กลุ่มกดดันออสเตรเลีย Collective Shout ออกหน้า ‘อยู่เบื้องหลังแบนเกม NSFW บน Steam และ Itch.io’
เราเปลี่ยนแผนเดินหน้าหาผู้ให้บริการชำระเงินแทน เพราะ Steam ไม่ตอบสนอง
ในช่วงที่ผ่านมา วงการเกมเริ่มเกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะกับแพลตฟอร์มอย่าง Steam และ Itch.io ที่มีการปรับนโยบายเกี่ยวกับเกมแนว NSFW (Not Safe For Work) หรือเนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่ ล่าสุด กลุ่มกดดันจากออสเตรเลียอย่าง Collective Shout ได้ออกมายืนยันว่าตนคือผู้อยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวที่นำไปสู่การลบหรือจำกัดการเข้าถึงเกมประเภทดังกล่าว โดยอ้างว่าเป็นการตอบโต้เกมที่มีเนื้อหารุนแรงทางเพศ ซึ่งพวกเขามองว่าเป็นการส่งเสริมความรุนแรงต่อผู้หญิง
กลุ่ม Collective Shout เคลื่อนไหว จน Steam และ Itch.io ต้องลบเนื้อหาผู้ใหญ่
เหตุการณ์เริ่มต้นเมื่อกลุ่ม Collective Shout เริ่มรณรงค์ต่อต้านเกมที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับความรุนแรงทางเพศ เช่น เกม No Mercy ที่มีฉากรุนแรงร้ายแรงทางเพศอย่างชัดเจน โดยพวกเขาใช้วิธีการทั้งการยื่นคำร้อง ส่งอีเมลจำนวนมากถึง Valve (บริษัทเจ้าของ Steam) และทำแคมเปญกดดันให้ผู้ให้บริการชำระเงินรายใหญ่อย่าง Visa, PayPal และ MasterCard เข้ามาเกี่ยวข้อง จนทำให้ Steam และ Itch.io ต้องปรับนโยบายเร่งด่วนเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหากับผู้ให้บริการเหล่านี้
Collective Shout กล่าวในแถลงการณ์ว่า พวกเขาเรียกร้องให้ Itch.io ลบเกมที่เกี่ยวข้องกับการล่วงละเมิดทางเพศและความรุนแรงในครอบครัวซึ่งมองว่าเป็นการ “ทำให้ความรุนแรงทางเพศกลายเป็นเรื่องปกติ” ซึ่งในที่สุด Itch.io ตัดสินใจลบเนื้อหา NSFW ทั้งหมดออกจากหน้า Browse และ Search
ด้าน Steam เองก็ตอบสนองด้วยการออกกฎใหม่เกี่ยวกับเนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่ที่ยังไม่ชัดเจน และเริ่มทยอยลบเกมจำนวนหนึ่งออกจากระบบ ทำให้เกิดเสียงวิจารณ์จากชุมชนเกมที่มองว่ามาตรการดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อเกมที่ไม่ได้มีเนื้อหาล่อแหลมหรือผิดกฎหมายจริง ๆ รวมถึงเกมของผู้พัฒนา LGBTQ+ ซึ่งอาจไม่สอดคล้องกับค่านิยมแบบคริสต์ที่กลุ่มกดดันใช้เป็นเกณฑ์
ผู้เล่นบางรายได้รวมตัวกันตอบโต้ด้วยการส่งจดหมายเปิดผนึกถึง Visa เรียกร้องให้ยุติการ “ควบคุมทางศีลธรรม” ต่อเนื้อหาเกม โดยหนึ่งในจดหมายจากผู้บริโภคที่แชร์ผ่าน Reddit ระบุว่า “Visa ไม่มีสิทธิ์บงการพฤติกรรมของผู้บริโภคในตลาดเสรีด้วยกฎที่คลุมเครือและการตัดสินจากศีลธรรม”
ทาง Visa เองก็มีคำตอบกลับในบางกรณี ยืนยันว่า “บริษัทไม่ตัดสินเนื้อหาทางศีลธรรม และสนับสนุนการทำธุรกรรมทางกฎหมายทั้งหมด” แต่ก็ยอมรับว่าหากมีความเสี่ยงต่อการทำผิดกฎหมายสูง ทางบริษัทก็จำเป็นต้องมีมาตรการเพิ่มเติม
แม้ว่าเกมอย่าง No Mercy จะเป็นกรณีที่หลายฝ่ายเห็นตรงกันว่าควรถูกลบ แต่เมื่อการแบนมีลักษณะครอบคลุมแบบ “หว่านแห” เกมที่ไม่ควรถูกจัดอยู่ในหมวดปัญหาก็อาจได้รับผลกระทบไปด้วย โดยเฉพาะผลงานจากผู้พัฒนาอิสระที่มุ่งนำเสนอประเด็นทางเพศหรือความหลากหลายทางเพศอย่างจริงจังและสร้างสรรค์
กรณีนี้สะท้อนให้เห็นถึงความซับซ้อนระหว่างเสรีภาพในการสร้างสรรค์กับมาตรฐานทางศีลธรรมของสังคม ขณะที่บางฝ่ายมองว่าเป็นการปกป้องผู้บริโภคจากเนื้อหาอันตราย อีกด้านหนึ่งกลับเห็นว่าเป็นการจำกัดสิทธิของนักพัฒนาและผู้เล่น โดยเฉพาะเกมจากกลุ่ม LGBTQ+ ที่อาจได้รับผลกระทบโดยไม่ตั้งใจ ถือเป็นเรื่องที่ต้องจับตาว่าท้ายที่สุดแล้ว แพลตฟอร์มต่าง ๆ จะทำอย่างไรต่อไป ซึ่งเมื่อไหร่ก็ตามที่มีข่าวเพิ่มเติม ทีมงานจะรีบนำมาอัปเดตให้ติดตามกันทันทีที่ This is Game Thailand ครับ
