
เมื่อไม่นานมานี้ Square Enix ได้ประกาศเปิดตัวรายละเอียดใหม่ของ Dragon Quest VII Reimagined เกมรีเมกภาคดังในรูปแบบ RPG เทิร์นเบส ที่ถูก “สร้างใหม่” ด้วยสไตล์ศิลป์แฮนด์คราฟพร้อมภาพและฟีเจอร์ที่พัฒนาอย่างก้าวกระโดด โดยตัวเกมมีกำหนดวางจำหน่ายพร้อมกันทั่วโลกในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2026 บน PlayStation 5, Xbox Series, Switch 2, Switch และ PC ผ่าน Steam และ Microsoft Store
ล่าสุดทาง Gematsu ได้ออกมาอัปเดตข้อมูลใหม่ของเกมมาให้เราได้ติดตามกันเพียบ!
Dragon Quest VII Reimagined การผจญภัยครั้งใหม่ในตำนาน

Dragon Quest VII Reimagined คือการรีเมกของ Dragon Quest VII: Fragments of the Forgotten Past ที่วางจำหน่ายครั้งแรกบน PlayStation ในปี 2000 เนื้อเรื่องเล่าถึงกลุ่มเพื่อนวัยเด็กบนเกาะ Estard ที่ออกเดินทางเพราะความอยากรู้อยากเห็น ก่อนจะค้นพบเส้นทางผจญภัยครั้งใหญ่ที่พาพวกเขาย้อนข้ามกาลเวลา เผชิญหน้ากับพลังมืด และค้นหาความจริงของโลกที่พวกเขาอาศัยอยู่

เกมเวอร์ชั่นใหม่นี้มาพร้อมกราฟิกสไตล์แฮนด์คราฟที่ดูเหมือนโมเดลไดโอรามา สะท้อนเสน่ห์อบอุ่นตามแบบฉบับของซีรีส์ Dragon Quest โดยยังคงเอกลักษณ์งานออกแบบตัวละครจากอาจารย์ อากิระ โทริยามะ ศิลปินมังการะดับตำนานไว้ครบถ้วน นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงระบบอินเทอร์เฟซใหม่ให้ง่ายต่อการใช้งาน พร้อมด้วยกิจกรรมเสริมอย่างสนามประลองและมินิเกม Lucky Panel ให้ผู้เล่นได้พักจากเนื้อเรื่องหลัก

ในส่วนของตัวละครหลัก นอกจากพระเอกผู้เป็นลูกชาวประมงแล้ว ยังมีผองเพื่อนอย่างเจ้าชาย Kiefer, Maribel สาวเพื่อนซี้จอมดื้อ, Ruff เด็กชายผู้ผูกพันกับหมาป่า, Aishe นักรบหญิงผู้ศรัทธาเทพธิดา, และ Sir Mervyn อัศวินผู้เคยต่อสู้กับจอมมาร ร่วมเดินทางไปบนเส้นทางอันยิ่งใหญ่ครั้งนี้
ระบบต่อสู้และคอนเทนต์เสริม

ระบบต่อสู้ของ Dragon Quest VII Reimagined ได้รับการพัฒนาใหม่ โดยยังคงความเป็นเทิร์นเบส แต่เพิ่มความลื่นไหลและความเร้าใจ ผู้เล่นสามารถโจมตีศัตรูเล็ก ๆ ได้ทันทีโดยไม่ต้องเข้าฉากต่อสู้ อีกทั้งยังมีระบบออโต้แบทเทิลและการปรับสปีดการต่อสู้ตามต้องการ
ตัวละครสามารถเลือกอาชีพ (Vocation) ได้หลากหลาย ทั้งยังมีฟีเจอร์ Moonlighting ที่ให้ใช้อาชีพคู่เพื่อเพิ่มความหลากหลายเชิงกลยุทธ์ และยังมี “Perk” หรือความสามารถพิเศษของแต่ละอาชีพที่ปลดปล่อยได้เมื่อสะสมพลังถึงจุดสูงสุด

นอกจากนี้ Square Enix ยังเตรียมคอนเทนต์เสริมแบบ DLC 3 ชุด ได้แก่
The Road of Regal Wretches: สนามประลองกับศัตรูระดับตำนาน พร้อมรางวัลล้ำค่าอย่างดาบ Erdrick
Luminary’s Livery: ชุดคอสตูมจาก Dragon Quest XI ให้เปลี่ยนลุคตัวละครหลัก
Jam-Packed Swag Bag: ไอเทมและอุปกรณ์ธีมสไลม์ รวมถึงบัฟเพิ่มค่า EXP และทอง
สำหรับผู้ที่ต้องการมากกว่าเวอร์ชั่นปกติ ยังมี Collector’s Edition พร้อมของสะสมพิเศษ เช่น โมเดลเรือในขวด และตุ๊กตาสไลม์เฉพาะเวอร์ชั่นนี้ รวมถึง Digital Deluxe Edition ที่ให้สิทธิ์เข้าเล่นล่วงหน้า 48 ชั่วโมง



ผู้อ่านคนใดต้องการติดตามข่าวทั้งหมดของ This Is Game Thailand ก็สามารถมาได้ที่นี่ครับ >>>คลิก<<<