Nintendo วางตำแหน่งให้ Switch 2 เป็นคอนโซลไฮบริด ไม่ใช่แค่เครื่องพกพา
ภาพของ Switch 1 อาจดูเหมือนมีความเป็นพกพามากกว่า แต่ครั้งนี้ทุ่มสุดใจ

วางจำหน่ายเรียบร้อยแล้วครับสำหรับเครื่องเล่นเกม Nintendo Switch 2 ในประเทศไทยที่ต้องบอกเลยครับว่ามีเสียงตอบรับที่ค่อนข้างยอดเยี่ยมตั้งแต่การประกาศกำหนดเปิดตัวมาจนถึงตอนนี้เองก็มีสินค้าแทบจะไม่พอความต้องการเลย ซึ่งถ้ามองในแง่สเปคและรูปลักษณ์ของมันที่เป็นแบบไฮบริดเสียบจอยเล่นนอกบ้านได้ หลายคนอาจคิดว่ามันคือเกมพกพารุ่นอัปเกรด แต่จริงๆ แล้ว Nintendo อาจไม่ได้คิดแบบนั้น
คุณ NintenGOD ผู้ใช้งานบนโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์ม X ได้ออกมาเปิดเผยว่าภายในเกม Welcome Tour ซึ่งเป็นเทคเดโมกึ่งประสบการณ์พิพิธภัณฑ์เกมที่จะทำให้เรารู้จักเครื่องเล่นมากขึ้น ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเครื่อง Switch 2 ที่ค่อนข้างละเอียด และเขาก็สังเกตเห็นว่าปู่นินของเราต้องการที่จะสื่อให้ทุกคนรู้ว่ามันคือเครื่องเล่นเกม Home Console ที่มีความเป็นไฮบริด แต่ไม่ใช่เครื่องที่ทำมาเพื่อ ‘พกพา’ แม้จะมีระบบการใช้งานที่รองรับก็ตาม
ภายในแอปนั้นได้ระบุว่า Switch 2 ใช้พลังงานและไฟฟ้ามากกว่าเครื่องเล่น Switch รุ่นแรก และการต่อ Dock นั้นอาจทำให้คนมองว่าเป็นแค่การยิงภาพขึ้นโทรทัศน์ ทว่าที่จริงแท่นวางมีหน้าที่ยิ่งกว่าเดิม ดังนั้นจึงจะต้องมีการเพิ่มพัดลมเพื่อระบายอากาศระหว่างที่มันช่วยประมวลผลในโหมดโทรทัศน์เพื่อประสบการณ์คอนโซลที่ดีที่สุด และนับเป็น ‘เดอะแบก’ สำหรับการทำหน้าที่เป็นคอนโซลขนานแท้เลยครับ
หากเราสังเกตให้ดี แนวคิดการวางตำแหน่งให้เครื่องรุ่นนี้เป็น Home Console นั้นชัดเจนมากๆ ต่างจากสมัย Switch 1 ที่หลายเกมพัฒนามาด้วยสเกลเล็ก แต่สำหรับรุ่นใหม่เราจะพบว่าแม้กระทั่ง Launch Title เองก็เป็นเกมฟอร์มยักษ์ทั้งหมด เหมาะกับการเล่นผ่านโทรทัศน์ทุกประการ ทั้ง Cyberpunk 2077, Street Fighter 6 หรือ Split Fiction ทว่าขณะเดียวกันเพราะโฟกัสการประมวลผลแรงๆ เพื่อเกมเหล่านี้ จึงอาจทำให้ความเป็นไฮบริดในโหมดพกพาโดนลดความสำคัญ เพราะแบตเตอรี่เองก็ทำงานได้น้อยลงเมื่อเทียบกับรุ่นเก่า
เกี่ยวกับ Nintendo Switch 2
เครื่องเล่นเกมคอนโซลรูปแบบไฮบริดที่จะสานต่อความสนุกจากเครื่องเล่นรุ่นแรกในรูปแบบเน็กซ์เจ็น พร้อมกับหน้าจอขนาด 7.9 นิ้ว และการรองรับ HDR เช่นเดียวกับเฟรมเรตระดับ 120FPS (หรือ 4K สำหรับการใช้งานบนโทรทัศน์) เช่นเดียวกับความสามารถในการใช้ระบบ Voice Chat – Video Call ครบครัน รองรับความจุระดับ 256GB โดยมีกำหนดวางจำหน่ายวันที่ 25 มิถุนายน 2025 นี้ครับ
สำหรับใครที่สนใจรีวิว และข้อมูลเกี่ยวกับอุปกรณ์ที่ใช้งานร่วมกันได้ อย่าลืมติดตามได้จาก ThisIsGame Thailand ข้างล่างนี้เลยครับ