Switchคอนโซล / พีซีพีซีสโตร์ไทยเกมเกมมือถือ

[รีวิว] Is This Seat Taken? เรื่องง่ายๆ ในชีวิตประจำวันที่ถ่ายทอดด้วยพัสเซิล

เมื่อเกมปริศนาจับคนวางบนเก้าอี้มันมีความลึกซึ้งกับชีวิตและตรรกะอย่างคาดไม่ถึง

หมายเหตุ: เกมที่นำมารีวิวเป็นเวอร์ชัน Nintendo Switch ประสบการณ์ที่ได้รับอาจมีความแตกต่างกัน

นอกจากเกม RPG แล้ว Nintendo Switch ยังเป็นเครื่องเล่นเกมที่เหมาะกับเกมพัสเซิลที่มีเซสชันสั้นๆ มาก ดังนั้นเราจึงเห็นหลายต่อหลายเกมพอร์ตมาให้เล่นกันสนุกมือ เช่นเดียวกับผลงานเกมอินดี้หลากหลายรูปแบบ โดยล่าสุดก็ถึงคิวของ Is This Seat Taken? ที่เปิดตัวในอีเวนต์ Indie World ในสัปดาห์ที่ผ่านมาพร้อมจำหน่ายให้ทันทีทันใดแบบเซอร์ไพรส์ผู้ชม ซึ่งวันนี้พวกเราก็ไม่พลาดที่จะนำมารีวิวเพื่อแบ่งปันความทับใจให้ฟังด้วย

การนำเสนอและการบังคับ

เรื่องราวของเกม Is This Seat Taken? ไม่ได้มีอะไรมากเลยด้วยซ้ำ ทุกอย่างถูกบอกเล่าผ่านคัตซีนคำพูดว่าด้วยชีวิตของคนกลุ่มหนึ่งที่พานพบกันในสถานการณ์ต่างๆ ในฐานะคนแปลกหน้า และสิ่งที่เราต้องทำก็มีแค่การจับคนเหล่านี้ ที่มีรูปร่างเป็นทรงเลขาคณิตวางบนเก้าอี้ ที่นั่ง ตามความต้องการของพวกเขาเท่านั้น แต่ละคนอาจมีรีเควสต์แตกต่างกัน บางคนไม่ชอบนั่งกับเด็ก บางคนอยากยืน ทุกอย่างขึ้นลิสต์ให้เห็นแบบชัดๆ

ยิ่งเราสามารถตอบสนองความต้องการ (ด้วยการจับวาง) ได้มากเท่าไร ก็ยิ่งได้คะแนนมากขึ้น ถ้าเราได้คะแนนมากก็จะได้รับดาว ฟังดูแล้วโครงสร้างเกมเหมือนเกมสเกลเล็กบนสมาร์ทโฟนสมัยก่อน ซึ่งก็เป็นแบบนั้นจริงเพราะเขาก็ทำเวอร์ชันมือถือให้เลือกซื้อด้วย แต่เป็นประสบการณ์ออฟไลน์พรีเมียมอยู่ดี เล่นได้ฟินๆ ไม่มี Ads ทั้งนี้ก่อนที่จะเข้ารกเข้าพงขอแนะนำต่อว่า เมื่อได้คะแนนมากพอเราอาจจะปลดล็อกฉากลับที่มีความยากมากขึ้นด้วยเช่นกันครับ

[รีวิว] Is This Seat Taken? เรื่องง่ายๆ ในชีวิตประจำวันที่ถ่ายทอดด้วยพัสเซิล

ด้วยความที่เกมออกแบบให้ทั้งมือถือและ Nintendo Switch เราสามารถบังคับได้ทั้งการใช้จอยเกมหรือจะใช้หน้าจอสัมผัสลากเอาง่ายๆ ก็ได้ ดังนั้นจะเล่นผ่านหน้าจอสัมผัสหรือเล่นบนโทรทัศน์ก็ไม่มีปัญหา ซึ่งแต่ละฉากจะแบ่งซอยเป็นสถานการณ์ย่อยๆ ประมาณสามถึงสี่ฉาก และแน่นอนว่าแม้ลิสต์ความต้องการจะเหมือนกันในกรณีที่เล่นซ้ำ ทว่ามันมีความเป็นแซนด์บ็อกซ์ ให้อิสระเราในการตัดสินใจเต็มที่

แก่นของ Is This Seat Taken? คือการเรียนตรรกะและการยอมรับ

สิ่งที่รู้สึกว่า Is This Seat Taken? พยายามสื่อสาร ไม่ใช่การเป็นเกมพัสเซิลที่อิงสถานการณ์ในชีวิตประจำวันเท่านั้น แต่ผมมองว่ามันคือทักษะตรรกะขั้นพื้นฐาน ว่าด้วยเหตุและผล ทุกอย่างมันสอดคล้องกับเกมเพลย์และภารกิจที่เราได้รับกันหมด ยกตัวอย่างเช่น Nat และ Val ที่เป็นตัวละครคู่ที่มาเจอกันบ่อยมากๆ ทั้งคู่เองก็มีเส้นเนื้อเรื่องและชีวิตของตัวเองคือการเดินทางสู่ความเป็นดาว (สาวเจ้าแกก็อยากเป็นดารา) ตลอดเกมเธอจะได้เรียนรู้ว่า ‘ถ้า…แล้ว…’ แม้จะผ่านฉากนั้นๆ ไปแล้วก็ตาม

ในส่วนของเกมเองก็ถ่ายทอดแนวคิดนี้ได้อย่างเข้าใจง่าย คุณลากตัวละคร A ที่ ‘มีนิสัยขี้เมาธ์’ ไปอยู่ใกล้ๆ กับ ‘คนที่ต้องการอ่านหนังสือจิบกาแฟเงียบๆ’ ก็ต้องยอมรับผลกระทบไปว่าจะได้คะแนนน้อยเพราะอินโทรเวิร์ตคนนั้นก็จะหน้าบึ้งใส่จนโดนหักแต้มไป ฟังดูแล้วอาจจะดูไม่ค่อยลึกซึ้ง แต่เกมเพิ่มมิติอื่นๆ เข้าไปอีก เช่นฉากโรงภาพยนตร์ที่จะแบ่งซอยเป็นสามฉากย่อย ราจะเห็นว่ามีตัวละครบางคนที่ชอบ ‘กินป็อบคอร์น’ เมื่อเราวางเขาไปนั่งที่นั่งใด มันก็จะมีเศษป๊อบคอร์นตกด้วย และเมื่อฉากย่อยลำดับที่หนึ่งผ่านไป ซีนถัดมาเราอาจจะต้องเจอกับคนที่ ‘ไม่ชอบที่นั่งสกปรก’ แถมยังมีคนอื่นๆ ที่รอนั่งด้วยเงื่อนไขต่างๆ กัน

[รีวิว] Is This Seat Taken? เรื่องง่ายๆ ในชีวิตประจำวันที่ถ่ายทอดด้วยพัสเซิล

เมื่อเราตัดสินใจให้คนในฉากย่อยก่อนหน้านั่งที่ที่นั้น ครั้นถึงคิวของคนในล็อตถัดมารีเควสต์อะไรมากเข้า มีหลายครั้งเลยที่เราอาจจะต้องเลือกยอมเสียคะแนนบางส่วนไปเพราะมันจะไม่มีที่นั่งที่เหมาะสมเหลือจริงๆ (ไอ้บางคนก็อยากนั่งริมหรือเกิดสายตาสั้นขึ้นมาอีก) นอกจากจะโชคดีเจอคนที่ไม่ได้มายด์เรื่องการนั่งบนที่นั่งเดิมที่มีเศษป็อบคอร์นตกอยู่ แต่ท้ายที่สุดมันก็จะวนเวียนมาในเรื่องของเหตุและผลว่า เพราะการเลือกที่นั่งของเราจากฉากที่แล้ว ส่งให้เราต้อง ‘เลือก’ ที่จะเล่นใหม่เพื่อความสมบูรณ์แบบได้คะแนนครบห้าดาวหรือ ‘ช่างแม่ง’ กันไปให้ผ่านๆ แบบถูไถ

ในชีวิตจริงเราอาจจะเจอสถานการณ์ที่เราต้องเอาตัวเองเข้าไปนั่งบนเก้าอี้ที่ผ่านการสัมผัสบั้นท้ายของคนร้อยพ่อพันแม่ (ไม่อาจหรอก น่าจะเป็นสิ่งที่ต้องเจออยู่แล้ว) และรอบข้างเราอาจจะเจอคนไม่อาบน้ำ เจอคนเคี้ยวเสียงดัง เจอคนฟังเพลงทะลุหูฟัง มันก็คือการตัดสินใจของเราว่าเราจะยอมนั่งที่ตรงนั้นหรือเปล่า เช่นผมชอบไปนั่งทำงานในโคเวิร์กกิงสเปซสาธารณะ ละแวกข้างก็อาจมีนักศึกษา ข้าราชการ ป้าแม่บ้าน คนพิมพ์งานต๊อกแต๊กอยู่ด้วย แล้วบางวันน่ะ ความรู้สึกคนเราอาจจะอยากได้อะไรไม่เหมือนกัน อยากอยู่คนเดียวแต่ต้องนั่งกับที่ที่มีเสียงดัง วันนั้นมันก็เลยรีเลตได้ว่าเหมือนกับตัวละครที่ให้คะแนนน้อย

คล้ายว่า ‘ถ้าเจอเรื่องไม่ดี… เราก็จะ….’ ซึ่งกรณีนี้คือเราโทษฟ้าโทษดิน เลยรำพึงรำพันว่าเอ๊ะ ‘ทำไมวันนี้กูซวยจังวะ’ อะไรประมาณนี้แหละครับ

[รีวิว] Is This Seat Taken? เรื่องง่ายๆ ในชีวิตประจำวันที่ถ่ายทอดด้วยพัสเซิล

กราฟิกและเพลงสบายหู

เกมนำเสนองานภาพอนิเมชันสองมิติในโลกโมโนโทนสีสบายตาและเพลงประกอบคลอๆ ง่ายๆ ส่วนตัวรู้สึกว่าเหมาะสมดีครับเพราะว่าเกมพัสเซิลที่เราต้องใช้เหตุและผลในการทำภารกิจ ขอติ๊ต่างไปเลยว่าคงไม่ได้มีกะใจที่จะมาฟังเพลงตู้มต้าม โดยสิ่งที่อยากชมเป็นพิเศษคือเพอร์ฟอร์แมนซ์ของเกมที่วิ่ง 60FPS แบบนิ่งๆ ลื่นตา แน่นอนว่าเกมนี้ไม่ได้ใช้ทรัพยากรเยอะอยู่แล้ว แต่ภาพที่ออกมามันเป็นอนิเมชันสองมิติที่คมชัดมากเลยแอบกังวลในตอนแรก

บทสรุป

สำหรับผมคิดว่า Is This Seat Taken? เป็นเกมพัสเซิลที่เล่นง่ายและมีอะไรมากกว่าที่เราจะคิดว่าเป็นแค่เกมรับใช้คนเรื่องมากที่ชอบรีเควสต์นู่นนี่ และด้วยราคาที่ค่อนข้างเป็นมิตรกับกระเป๋าสตางค์เช่นเดียวกับจำนวนฉากที่มีให้เล่น ก็ถือว่าคุ้มค่าทีเดียวครับ ใครที่กำลังมองหาเกมปริศนาสนุกๆ เล่นเพลินๆ ไม่ควรพลาดเลย ไม่มีการเก็บคะแนนแบบ Competitive ให้ปวดสมองเพราะแค่ต้องพลีสคนเหล่านี้ก็กุมขมับมากพอ (ฮา)

สำหรับใครที่สนใจเกมนี้สามารถหาซื้อได้แล้วบน Nintendo Switch, PC และสมาร์ทโฟนระบบ iOS หรือ Android โดยเวอร์ชัน PC บน Steam จะมีระบบ Achievement เช่นเดียวกับเดโมให้ทดลองเล่นได้ฟรีในฉากๆ แรกก่อนด้วยเพื่อเป็นการตัดสินใจ สำหรับโอกาสหน้า ThisIsGame Thailand จะมีอะไรมาแบ่งปันอีกนั้นว่าแล้วอย่าลืมติดตามที่นี่เพื่อไม่ให้พลาดความเคลื่อนไหวในวงการเกมก่อนใครครับ

GantaroZX

ใครใครเขาก็รู้ ว่าหนูอ่ะเปิดเผย หนูสั้นของหนูอย่างเงี้ย หนูเน้นเซ็กซี่เฉยๆ
Back to top button