ผลวิจัยเผยสาเหตุที่ญี่ปุ่นถึงเข้มงวดกับการจอง Switch 2 มากกว่าที่อื่น
การจับฉลากนั้นถือว่ายุติธรรมมากที่สุดแล้วด้วยเช่นกัน

ถือว่าทำสถิติใหม่กันต่อเนื่องและยังได้รับความนิยมมากๆ สำหรับ Nintendo Switch 2 ที่แม้ในตะวันตกรวมไปถึงบ้านเราจะไม่ได้มีปัญหาเรื่องการสั่งจองหรือสต๊อกสินค้าแล้ว แต่ถึงอย่างไรประเทศญี่ปุ่นที่เป็นฐานที่มั่นหลักกลับต้องเจอสถานการณ์ของขาดตลาดแบบยาวๆ ชนิดที่ต้องจับฉลาก แถมรอบสินค้าล่าสุดยังต้องรอกันจนถึงเดือนกันยายน ซึ่งล่าสุดก็มีความเห็นน่าสนใจจากผลวิจัยของมหาวิทยาลัยโอซากาด้วย
ศูนย์วิจัย ELSI Center ของสถาบันดังกล่าวได้ทำการสำรวจในหัวข้อกลยุทธ์การเปิดตัวที่มีความเกี่ยวพันกับทั้งเศรษฐกิจ สังคม และศีลธรรม โดยมุ่งเป้าไปที่วิธีการเปิดจองที่ต่างกันของเครื่องเล่นดังกล่าว ซึ่งแน่นอนว่าเราก็ทราบถึงเงื่อนไขของญี่ปุ่นอยู่แล้วที่เข้มงวดระดับที่ว่าจะต้องมีชั่วโมงการเล่นเกิน 50 ชั่วโมง ส่วนสหรัฐอเมริกานั้นแม้จผ่อนปรนกว่าแต่ก็มีระดับการตรวจสอบในขั้นที่น่าหงุดหงิดเช่นกัน อาทิต้องเป็นสมาชิก Nintendo Switch Online มาก่อน หรือในทางเทคนิคจะต้องเป็นลูกค้าเก่านั่นเอง
ทางผู้เขียนระบุว่าไม่ว่าจะมีวิธีการสั่งจองอย่างไร ทั้งญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกาก็ล้วนต้องเจอกับสถานการณ์แบบเดียวกันนั่นคือความต้องการมีมากกว่าสินค้าในตลาด และสิ่งที่ Nintendo ทำกับตลาดญี่ปุ่นอย่างการจับฉลากนั้น หมายความว่าผู้เล่นที่ต้องการ จะต้องมีความประสงค์อย่างแรงกล้าที่จะซื้อเครื่องเล่นนี้จนถึงขั้นที่ยอมลงทะเบียนจับสุ่มแม้จะรู้ว่ามีโอกาสเสียก็ตาม ซึ่งในอีกมุมหนึ่ง ยังหมายความว่า Nintendo เองกำลังให้ความสำคัญกับคนที่ต้องการจะซื้อเครื่องแน่ๆ ด้วย

การให้ความเห็นที่น่าสนใจเพิ่มเติมของผู้วิจัยก็คือ เขามองว่าคนญี่ปุ่นมีการรับรู้ว่าอย่างน้อยการจับฉลากที่มีโอกาสได้ซื้อ – ไม่ได้ซื้อนั้น หมายถึงว่าผู้เล่นทุกคนจะได้รับความยุติธรรม ความเท่าเทียมกันทั้งหมด ไม่ต้องรีบวิ่งไปจองหรือกดสั่งกันจนเว็บล่มหรือเสี่ยงเจอรีเซลออนไลน์นั่นเองครับ สำหรับเพื่อนๆ คิดเห็นอย่างไรบ้าง ลองมาแบ่งปันกันได้กับพวกเรานะ
เกี่ยวกับ Nintendo Switch 2
เครื่องเล่นเกมคอนโซลรูปแบบไฮบริดที่จะสานต่อความสนุกจากเครื่องเล่นรุ่นแรกในรูปแบบเน็กซ์เจ็น พร้อมกับหน้าจอขนาด 7.9 นิ้ว และการรองรับ HDR เช่นเดียวกับเฟรมเรตระดับ 120FPS (หรือ 4K สำหรับการใช้งานบนโทรทัศน์) เช่นเดียวกับความสามารถในการใช้ระบบ Voice Chat – Video Call ครบครัน รองรับความจุระดับ 256GB โดยมีกำหนดวางจำหน่ายวันที่ 25 มิถุนายน 2025 นี้ครับ
สำหรับใครที่สนใจรีวิว และข้อมูลเกี่ยวกับอุปกรณ์ที่ใช้งานร่วมกันได้ อย่าลืมติดตามได้จาก ThisIsGame Thailand ข้างล่างนี้เลยครับ