6 สิ่งที่ทำให้ ELDEN RING NIGHTREIGN แตกต่างจากเกมแนวโดดร่มทั่วไป
เกม Battle Royale ยุคใหม่ที่ใช้ธีมของยุคเก่า จากเกมตระกูล Soulslike สู่เกมโดดร่ม
สวัสดีครับเพื่อน ๆ ชาวเกมเมอร์ทุกท่าน หลังจากที่พวกเขาสร้างปรากฏการณ์ไปทั่วโลกด้วย ELDEN RING ไปแล้ว ทีม FromSoftware ก็กลับมาพร้อมผลงานล่าสุด ELDEN RING: NIGHTREIGN เกมแนว Battle Royale ที่ผสมกลิ่นอาย Soulslike ได้อย่างแปลกใหม่ ผลงานนี้ยังคงจัดจำหน่ายโดย Bandai Namco และเตรียมวางจำหน่ายในวันที่ 15 กันยายน 2025 ทั้งบน PlayStation 5, Xbox Series X|S และ PC ผ่าน Steam แล้วอะไรคือสิ่งที่ทำให้ NIGHTREIGN แตกต่างจากเกมแนวโดดร่มเกมอื่นกันล่ะ ไปชมกันเลยครับ
1. ไม่ใช่แค่ยิง แต่คือการฟาดฟันและเวทมนตร์
สิ่งที่ทำให้ ELDEN RING: NIGHTREIGN แตกต่างอย่างชัดเจนจากเกมแนวโดดร่มทั่วไป คือการที่เกมไม่ได้เน้นแค่ “การยิงปืน” แต่เปลี่ยนสนามรบให้กลายเป็นเวทีแห่งการประลองดาบและคาถา ผู้เล่นจะได้เลือกใช้อาวุธที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นดาบใหญ่ หอก ดาบโล่ ธนูเวท หรือแม้แต่คาถาแห่งความมืดสุดพิศวง ซึ่งแต่ละแบบก็มีท่วงท่าการโจมตีที่ต้องอาศัยจังหวะและกลยุทธ์ เช่นเดียวกับระบบ Soulsborne แบบคลาสสิก ใครที่ชินกับการล็อกเป้าแล้วกดรัว อาจต้องปรับตัวใหม่ เพราะ NIGHTREIGN ไม่ได้ให้รางวัลกับคนที่รีบฆ่าไว แต่มอบชัยชนะให้กับคนที่อ่านเกมขาดและใช้พลังให้เป็นครับ
2. ระบบ Stamina และ Hit Confirm แบบ Soulsborne
แม้จะมาในรูปแบบ Battle Royale แต่ NIGHTREIGN กลับใช้ระบบ Stamina ที่ทำให้ทุกการเคลื่อนไหวมีต้นทุนที่ต้องจ่าย ผู้เล่นต้องบริหารพลังอย่างรอบคอบ ทั้งการหลบ การกลิ้ง การโจมตีหนัก โจมตีเบา ล้วนใช้เกจ Stamina ร่วมกัน ถ้ากดมั่วหรือฟันรัวเกินไป จะไม่เหลือพลังแม้แต่จะวิ่งหนี และอีกระบบที่สำคัญคือ Hit Confirm ซึ่งไม่ได้แค่ให้โจมตีโดน แต่ยังมีการยืนยันการปะทะที่อิงจาก hitbox จริง หรือก็คือโดนโจมตีแล้วชะงักนั่นแหละครับ เช่นเดียวกับเกม Soulsborne ทุกครั้งที่ฟาดอาวุธโดนคู่ต่อสู้ จะมีแรงสะเทือนที่ส่งผลต่อจังหวะเกม ทำให้การโจมตีต้องใช้ทั้งความแม่นยำและความใจเย็น ไม่ใช่แค่ใครเร็วใครรัวกว่าก็ชนะครับ
3. แผนที่แนวแฟนตาซีโลกมืด ไม่ใช่สนามรบยุคปัจจุบัน
ในขณะที่เกม Battle Royale ส่วนใหญ่เลือกใช้สนามรบแบบสมรภูมิทหารหรือเมืองล่มสลายเป็นฉากหลัง NIGHTREIGN กลับพาผู้เล่นเข้าสู่โลกแฟนตาซีอันมืดมนสไตล์ Dark Fantasy เต็มรูปแบบ เช่น ปราสาทพังทลาย หมู่บ้านรกร้าง ทุ่งหญ้าแห้งกรัง และสุสานที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของความตาย แผนที่ถูกออกแบบให้มีระดับความสูงต่ำซับซ้อน มีเส้นทางลับและจุดซุ่มโจมตีแบบที่ต้องอาศัยการอ่านพื้นที่ ไม่ใช่แค่การหาจุดยิง ตัวฉากยังสะท้อน Lore ของโลกเกมในสไตล์ Soulsborne อย่างชัดเจน ทำให้ผู้เล่นรู้สึกเหมือนได้ผจญภัยในโลกที่มีอดีต มีความลับ ปริศนา และมีวิญญาณเร่ร่อนรอการชำระแค้นอยู่ทุกซอกมุมครับ
4. ระบบอัปเกรดตัวละครและคลาสที่หลากหลาย
ELDEN RING: NIGHTREIGN ไม่ได้ให้ผู้เล่นเริ่มต้นด้วยแค่สกินที่ต่างกันเท่านั้น แต่เกมจะมีระบบคลาสและสกิลเฉพาะทางที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นนักดาบ อัศวินเวท หรือนักลอบสังหาร ต่างก็มีสายการเล่นและอาวุธประจำตัวที่ไม่เหมือนกัน เมื่อเข้าเกม ผู้เล่นสามารถเก็บ รูน เพื่อใช้อัปค่าสถานะแบบเดียวกับที่เราคุ้นเคยใน Soulsborne ทั้ง STR, DEX, INT และอื่น ๆ ส่งผลโดยตรงต่อพลังโจมตี ความเร็ว และความสามารถในการใช้เวท ทำให้เกมการเล่นแต่ละรอบไม่เหมือนกันเลยแม้แต่น้อย เพราะคุณสามารถสร้างสาย Build ที่หลากหลายได้ทุกครั้งที่เล่น จึงตอบโจทย์ทั้งสาย Solo และสาย Co-op ที่ต้องการวางแผนร่วมกันกันเพื่อนนั่นเอง
5. Lore ที่ลึกและความตายที่มีความหมาย
ต่างจากเกมแนว Battle Royale ทั่วไปที่เน้นความมันส์เป็นหลัก NIGHTREIGN แทรก Lore หรือเนื้อเรื่องเบื้องหลังโลกแฟนตาซีอันมืดมนไว้อย่างลึกซึ้ง ทุกพื้นที่ในแผนที่ ทุกตัวละครที่คุณเจอ ล้วนมีอดีต มีแผล มีแรงจูงใจที่สะท้อนถึงโลกที่ใกล้ล่มสลาย และความตายไม่ใช่แค่การจบเกม แต่เป็นส่วนหนึ่งของการเล่าเรื่องเพราะการตายของผู้เล่นจะทิ้ง “เงาวิญญาณ” ไว้ให้ผู้อื่นอ่านเบาะแส หรือแม้แต่ตามรอยเพื่อแก้แค้น ไม่ใช่แค่เกิด-สู้-ตายแล้วก็จบ แต่ NIGHTREIGN พยายามใส่น้ำหนักให้กับความตายมากพอ ๆ กับการมีชีวิตอยู่ จนทำให้ทุกการต่อสู้มีความหมายและทิ้งร่องรอยของตัวตนไว้ในโลกเกมแม้ร่างจะสิ้นแล้วก็ตาม
6. การรอดเป็นคนสุดท้ายไม่ใช่เป้าหมายเดียวของการเล่น
ELDEN RING: NIGHTREIGN แตกต่างจากเกม Battle Royale ทั่วไปที่เน้นแค่การรอดเป็นคนสุดท้ายเพียงอย่างเดียว แต่เกมนี้เพิ่มมิติใหม่ด้วยการให้ความสำคัญกับเป้าหมายอื่น ๆ เช่น การเก็บรวบรวมทรัพยากร การอัปเกรดตัวละคร และการค้นหา Lore ในโลกแฟนตาซีที่เต็มไปด้วยความลึกลับ ผู้เล่นบางคนอาจเลือกหลบหลีกการปะทะเพื่อเน้นพัฒนาตัวเองก่อน บางคนเน้นเก็บไอเท็มสำคัญ หรือบางครั้งก็ต้องร่วมมือกับผู้เล่นอื่นแบบชั่วคราว ทำให้เกมไม่ใช่แค่การยิงกันจนหมดแรง แต่เป็นการวางแผน การบริหารทรัพยากร และการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ที่หลากหลาย เพื่อชัยชนะในรูปแบบที่แตกต่างกันครับ
ELDEN RING: NIGHTREIGN ไม่ใช่แค่เกมแนวโดดร่มธรรมดา แต่เป็นการผสมผสานระหว่างความท้าทายแบบ Soulsborne กับโลกแฟนตาซีสุดลึกลับ ที่มอบประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้กับแฟนเกม Battle Royale และสาย RPG ได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นระบบสติมินา การอัปเกรดคลาส หรือ Lore ที่ลึกซึ้ง ทุกอย่างช่วยสร้างความแตกต่างที่ทำให้เกมนี้น่าจับตามองและรอคอยอย่างใจจดใจจ่อแน่นอนครับ ใครสนใจก็สามารถซื้อเกมนี้มาลองเล่นกันได้นะ 🙂
