หลังจากสร้างปรากฏการณ์ในวงการเกมทั่วโลกด้วย Elden Ring ล่าสุด FromSoftware ก็เตรียมส่งผลงานใหม่ในจักรวาลเดียวกันอย่าง Elden Ring NIGHTREIGN ที่แม้จะเป็นภาคแยก แต่เบื้องหลังของเกมนี้กลับมีต้นตอจากความคิดที่ฝังอยู่ในใจของผู้กำกับมาตั้งแต่สมัย Dark Souls 3 เลยทีเดียว
Elden Ring NIGHTREIGN เกมภาคแยกที่ฝังอยู่ในใจมานาน
ในบทสัมภาษณ์ล่าสุดกับเว็บไซต์ GamesRadar+ ผู้กำกับ Elden Ring NIGHTREIGN อย่าง Junya Ishizaki ได้เล่าว่าเขามีแนวคิดเกี่ยวกับเกมนี้ตั้งแต่ยังทำงานในทีม Dark Souls 3 เมื่อปี 2016 โดยในตอนนั้นยังเป็นเพียงไอเดียกระจัดกระจายที่ยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง นอกจากนี้เขายังเผยว่ากว่าจะรวบรวมความคิดทั้งหมดได้ชัดเจน ก็คือตอนที่เริ่มเห็นภาพรวมของโลก Elden Ring ที่มีทั้งความหลากหลายของศัตรู อาวุธ และรูปแบบการเล่นของผู้เล่น ทำให้รู้สึกว่า “นี่แหละ คือโอกาสที่จะขยายแนวคิดเดิมที่มีมานานให้เป็นรูปธรรม”
แม้จะเป็นผลงานกำกับเกมเต็มตัวครั้งแรกของเขา แต่ Ishizaki ก็ได้รับการสนับสนุนจาก Hidetaka Miyazaki ประธาน FromSoftware และผู้กำกับหลักของ Elden Ring โดยตรง
นอกจากนั้น เขายังบอกอีกว่า หากมีโอกาสในอนาคต ก็อยากลองกำกับเกมใหม่ที่ไม่ผูกติดกับ IP เดิม ๆ เช่น Elden Ring หรือ Dark Souls เพราะเชื่อว่าการพัฒนาเกมต้องปรับตัวตามสิ่งที่ “ตัวเกมต้องการจะเป็น” ซึ่งอาจทำให้โปรเจกต์ถัดไปมีความแตกต่างและท้าทายยิ่งขึ้น
จากบทสัมภาษณ์ของ Ishizaki จะเห็นได้ชัดว่า FromSoftware กำลังเปิดทางให้ผู้พัฒนายุคใหม่ได้แสดงความสามารถอย่างเต็มที่ ซึ่งเป็นแนวโน้มที่ดีต่อบริษัทในระยะยาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมเกมที่การเปลี่ยนแปลงและไอเดียใหม่ ๆ คือหัวใจสำคัญ และหากเกมนี้ประสบความสำเร็จ จะไม่เพียงยืนยันความสามารถของ Ishizaki ในฐานะผู้กำกับเท่านั้น แต่ยังอาจเป็นก้าวสำคัญของ FromSoftware ในการขยายขอบเขตการสร้างสรรค์เกมแบบใหม่ ๆ โดยไม่ยึดติดกับรูปแบบเดิม และอาจเป็นจุดเริ่มต้นของซีรีส์หรือแนวเกมใหม่ที่น่าจับตามองในอนาคต
Elden Ring NIGHTREIGN เป็นเกมรูปแบบแอ็กชั่น Souls-like ในธีมดาร์กแฟนตาซีจากโลกฉากหลังของเกมภาคหลักที่ถูกถ่ายทอดใหม่เพื่อประสบการณ์แบบ Co-op Multiplayer โดยเฉพาะ ผู้เล่นจะได้จับกลุ่มกับสมาชิกในทีมรวมสามคน เดินทางไปในแดนมัชฌิมาที่ ณ ตอนนี้ถูกบดบังด้วยภัยคุกคามแห่งความมืดมิดของยามราตรีจนเกิดมอนสเตอร์เลวร้ายบุกรุกเข้ามา ซึ่งตัวละครต่าง ๆ จะมีรูปแบบการนำเสนอสไตล์เกมเพลย์ที่ต่างกันด้วยโดยเกมนี้เกมยังมีองค์ประกอบคล้ายกับ Roguelike ด้วยนั่นก็คือทุกครั้งที่ยามราตรีมาถึง สภาพแวดล้อมต่าง ๆ ก็จะเปลี่ยนไป เช่นศัตรูหรือบอสที่จะมีความแตกต่าง ทำให้ไม่สามารถคาดเดาได้ว่าอันตรายข้างหน้านั้นจะเป็นอย่างไรกันแน่!
