นับว่าเป็นหนึ่งในเกมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกไปแล้วสำหรับ Fortnite ที่มีวิวัฒนาการจากเกมรูปแบบ Tower-defense สร้างฐานทัพจนเบนเข็มมาทำโหมด Battle Royale แยกแบบเต็มตัวและต่อยอดเป็นเอนจิ้นพัฒนาเกมที่อยู่ในเกมเองแล้ว แต่ใครเล่าจะรู้ครับว่าที่จริงแล้วเบื้องหลังการออกแบบโหมดนี้ไม่ได้เป็นเพราะการเกาะกระแสตามยุค 2017 ที่มีเกมเอาตัวรอดเข็นออกมาอย่างบ้าคลั่งแต่อย่างใด
Donald Mustard อดีตเจ้าหน้าที่ CCO ของ Epic Games ได้มีโอกาสพูดคุยกับเว็บไซต์ Game File ถึงที่มากว่าจะเป็น Fortnite ในเวอร์ชันที่เรารู้จักกันด้วย ซึ่งเขาเปิดเผยว่าระหว่างที่กำลังจะเดินทางไปประชุมในแคลิฟอร์เนีย เขาและ Paul Meegan อดีตประธานใหญ่, Kim Libreri เจ้าหน้าที่ CTO เช่นเดียวกับ Tim Sweeney ผู้ก่อตั้งค่าย กำลังนั่งรถ Uber กันอยู่แล้วลองนำเสนอขึ้นมาดูว่าถ้าเกิดจะนำเกมเพลย์นี้มาใส่ใน Fortnite ที่ เวลาดังกล่าวยังคงเป็นเกมแอ็กชันแบบสร้างฐาน รายได้เองก็ไม่สามารถพูดเต็มปากว่าคุ้มทุน ห่างไกลจากภาพที่เขาจินตนาการมากนัก
หลังจากนั้นแล้ว Donald จึงเริ่มเอากระดาษมาเขียนร่างแผนงานทันที และก็เกิดตาดีมองเห็นรถโรงเรียนในถนน เลยกลายเป็นว่าหยิบให้เอารถรูปทรงดังกล่าวมาทำเป็น Battle Bus ที่ลอยบนท้องฟ้า ก่อนจะปล่อยลงมาสู่สมรภูมิรบขนาด 100 คน และเดชะบุญ หลังจากเปิดรูปแบบ Early Access ไม่นาน พวกเขาก็ตัดสินใจเปิดให้เกมเป็นเกมฟรีและเริ่มต้นระบบซีซันอย่างเป็นทางการในปลายปี 2017 จนประสบความสำเร็จท่วมท้นมาถึงปัจจุบันเลยครับ เรียกได้ว่าเป็นทริป Uber ที่พลิกชีวิต Epic Games ทีเดียว
อีกด้านหนึ่ง Fortnite เปิดให้บริการแล้วบน PlayStation 4, Xbox One และ PC เช่นเดียวกับแพลตฟอร์มเน็กซ์เจ็น โดยเป็นเกมแนวป้องกันฐานทัพจากซอมบี้ พร้อมโหมดเล่นฟรีอย่าง Fortnite: Battle Royale ที่มีการให้บริการบนเครื่องเล่น Nintendo Switch และอุปกรณ์ Android ด้วย โดยทุกแพลตฟอร์มจะสามารถเล่นเกมร่วมกันและถ่ายโอนเซฟได้อย่างไม่มีปัญหา ส่วนโอกาสหน้า ThisIsGame Thailand จะมีอะไรมาแบ่งปันอย่าลืมติดตามกันนะ