เปิดตัวข้อมูลแรกกันเป็นที่เรียบร้อยสำหรับ Overwatch ภาคสอง ซีซันที่ 15 ที่ดูเหมือนว่าจะมีอะไรน่าสนใจกลับมามากมายไม่ว่าจะเป็นระบบการลงแรงก์ของเกมเพลย์รูปแบบ 6v6 แบบต้นฉบับ, ฮีโร่ใหม่ที่เผยโฉมล่วงหน้าในซีซันถัดๆ ไป และที่สำคัญที่สุดก็คือการกลับมาของ Loot Box ที่จะให้ผู้เล่นได้มีโอกาสลุ้นโชคกับสกินหรือไอเทมเครื่องประดับต่างๆ มากขึ้น ซึ่งล่าสุดสื่อนอกอย่าง Games Radar ก็ได้มีโอกาสพูดคุยกับคุณ Aaron Keller ผู้กำกับ Overwatch 2 ด้วย
เมื่อมีการสอบถามถึงความเห็นเกี่ยวกับการทำงานภายใต้การกดดันจากคู่แข่งโดยตรงอย่าง Marvel Rivals แล้ว Aaron ยอมรับว่าในตอนนี้การมาถึงของเกมดังกล่าวได้ทำให้เกิดสถานการณ์ตึงเครียดและต้องตั้งคำถามเลยว่าควรจะทำอย่างไรให้เกม Overwatch เป็นเกมที่ดีที่สุดที่พวกเขาทำได้ หนึ่งในสิ่งที่คิดว่าตอบโจทย์ก็คือการให้ความสำคัญกับไอเดียของเกมตัวเองที่ว่าสถานการณ์ในเกมนั้นเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา นั่นคือเหตุผลที่เขานำเสนอระบบ Perks ที่เป็นการปรับแต่งสกิลตัวละครภายในเกมระหว่างแมตช์นั่นเองครับ
ในส่วนของเสียงตอบรับระยะหลังที่ผู้เล่นโจมตี Overwatch ค่อนข้างบ่อย พวกเขาก็มองว่าผู้เล่นอาจมีภาพการรับรู้เกี่ยวกับเกมนี้ที่ต่างกัน และมีผู้เล่นหลายคนที่ยังจำภาพของ Overwatch ในช่วงท้ายของภาคแรกอยู่ ดังนั้นเมื่อภาคสองเปิดให้บริการพวกเขาก็พยายามแก้ไขจุดด้อยต่างๆ จนกระทั่งเมื่อเข้าที่เข้าทาง ก็เบนเข็มมาทำหน้าที่การพัฒนาประสบการณ์พื้นฐานเกมให้ดีขึ้นกว่าเดิมแทนตลอดทั้งปี 2024 และคาดหวังว่าความพยายามที่ทำนั้นจะช่วยให้เกมเป็นที่รู้จักและยอมรับในวางกว้างมากขึ้น
นอกจากนี้หากสังเกตให้ดีเกมยังเพิ่มองค์ประกอบใหม่ๆ เข้ามาหลายอย่างเลย โดยเขามองว่าสถานการณ์ทั้งหมดนั้นทำให้ตั้งแต่ซีซันที่ 15 – 16 นี้เป็นต้นไป พวกเขาจะไม่เพลย์เซฟ และเอาจริงกับการทำงานมากขึ้นเพื่อให้ผู้เล่นได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด และมันทำให้ทีมงานภายในรู้สึกฮึดสู้มากขึ้นด้วย เห็นแบบนี้แฟนเกมก็น่าจะสบายใจมากขึ้น ว่าแล้วก็อย่าลืมเป็นกำลังใจให้กันนะครับ
Overwatch 2 เป็นเกมรูปแบบ PvP Tactical Shooters โดยภาคสองได้ปรับจำนวนผู้เล่นเป็น 5v5 พร้อมฮีโร่ใหม่ การรีเวิร์กฮีโร่ รวมไปถึงบาลานซ์ และประเภทแผนที่ใหม่คือ Clash กับ Push อีกทั้งยังมีระบบการ Ping มีการปรับแต่งใหม่ให้ราบรื่นและมีประโยชน์มากขึ้น เช่นเดียวกับนำเสนอคอนเทนต์ใหม่เป็นรูปแบบ Battle Pass ตามฤดูกาลปัจจุบันเปิดให้บริการบน PlayStation, Xbox และบน Nintendo Switch กับ PC พร้อมรองรับภาษาไทย
