบกับเหล่าศัตรูกว่า 500 ชนิดที่สามารถนำมาเป็นพรรคพวก ทั้งมอนสเตอร์จากเกมภาคหลักและตัวใหม่ ๆ ที่ไม่เคยเปิดเผย จัดทีมต่อสู้กันในทัวร์นาเมนต์ พร้อมรองรับระบบออนไลน์ให้เราได้ PvP กันกับผู้เล่นอื่น ๆ ทั่วโลก

Youryu

นักผจญเกมที่ไม่จำกัดประเภทและแพล็ตฟอร์ม
Back to top button