
ดูเหมือนว่า Square Enix จะตั้งใจ “เขียนประวัติศาสตร์บทใหม่” ให้กับแฟน ๆ Dragon Quest อย่างแท้จริง หลังจากประกาศว่า “Dragon Quest VII Reimagined” เกมรีเมคของภาคคลาสสิกในตำนาน จะไม่เพียงแค่ปรับเนื้อเรื่องให้กระชับขึ้นเท่านั้น แต่ยังมาพร้อมกับ “ฉากจบใหม่ทั้งหมด” ที่จะเปลี่ยนแปลงไปตามการเลือกของผู้เล่นในเกม ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่สำหรับแฟรนไชส์ RPG อันยิ่งใหญ่นี้
Dragon Quest VII Reimagined จะมีฉากจบใหม่ที่เปลี่ยนไปตามทางเลือกของผู้เล่น
จากบทสัมภาษณ์ล่าสุดของ Takeshi Ichikawa โปรดิวเซอร์ประจำเกม ซึ่งให้ข้อมูลกับ Game Informer เขาเปิดเผยว่า “Dragon Quest VII Reimagined จะดำเนินตามเนื้อเรื่องหลักของต้นฉบับ แต่ในบางช่วง ผู้เล่นจะต้องตัดสินใจ และการเลือกนั้นจะส่งผลให้เกิดตอนจบใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อนในทุกเวอร์ชั่นที่ผ่านมา” โดยทาง Ichikawa กล่าวเพิ่มเติมว่า “แม้ผู้ที่เคยเล่น Dragon Quest VII เวอร์ชั่นเก่ามาแล้ว ก็ยังจะได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ทั้งหมดจากการรีเมคในครั้งนี้”
แม้ Square Enix ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดของตอนจบใหม่นี้อย่างเป็นทางการ แต่จากถ้อยคำของ Ichikawa ทำให้แฟน ๆ ต่างคาดเดาว่า ระบบการตัดสินใจของผู้เล่น จะมีผลมากกว่าที่เคยเห็นในภาคก่อน ๆ ซึ่งมักจะเพิ่มฉากพิเศษหรือบอสลับในช่วงท้ายเกมเท่านั้น นอกจากนี้แหล่งข่าวยังระบุว่า นี่อาจเป็นการ “เขียนเรื่องราวจุดจบใหม่” ที่มีผลต่ออารมณ์และทิศทางของเนื้อเรื่องอย่างแท้จริง ไม่ใช่แค่ตอนจบเพิ่มเติมเหมือนที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นแนวทางที่ไม่ค่อยได้เห็นบ่อยในซีรีส์ Dragon Quest
แม้ Dragon Quest VII จะขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในภาคที่มีเนื้อเรื่องเข้มข้นและยาวที่สุดของซีรีส์ แต่ในเวอร์ชั่น Reimagined นี้ Square Enix ตั้งใจ “ปรับโครงสร้างเรื่องราว” ให้กระชับและไหลลื่นมากขึ้น เพื่อให้ผู้เล่นยุคใหม่เข้าถึงได้ง่ายขึ้นโดยไม่เสียเอกลักษณ์ของต้นฉบับ การเพิ่มระบบ “ตัวเลือกของผู้เล่น” ที่ส่งผลต่อตอนจบ อาจเป็นการยกระดับการเล่าเรื่องในแฟรนไชส์นี้ให้ทันสมัยยิ่งขึ้น และเปิดโอกาสให้ผู้เล่นมีส่วนร่วมกับชะตากรรมของตัวละครได้อย่างแท้จริง
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการยืนยันว่า ตอนจบใหม่นี้จะมีจำนวนกี่แบบ หรือจะเปลี่ยนแปลงโลกของเกมในระดับใด แฟน ๆ คงต้องรอชมรายละเอียดเพิ่มเติมจาก Square Enix ในเดือนต่อ ๆ ไป
Dragon Quest VII Reimagined เกม JRPG ที่ได้รับการรีเมคใหม่จากภาค Fragments of the Forgotten Past เรื่องราวของเกมนี้เกี่ยวข้องกับอาณาจักร Estard และผู้กล้าของเราได้เดินทางไปยังโลกอดีตเพื่อต่อสู้กับศัตรูที่ยึดบ้านเกิดในโลกปัจจุบันไปนั่นเอง ถือว่าเป็นเรื่องราวที่น่าสนใจไม่น้อยเข้ากับเมคานิกการเดินทางข้ามเวลา พร้อมเพิ่มคอนเทนต์เนื้อเรื่องใหม่ เควสใหม่ มินิเกมใหม่ และระบบต่อสู้ที่มีความเป็นไดนามิกมากขึ้น โดยเกมนี้มีกำหนดวางจำหน่ายในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2026 สำหรับ PC, PS5, Xbox Series X|S, Nintendo Switch และ Switch 2 โดยเวอร์ชั่น Steam จะออกตามมาในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2026





