[Seven Knights Re:BIRTH] 8 เคล็ดลับและเทคนิคพิเศษสำหรับผู้เล่นมือใหม่

#1. อัศวินหลักที่แนะนำสำหรับการผจญภัย – ดีลเลอร์ความเสียหายแบบ AoE

สำหรับผู้เล่นใหม่ที่เริ่มเล่น Seven Knights Re:BIRTH สิ่งที่แนะนำที่ดีที่สุดในช่วงแรกคือการเล่นผ่านสเตจผจญภัย โดยการผจญภัยจะแบ่งออกเป็นหลายดินแดน และจะปลดล็อกต่อไปเมื่อเคลียร์ทุกสเตจในดินแดนหนึ่ง

เมื่อผู้เล่นเคลียร์สเตจผจญภัยไปเรื่อย ๆ ระบบพัฒนาและคอนเทนต์ใหม่ ๆ ก็จะพร้อมใช้งาน ให้ผู้เล่นได้เพลิดเพลินไปกับฟีเจอร์ต่าง ๆ มากขึ้น พร้อมเติบโตพัฒนาได้เร็วขึ้น  นอกจากนี้ ดินแดนที่เลเวลสูงขึ้นยังจะมอบรางวัลที่มากขึ้น เช่น EXP อัศวินและทอง ซึ่งจะทำให้ผู้เล่นได้เปรียบอย่างเห็นได้ชัดในการฟาร์มรูบี้ (อธิบายเพิ่มเติมในภายหลัง)

เพื่อผ่านสเตจผจญภัยอย่างมีประสิทธิภาพ เหล่าดีลเลอร์สร้างความเสียหายแบบ AoE (การโจมตีวงกว้าง) ซึ่งเป็นอัศวินที่สามารถสร้างความเสียหายอย่างหนักให้กับศัตรูหลายตัวได้นั้นถือเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง โดยอัศวินต่อไปนี้คืออัศวินที่มีความโดดเด่นในบทบาทนี้:

[อัศวินหายาก]

1. เรย์: ดีลเลอร์ AoE สายกายภาพ พร้อมผล ‘พรางตา’ เพื่อความอยู่รอด จัดการศัตรูอย่างหมดจดด้วยสกิลที่สร้างผลสถานะผิดปกติ ก่อให้เกิดความเสียหาย DoT (ความเสียหายต่อเนื่อง) เช่น เลือดไหลและติดพิษ
2. ซิลเวีย: ดีลเลอร์ AoE สายเวท ผู้ที่สามารถอยู่รอดชั่วคราวได้แม้จะพ่ายแพ้ไปแล้วด้วยผล ‘อมตะ’ ส่งมอบการโจมตีแบบระเบิดอันทรงพลัง พร้อมลดพลังป้องกันและความเสียหายไม่สนป้องกัน

[อัศวินตำนาน]

1. เบลลีก้า: ดีลเลอร์ AoE สายเวทที่มอบบัฟเพิ่มอัตราคริติคอล การโจมตีของเธอจะทรงพลังยิ่งขึ้นด้วยโบนัสความเสียหายเพิ่มเติมเมื่อสกิลติดคริติคอล
2. เจฟ: ดีลเลอร์ AoE สายกายภาพที่สร้างโทษหมดสติและเผาไหม้ รับพลังป้องกันเพิ่มขึ้นตามสัดส่วนของพลังโจมตี เสริมการอยู่รอดเป็นอย่างดี
3. แทโอ: ดีลเลอร์ AoE สายกายภาพ ผู้ที่สามารถอยู่รอดชั่วคราวได้แม้จะพ่ายแพ้ไปแล้วด้วยผล ‘อมตะ’ โดดเด่นในการรับมือกับศัตรูที่แข็งแกร่งด้วยการโจมตีทะลุทะลวงและลดเทิร์นบัฟ

#2. เจออุปสรรคอยู่ใช่ไหม? – 1) รูปแบบ & จองสกิลล่วงหน้า

หากผู้เล่นเจออุปสรรคในระหว่างที่เล่นสเตจผจญภัย ให้ลองเช็กองค์ประกอบต่าง ๆ ด้านล่างนี้ บางครั้งการปรับการตั้งค่าอาจช่วยให้ผู้เล่นผ่านด่านได้โดยไม่ต้องพัฒนาอะไรเพิ่มเติม

1. เปลี่ยนรูปแบบ: ลองเปลี่ยนรูปแบบในหน้าการจัดทีม อัศวินที่อยู่แถวหน้ามีโอกาสถูกโจมตีสูงกว่า แต่จะได้รับพลังป้องกันเพิ่มขึ้น ในขณะที่อัศวินที่อยู่แถวหลังมีโอกาสถูกโจมตีน้อยกว่าและมีพลังโจมตีเพิ่มขึ้น แม้แต่การเปลี่ยนการจัดทีมอัศวินใหม่ทั้งสี่รูปแบบที่มีอยู่ก็สามารถสร้างความแตกต่างได้อย่างมาก

2. เปลี่ยนอัศวินที่จัดวาง: พัฒนาอัศวินต่าง ๆ และเปลี่ยนอัศวินที่จัดวาง หากทีมของผู้เล่นไม่สามารถต้านทานการโจมตีของศัตรูได้ ให้เพิ่มอัศวินสายป้องกันหรือสายสนับสนุนเพื่อให้รูปแบบกองกำลังของผู้เล่นแข็งแกร่งขึ้น หากผู้เล่นแพ้แบบเฉียดฉิว เพิ่มอัศวินสายโจมตีเพื่อเพิ่มผลความเสียหาย

3. จัดจองสกิลล่วงหน้า: ใช้สกิลบัฟก่อนเพื่อเสริมความแกร่งให้กับทีม ให้พวกเขาโจมตีได้หนักขึ้นและจัดการศัตรูได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น หรืออีกทางเลือกหนึ่งคือเริ่มต้นด้วยสกิลผลสถานะ AoE เพื่อหยุดการเคลื่อนไหวของศัตรูทั้งหมด การเปลี่ยนลำดับสกิลสามารถเปลี่ยนทางการต่อสู้ได้อย่างมากเมื่อเทียบกับการเล่นครั้งก่อนของผู้เล่น

#3. เจออุปสรรคอยู่ใช่ไหม? – 2) อัปเกรด / วิวัฒนาการ

หากผู้เล่นเจออุปสรรคที่ไม่สามารถผ่านไปได้ แม้จะเปลี่ยนรูปแบบหรือปรับเปลี่ยนการจองสกิลล่วงหน้าแล้วก็ตาม ก็ถึงเวลาที่จะโฟกัสไปที่การเพิ่มพลังอัศวินของผู้เล่นโดยตรง การมุ่งเน้นไปที่สองวิธีด้านล่างนี้ จะช่วยให้ผู้เล่นก้าวข้ามอุปสรรคไปได้!

1. อัปเกรดอัศวิน: ผู้เล่นสามารถอัปเกรดอัศวินได้ในแถบ ‘อัปเกรด’ ใต้เมนูพัฒนาอัศวิน วางอัศวินที่ต้องการเสริมความแกร่งไว้บน ‘อัศวินที่พัฒนา’ จากนั้นใช้อัศวินอื่นเป็นวัตถุดิบในการอัปเกรดสูงสุดถึง +5  อัศวินที่พัฒนาแล้วจะได้รับค่าความสามารถพื้นฐานทั้งหมดเพิ่มขึ้น ทำให้แข็งแกร่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด  แม้ว่าการอัปเกรดอัศวินสามารถล้มเหลวได้ แต่ความล้มเหลวแต่ละครั้งจะค่อย ๆ เพิ่มอัตราความสำเร็จ ดังนั้นควรใช้อัศวินที่มีระดับความหายากต่ำกว่ามาเป็นวัตถุดิบ

2. วิวัฒนาการอัศวิน: เมื่ออัศวินบรรลุเลเวล 30 และอัปเกรด +5 แล้ว อัศวินสามารถวิวัฒน์ผ่านแถบ ‘วิวัฒนาการ’ การวิวัฒนาการจะเพิ่มระดับของอัศวิน เพิ่มค่าความสามารถโดยรวมและอัปเกรดสกิล  นี่คือวิธีการพัฒนาที่ผู้เล่นจะรู้สึกถึงพลังที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในช่วงแรก ๆ อย่างไรก็ตาม การวิวัฒนาการจำเป็นต้องใช้ ‘ธาตุ’ ที่ตรงกับคุณสมบัติของอัศวิน ซึ่งหาได้จากดันเจี้ยนพัฒนา  เนื่องจากการรวบรวมธาตุจำนวนมากในช่วงแรกอาจเป็นเรื่องยาก ดังนั้นควรให้ความสำคัญกับการวิวัฒนาการดีลเลอร์สร้างความเสียหายหลักของผู้เล่นก่อน

#4. เจออุปสรรคอยู่ใช่ไหม? – 3) เปลี่ยนอุปกรณ์, เซตอุปกรณ์

หากผู้เล่นยังติดขัดแม้หลังจากพัฒนาอัศวินแล้ว ก็ถึงเวลาที่ผู้เล่นมาโฟกัสที่อุปกรณ์กันบ้าง ซึ่งผู้เล่นสามารถหาอุปกรณ์ได้จากการเล่นผจญภัยหรือเรด และควรให้ความสำคัญกับวิธีการต่อไปนี้:

1. ติดตั้งอุปกรณ์: การพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ของอุปกรณ์ในช่วงแรกนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพียงติดตั้งอุปกรณ์ที่มีความหายากหรือระดับสูงกว่าในตอนนี้ไปก่อน  เนื่องจากอุปกรณ์ที่มีความหายากหรือระดับสูงกว่าจะมาพร้อมกับค่าสแตทพื้นฐานที่ดีกว่า มันจึงเป็นประโยชน์ต่อทีมของผู้เล่นอย่างแน่นอน

2. เปิดใช้งานผลเซตอุปกรณ์: มีผลเซตอยู่ 9 แบบ ติดตั้งอุปกรณ์ 2 ชิ้นที่มีผลเซตเดียวกันจะเปิดใช้งานโบนัส 2 เซต ในขณะที่ 4 ชิ้นจะเปิดใช้งานโบนัส 4 เซต  การเปิดใช้งานผลเซตจะมอบผลประโยชน์ที่แข็งแกร่งกว่ามาก ดังนั้นควรเน้นการติดตั้งอุปกรณ์จากเซตเดียวกัน

3. อัปเกรดอุปกรณ์: อุปกรณ์ยังสามารถอัปเกรดได้เหมือนกับอัศวิน แม้ว่าการอัปเกรดจะใช้ทองจำนวนมาก แต่มันช่วยเพิ่มสแตทและสามารถเพิ่มผลใหม่ ๆ ให้กับอุปกรณ์ได้อย่างมาก ทำให้คุ้มค่ากับการลงทุน  เนื่องจากทองอาจหาได้ยากในช่วงแรก ๆ จึงควรให้ความสำคัญกับการอัปเกรดอุปกรณ์ที่อัศวินหลักของผู้เล่นใช้ก่อน คล้ายกับการเน้นวิวัฒนาการให้กับดีลเลอร์สร้างความเสียหายหลักของผู้เล่น

#5. เล่นอย่างสม่ำเสมอ – ฟาร์มรูบี้ & ผสมอัศวิน

เมื่อคุณผ่านสเตจผจญภัยไปได้พอสมควรแล้ว ผู้เล่นจะเริ่มมองหาคอนเทนต์อื่น ๆ โดยอัตโนมัติ ก่อนอื่น การเข้าใจ ‘ฟาร์มรูบี้’ และ ‘ผสมอัศวิน’ เป็นสิ่งสำคัญ เพราะทั้งสองจะเป็นประโยชน์อย่างมาก

1. ฟาร์มรูบี้: นี่คือหนึ่งในระบบหลักของ Seven Knights Re:BIRTH เมื่อผู้เล่นใช้กุญแจเพื่อเคลียร์สเตจผจญภัย อัศวินทุกคนที่เข้าร่วมการต่อสู้จะได้รับ EXP แต่ละครั้งที่อัศวินถึงเลเวล 30 ผู้เล่นสามารถรับรูบี้จากกระดาน ‘ภารกิจ’ ได้

รูบี้ที่ผู้เล่นได้รับสามารถนำไปใช้เพื่อเรียกอัศวินหรือสัตว์เลี้ยงใหม่ ๆ หรือซื้อ ‘กล่องกุญแจ’ ที่ร้านค้าเพื่อฟาร์มต่อระหว่างทางผู้เล่นยังจะต้องคอยสะสมทอง, อุปกรณ์, และอัศวินเพิ่มเติม ทำให้การเล่นสม่ำเสมอเป็นหนทางสู่การเติบโตของบัญชีอย่างมั่นคง

การฟาร์มรูบี้ส่วนใหญ่จะทำผ่านระบบการต่อสู้ซ้ำ เพียงตั้งค่ารีเซตง่าย ๆ เช่น จำนวนการต่อสู้, กฎการเปลี่ยนอัศวิน, และจองสกิลล่วงหน้า ผู้เล่นก็สามารถเริ่มต้นการต่อสู้อัตโนมัติได้ด้วยการแตะเพียงครั้งเดียว

สิ่งสำคัญที่สุดคือการต่อสู้ซ้ำยังคงดำเนินต่อไปแม้ว่าคุณจะปิดเกมหรือเล่นคอนเทนต์อื่นไปแล้วก็ตาม เมื่อการต่อสู้สิ้นสุดลง ผู้เล่นสามารถเข้าเกมเพื่อรับรางวัลได้ง่าย ๆ ความยืดหยุ่นนี้ช่วยให้ผู้เล่นปรับแต่งการฟาร์มรูบี้ให้เหมาะกับสไตล์การเล่นของผู้เล่นเองได้

2. ผสมอัศวิน: หากผู้เล่นมีสองอัศวินที่มีระดับเดียวกันที่อัปเกรด +5 ขอแนะนำให้ลอง ‘ผสม’  การผสมจะสุ่มมอบอัศวินระดับสูงกว่า และถ้าโชคดี ผู้เล่นอาจได้รับอัศวินตำนานด้วย เนื่องจากการฟาร์มรูบี้จะสร้างอัศวินเลเวล 30 อย่างต่อเนื่อง ผู้เล่นสามารถใช้เป็นวัตถุดิบและมุ่งคว้าชัยครั้งใหญ่ผ่านการผสมได้

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การพยายามผสม 6 ดาวอย่างสม่ำเสมอจะรับประกันการได้รับเหล่าอัศวิน (อดีต) เซเว่นไนท์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในเกมและไม่สามารถหาได้จากการเรียก หากเป็นไปได้เมื่อใดก็ตาม ทำการผสมให้เป็นส่วนหนึ่งของกิจวัตรประจำวันของผู้เล่น

#6. รับมือคอนเทนต์ – ดีลเลอร์สร้างความเสียหาย & อัศวินสายสนับสนุน

Seven Knights Re:BIRTH มีอะไรมากกว่าแค่สเตจผจญภัย ผู้เล่นยังจะได้พบกับคอนเทนต์หลากหลายแบบ เช่น ดันเจี้ยนพัฒนาและเรด โหมดเหล่านี้มักต้องการอัศวินเฉพาะทาง ดังนั้นผู้เล่นควรจับตามองและเตรียมพร้อมล่วงหน้า

1. ดันเจี้ยนพัฒนา: ดันเจี้ยนพัฒนาคือที่ที่ผู้เล่นสามารถรับ ‘ธาตุ’ ซึ่งจำเป็นต่อการวิวัฒนาการอัศวินของผู้เล่น เช่นเดียวกับคุณสมบัติอัศวิน ดันเจี้ยนพัฒนามีอยู่ด้วยกันห้าประเภท ซึ่งแต่ละประเภทจะมีบอสเฉพาะตัว เพื่อการเคลียร์ดันเจี้ยนอย่างมีประสิทธิภาพ การตรวจเช็กกลไกของบอสก่อนเข้าเผชิญหน้าถือเป็นสิ่งสำคัญ

ยกตัวอย่างเช่น บอสแห่งดันเจี้ยนธาตุไฟ ‘ปูกิเขาลาวา’ จะสร้างผลสถานะเผาไหม้ให้กับทีมผู้เล่นอย่างต่อเนื่อง เพื่อรับมือกับปัญหานี้ อัศวินอย่าง ยูอิ หรือ เอเรียล ผู้ซึ่งมีคุ้มกันเผาไหม้จะเป็นประโยชน์เป็นอย่างมาก นอกจากนี้ ปูกิเขาลาวายังได้รับความเสียหายอย่างหนักเมื่อได้รับผลสถานะแช่แข็ง ดังนั้นอัศวินอย่าง ลาเนีย หรือ เฮฟเว่นเนีย ผู้ซึ่งมีสกิลแช่แข็งจะมีประสิทธิภาพอย่างมาก

เนื่องจากแต่ละดันเจี้ยนธาตุมีกลไกเฉพาะตัว ผู้เล่นควรศึกษาอย่างละเอียดและเตรียมอัศวินที่เหมาะสมสำหรับการต่อสู้แต่ละครั้ง

2. เรด: เรดต้องการกลยุทธ์ที่ซับซ้อนมากขึ้นและมีกลไกหลักที่ผู้เล่นต้องเอาชนะให้ได้

ตัวอย่างเช่น บอส ‘ปีศาจวัว’ จะเรียกลูกสมุนออกมาเป็นระยะ ๆ ซึ่งจะทำลายตัวเองหลังจากเวลาผ่านไประยะหนึ่ง สร้างความเสียหายอย่างหนักให้กับทีมของผู้เล่นทั้งทีม การใช้ดีลเลอร์สร้างความเสียหาย AoE เพื่อกำจัดเหล่าลูกสมุนทั้งหมดในคราวเดียวจะทำให้การต่อสู้ง่ายขึ้นมาก ในขณะเดียวกัน ปีศาจวัวมักจะใช้ผลอันตรายอย่าง การเป็นหิน และ เลือดไหล เพื่อขัดขวางการเอาชีวิตรอดและการกระทำของอัศวิน ในสถานการณ์เช่นนี้ อัศวินอย่าง ‘แบล็คโรส’ และ ‘คารอน’ ผู้ซึ่งสามารถบล็อกหรือล้างดีบัฟได้จะมีประสิทธิภาพสูง

#7. ภารกิจรายวัน

ก่อนปิดท้ายวันใน Seven Knights Re:BIRTH อย่าลืมทำภารกิจรายวันทั้งหมดให้สำเร็จจากกระดาน ‘ภารกิจ’ ซึ่งภารกิจเหล่านี้เป็นภารกิจง่าย ๆ ที่ผู้เล่นจะต้องทำให้สำเร็จระหว่างเล่น เช่น เคลียร์ผจญภัย 5 ครั้ง, อัปเกรดอุปกรณ์ 10 ครั้ง, หรือเคลียร์ 2 เรดให้สำเร็จ แต่ละภารกิจจะมอบ 20 คะแนนมิชชันรายวันเป็นรางวัล

เมื่อครบ 100 คะแนนมิชชันรายวัน ผู้เล่นจะปลดล็อกรางวัลรายวันทั้งหมดที่มี ดังนั้นการทำภารกิจเพียง 5 ภารกิจต่อวันก็เพียงพอแล้ว อีกทั้งรางวัลสุดท้ายก็มีรูบี้ ให้ผู้เล่นมีแหล่งรับไอเทมการเงินที่มั่นคง อย่าลืมกดรับทุกวัน

#8. เข้าร่วมกิลด์

สุดท้ายนี้ ขอแนะนำอย่างยิ่งให้เข้าร่วมกิลด์ กิลด์จะมอบรางวัลเช็กชื่อกิลด์, ภารกิจกิลด์, และคอนเทนต์พิเศษเฉพาะกิลด์ ซึ่งทั้งหมดนี้จะมอบรางวัลสุดคุ้มและเหรียญกิลด์ ซึ่งสามารถนำไปใช้เพื่อซื้อไอเทมที่มีประโยชน์ในร้านค้า ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการเติบโตของผู้เล่นเป็นอย่างดี

ขึ้นอยู่กับสไตล์การเล่นของผู้เล่น ผู้เล่นสามารถเลือกกิลด์ที่ตรงกับความต้องการของผู้เล่นได้ ไม่ว่าจะเป็นการแลกเปลี่ยนเคล็ดลับกับสมาชิกกิลด์, การแข่งขันเพื่อคว้าอันดับสูงในคอนเทนต์กิลด์ หรือแม้กระทั่งการสร้างกิลด์ของผู้เล่นเองเพื่อนำพากิลด์ไปในทิศทางที่ผู้เล่นต้องการ