(1) ธาตุไฟท์เตอร์:
‘ธาตุไฟท์เตอร์’ คืออะไร?
ไฟท์เตอร์ทุกคนใน KOF AFK จะมาพร้อมกับธาตุ: [ดวงอาทิตย์], [ดวงจันทร์], [ดวงดาว], และ [คอสมอส] ในขณะที่ผู้เล่นลุยสเตจและดันเจี้ยน ผู้เล่นจะได้พบเจอกับผู้บุกรุกโดยการเลือกธาตุที่เหมาะสมนั้นจะสำคัญอย่างยิ่ง สร้างทีมของผู้เล่นด้วยการจับคู่ที่เหมาะสมเพื่อรับมือกับผู้บุกรุกได้อย่างรวดเร็วและง่ายขึ้น
ใช้ธาตุในดันเจี้ยนและชาเลนจ์
พบกับดันเจี้ยนพัฒนามากมาย อาทิ บัฟสเตจที่จะเพิ่มกำลังให้กับธาตุที่กำหนดโดยเฉพาะ การเลือกไฟท์เตอร์ที่เหมาะสมจะช่วยให้ผู้เล่นได้รับค่าสแตทที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะช่วยให้เคลียร์คอนเทนต์ต่าง ๆ ได้ราบรื่นยิ่งขึ้น ไม่ใช่แค่ดันเจี้ยนพัฒนาเท่านั้น โหมดอย่าง ชาเลนจ์อินฟินิตี, ชาเลนจ์เวิลด์บอส, และชาเลนจ์บอสคลับ ก็ยังมีบัฟตามธาตุเช่นกัน
ตัวอย่างเช่น ในชาเลนจ์เวิลด์บอสกับ ยามาตะ โนะ โอโรจิ แห่งดวงอาทิตย์ ไฟท์เตอร์ธาตุ [ดวงอาทิตย์] แต่ละคนในทีมของผู้เล่นจะเพิ่มความเสียหายของไฟท์เตอร์ธาตุ [ดวงอาทิตย์] ทั้งหมด 400% ถ้าสแตคห้าคนเข้าด้วยกัน ความเสียหายจะเพิ่มขึ้นถึง 2,000% เลยทีเดียว
แล้วธาตุ [คอสมอส] ล่ะ?
ผู้เล่นอาจจะสงสัย ‘เดี๋ยวนะ… ทำไมธาตุ [คอสมอส] ถึงไม่มีบัฟดันเจี้ยนเลย?’
นั่นเพราะว่าธาตุคอสมอสมีความพิเศษ ต่างจากอีกธาตุสามตัว ธาตุคอสมอสสามารถนับเป็นธาตุใดก็ได้ในดันเจี้ยนที่ช่วยเพิ่มพลังให้กับไฟท์เตอร์ธาตุ [ดวงอาทิตย์], [ดวงจันทร์], หรือ [ดวงดาว]
กลับมาที่ตัวอย่าง ยามาตะ โนะ โอโรจิ แห่งดวงอาทิตย์ สมมติว่าผู้เล่นมีไฟท์เตอร์ธาตุดวงอาทิตย์เพียง 4 คน นั่นหมายความว่าค่าบัฟของผู้เล่นจะอยู่ที่ 1,600% แต่ถ้าผู้เล่นเพิ่มไฟท์เตอร์ธาตุคอสมอสเป็นสมาชิกคนที่ห้า เขาจะถือว่าเป็นไฟท์เตอร์ธาตุดวงอาทิตย์ ซึ่งจะทำให้เพิ่มค่าบัฟขึ้นเป็น 2,000% เต็ม !
(2) ปลดล็อกซีเนอร์จีไฟท์เตอร์:
‘ซีเนอร์จีไฟท์เตอร์’ คืออะไร?
ไฟท์เตอร์ทุกคนมาพร้อมกับผลซีเนอร์จี จัดไฟท์เตอร์ที่มีซีเนอร์จีเหมือนกันอย่างน้อยสองคนเข้าทีม แล้วผู้เล่นจะได้ปลดล็อกโบนัสพิเศษ
- ซีเนอร์จีไอคอนสีเหลือง: ผลที่เน้นการโจมตีที่ปรับแต่งให้เหมาะสมกับไฟท์เตอร์เหล่านั้น ผลนี้จะมีผลกับไฟท์เตอร์ที่มีซีเนอร์จีเหมือนกันเมื่อผลทำงาน
- ซีเนอร์จีไอคอนสีส้ม: เพิ่มค่าสแตททั่วทั้งทีมซึ่งเป็นประโยชน์ต่อทุกคน ผลนี้จะมีผลกับไฟท์เตอร์ทุกคนในทีมเมื่อผลทำงาน
- ซีเนอร์จีไอคอนดาว: ซีเนอร์จีพิเศษที่มาพร้อมกับผลอันทรงพลังและเป็นเอกลักษณ์ แต่ระวังไว้ให้ดี หากผู้เล่นซ้อนไฟท์เตอร์ที่มีซีเนอร์จีพิเศษหลายคน ผลเหล่านั้นจะไม่ทำงาน การเลือกผสมซีเนอร์จีที่เหมาะสมกับทีมถือว่าเป็นกุญแจสำคัญ
ใช้งานซีเนอร์จี
ความแตกต่างระหว่างทีมที่มีซีเนอร์จีและทีมที่ไม่มีซีเนอร์จีนั้นแตกต่างมาก ในดันเจี้ยนและสเตจต่าง ๆ ซีเนอร์จีสามารถเป็นตัวกำหนดว่าผู้เล่นจะปังหรือจะพังในด่านนั้น
บางชาเลนจ์ยังมีบัฟสเตจที่เชื่อมกับซีเนอร์จีเฉพาะ ยกตัวอย่างเช่น ในชาเลนจ์ไฮสกอร์ บางซีเนอร์จีจะเพิ่มความเสียหายเป็นอย่างมากในซีซันนั้น
ลองดูศึกยักษ์แห่งหายนะสีฟ้าคราม เพียงแค่มีสองไฟท์เตอร์ซีเนอร์จี [ถาโถม] ก็เพิ่มความเสียหายได้มากถึง 1,500% เมื่อรวมสองไฟท์เตอร์ซีเนอร์จี [มั่นคง] ก็จะเพิ่มความเสียหายได้อีก 750% รวมเป็น 2,250% กันเลยทีเดียว !
อย่าลืมสัตว์เลี้ยง !
เมื่อผู้เล่นพยายามสร้างความสมดุลระหว่างธาตุและซีเนอร์จี การจำกัดทีมไฟท์เตอร์เพียงห้าคนอาจไม่เพียงพอ นั่นแหละที่สัตว์เลี้ยงสามารถเข้ามามีบทบาท
สัตว์เลี้ยงระดับยูนีคและเลเจนด์ก็มีผลซีเนอร์จีเช่นกัน เมื่อจับคู่กับไฟท์เตอร์ ซีเนอร์จีของพวกเขาจะทำงานเหมือนกัน ทำให้การจัดเตรียมซีเนอร์จีที่สมบูรณ์ของผู้เล่นง่ายยิ่งขึ้น ตรวจสอบทั้งสัตว์เลี้ยงและไฟท์เตอร์อย่างละเอียดแล้ววางแผนกลยุทธ์สุดปังมาใช้ !
(3) ควบคุมการวางตำแหน่งไฟท์เตอร์
ตรวจสอบข้อมูลสกิลก่อน
เคยสงสัยไหมว่าควรจัดไฟท์เตอร์ในทีมของผู้เล่นตรงไหน? การตรวจสอบข้อมูลสกิลของพวกเขาถือเป็นกุญแจหลักในการตัดสินใจที่ดีที่สุด
ลองดู ราล์ฟ โจนส์ เป็นตัวอย่าง เมื่อวางเขาไว้แถวหน้า แพสซีฟของเขาจะเพิ่ม HP สูงสุดของเขาขึ้น 20% สกิลฟินิชยังมอบบัฟพลังโจมตี Lv.4 สองเทิร์นให้กับพันธมิตรในแถวเดียวกัน การวางราล์ฟอยู่แถวหน้า เขาไม่เพียงแต่ดูดซับความเสียหายของศัตรูเหมือนแทงก์แล้ว แต่ยังเพิ่มพลังโจมตีให้กับพันธมิตรสูงสุดสามคนในเวลาเดียวกันอีกด้วย
ทีนี้เรามาดูฝั่งราม่อนกันบ้าง สกิลแพสซีฟของเขาทำให้เขาสามารถปล่อยโบนัสการโจมตีทั่วไปได้ทุกครั้งที่ใช้สกิลแอคทีฟ นั่นหมายความว่าทุกครั้งที่เขาใช้สกิลแอคทีฟ เขาจะตามมาด้วยการโจมตีทั่วไปเพิ่มเติมทันที ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการดึงค่าเพิ่มเติมจากบัฟโจมตีใด ๆ
หากเราวางราม่อนอยู่แถวหลังของทีม พร้อมกับราล์ฟอยู่แถวหน้า ซีเนอร์จีจะชัดเจนขึ้น โดยราล์ฟจะไปทางสายแทงก์และบัฟ ในขณะที่ราม่อนจะได้เปรียบจากการโจมตีที่เพิ่มขึ้นเพื่อสร้างความเสียหายที่มากขึ้น เมื่อรวมกันแล้ว พวกเขาจะก่อกองกำลังที่สมดุลและทรงพลัง
สำหรับบทเรียนในส่วนนี้ ผู้เล่นต้องคอยศึกษาสกิลของไฟท์เตอร์อยู่เสมอ พิจารณาการจัดวางตำแหน่ง และสร้างคอมโบที่ดึงเอาศักยภาพที่ดีที่สุดของกันและกันออกมา
การจัดทีมในดันเจี้ยน
ดันเจี้ยนและชาเลนจ์มาพร้อมกับบัฟสเตจที่จะให้คำแนะนำอันมีค่าแก่ผู้เล่นในการเคลียร์สเตจ บางครั้งอาจต้องใช้ธาตุหรือซีเนอร์จีเฉพาะเพื่อกระตุ้นการเพิ่มค่าสแตท
ตัวอย่างเช่น ดันเจี้ยนโกลด์รัชมอบบัฟเมื่อผู้เล่นรวมไฟท์เตอร์ธาตุ [ดวงจันทร์] เข้าไปด้วย หากผู้เล่นเน้นจัดไฟท์เตอร์ธาตุ [ดวงจันทร์] ที่ดีที่สุด ผู้เล่นจะเคลียร์ได้ง่ายขึ้นมาก
ไม่ต้องกังวลว่าจะพลาดไป ไฟท์เตอร์ที่ได้รับบัฟนั้นหาได้ง่าย ในเมนูจัดทีม ผู้เล่นสามารถใช้ตัวกรองเพื่อค้นหาไฟท์เตอร์ที่เหมาะสมได้อย่างรวดเร็ว แม้จะไม่มีตัวกรอง ไฟท์เตอร์ที่ได้รับผลประโยชน์จากบัฟสเตจจะมีเครื่องหมายลูกศรสีเหลืองกำกับไว้ในรายชื่อของผู้เล่น
การจัดทีมในสเตจเนื้อเรื่อง
ต่างจากดันเจี้ยน สเตจเนื้อเรื่องไม่มีบัฟสเตจ นั่นหมายความว่ากลยุทธ์ที่ดีที่สุดคือการสร้างทีมโดยคำนึงถึงไฟท์เตอร์ที่แข็งแกร่งที่สุดของผู้เล่น พร้อมคำนึงถึงซีเนอร์จีและผลสกิลของพวกเขาด้วย ผสมผสานไฟท์เตอร์ตัวเก่งของผู้เล่นเข้ากับคู่หูซีเนอร์จีที่เหมาะสม แล้วผู้เล่นจะแข็งแกร่งจนหยุดไม่อยู่
