ในตอนนี้แฟนเกมแนวการ์ดกลยุทธ์เตรียมพบกับเกมมือถือใหม่ล่าสุดอย่าง Chaos Zero Nightmare คงกำลังสนุกกับเกมนี้อยู่ โดยเกมนี้ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางในวงการเกมมือถือเพราะเป็นการผสมผสานระหว่างความท้าทายของแนว Roguelike กับระบบการ์ดที่มีกลไกเฉพาะตัวแบบ Slay the Spire แต่เพิ่มมิติใหม่ด้วย “ระบบความเครียดทางจิตใจ (Mental Stress)” ที่ส่งผลโดยตรงต่อกลยุทธ์และการเอาชีวิตรอดของผู้เล่น
และในวันนี้เราได้รวบรวมข้อมูลพื้นฐานควรรู้ในการเริ่มเล่น Chaos Zero Nightmare มาให้ทุกคนได้ดูกันเป็นแนวทางกัน
5 ข้อมูลพื้นฐานควรรู้ในการเริ่มเล่น Chaos Zero Nightmare
1. ระบบการเล่นหลัก
เรื่องราวของเกมเกิดขึ้นในยุค Ark Era หลังจากภัยพิบัติจักรวาล “Chaos Zero” ได้ทำลายความสมดุลของโลก ผู้เล่นจะรับบทเป็น “Navigator” ผู้นำทีมสำรวจเข้าไปยังพื้นที่ที่เต็มไปด้วยมลพิษและภัยร้าย เพื่อค้นหาความจริงของหายนะครั้งนั้น
เกมนี้ใช้ระบบการ์ดต่อสู้แบบ Roguelike Deck-Building คล้ายกับ Slay the Spire แต่เพิ่มระบบเฉพาะของตัวเองเพื่อสร้างประสบการณ์ที่สดใหม่และเต็มไปด้วยกลยุทธ์ โดย
โครงสร้างพื้นฐานของการต่อสู้ มีดังนี้
- ผู้เล่นสามารถจัดทีมได้ 3 ตัวละคร ซึ่งใช้ค่าพลังชีวิต (HP) และโล่ร่วมกัน
- ทุกเทิร์นจะได้รับ 3 Action Points (AP) และจั่วการ์ด 5 ใบ
- การ์ดแต่ละใบมีค่าใช้ AP ตั้งแต่ 0–2 หน่วย (แสดงที่มุมบนซ้ายของการ์ด)
- เมื่อจบเทิร์น การ์ดที่เหลือจะถูกส่งไปยังกองทิ้ง และระบบจะสับกองการ์ดใหม่เมื่อหมด
- ศัตรูแต่ละตัวจะมี เกจการกระทำ (Action Counter) ที่ลดลงทุกครั้งที่ผู้เล่นทำการใด ๆ และจะโจมตีทันทีเมื่อเกจนั้นเหลือ 0
- ระบบนี้ทำให้การบริหาร AP และลำดับการใช้การ์ดเป็นหัวใจสำคัญของทุกการต่อสู้
2. ระบบการ์ด (Card System)
สิ่งที่ทำให้ Chaos Zero Nightmare แตกต่างจากเกมการ์ดทั่วไปคือ “ความยืดหยุ่นและพลวัต” ของระบบการ์ดภายในเกม เพราะแต่ละรอบของการเล่น (Run) การ์ดในเด็คของผู้เล่นจะสามารถ “วิวัฒน์” หรือเปลี่ยนรูปแบบได้อย่างไม่คาดคิด
ประเภทของการ์ด
การ์ดโจมตี (Attack Cards): ใช้สร้างความเสียหายแก่ศัตรู โดยค่าความแรงและผลเสริมจะแตกต่างกันตามตัวละคร
การ์ดสกิล (Skill Cards): ใช้ฟื้นฟูพลัง สร้างโล่ หรือกระตุ้นกลไกเฉพาะของตัวละคร
การ์ดเสริม (Upgrade Cards): มอบบัฟที่คงอยู่หลายเทิร์น เช่น เพิ่มพลังโจมตีหรือป้องกัน
สถานะติดลบ (Status Ailments): การ์ดที่ศัตรูปล่อยเข้ามาในเด็คของผู้เล่น ทำให้การจั่วการ์ดมีความเสี่ยงและยากต่อการวางแผน
กลไก “Epiphanies” ทางแยกของแรงบันดาลใจ
ระบบ Epiphanies เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นสำคัญของเกม ในระหว่างการต่อสู้ ผู้เล่นอาจเกิด “Flash of Inspiration” ที่ทำให้การ์ดพื้นฐานถูกเสริมพลังแบบสุ่ม หรือกลายเป็นการ์ดเฉพาะตัวละครนั้น ๆ ได้ การ์ดที่เปลี่ยนแปลงเหล่านี้จะทำให้แต่ละรอบการเล่นมีความแตกต่างและคาดเดาไม่ได้ เพิ่มความหลากหลายและมูลค่าการเล่นซ้ำได้อย่างมาก
3. ระบบความเครียดทางจิตใจ (Mental Stress Mechanism)
ระบบ Mental Stress คือเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ Chaos Zero Nightmare ที่ผสาน “เนื้อเรื่อง” เข้ากับ “กลยุทธ์” ได้อย่างลึกซึ้ง เพราะเมื่อใดก็ตามที่ตัวละครได้รับความเสียหายหรือเดินทางเข้าสู่พื้นที่ที่เต็มไปด้วยมลพิษ ค่าความเครียด (Stress) จะค่อย ๆ เพิ่มขึ้น และเมื่อเต็มหลอด ตัวละครจะเข้าสู่ “ภาวะเครียด” ส่งผลให้:
- ทีมจะสูญเสีย 1/3 ของพลังชีวิตสูงสุด ทันที
- การ์ดทั้งหมดในมือจะถูกแทนที่ด้วย Mental Stress Cards ซึ่งไม่สามารถใช้ได้ผล
- ตัวละครในสภาวะนี้จะไม่สามารถใช้สกิลสูงสุด (Ultimate Skill) ได้
- ค่าพลังชีวิตสูงสุดของทีมจะลดลงชั่วคราว
อย่างไรก็ตาม ผู้เล่นสามารถ “พลิกสถานการณ์” ได้ด้วยระบบ Mental Stress Reversal Value หากสามารถเล่นการ์ดหรือบรรลุเงื่อนไขที่กำหนด ตัวละครจะฟื้นตัวจากสภาวะเครียด พร้อมลดต้นทุนการใช้สกิลสูงสุด (EGO Skill) และอาจได้รับบัฟเพิ่มพลังชีวิตสูงสุดอีกด้วย ทำให้ระบบนี้จึงเป็นกลไกดาบสองคมที่ผู้เล่นต้องเลือกให้ดีว่าจะ “หลีกเลี่ยง” ความเครียด หรือ “ยอมรับ” มันเพื่อใช้เป็นโอกาสในการโจมตีสวนกลับ
4. ระบบตัวละครและคลาส (Characters and Class System)
เกมนี้นำเสนอระบบตัวละครที่หลากหลายและซับซ้อน โดยแต่ละตัวจะมีบทบาทเฉพาะภายในทีม โดยคลาสหลัก 6 ประเภท มีดังนี้
Striker – สายโจมตีสมดุล เน้นสร้างดาเมจระยะประชิด
Psionic – ผู้เชี่ยวชาญด้านการโจมตีแบบระเบิดพลัง (Burst Damage)
Vanguard – สายแทงก์ ดูดซับความเสียหายเพื่อปกป้องทีม
Ranger – สายยิงระยะไกล มีความแม่นยำและพลังโจมตีสูง
Hunter – เชี่ยวชาญด้านการควบคุมศัตรูและสร้างความเสียหายต่อเนื่อง
Controller – สายสนับสนุนและคุมสนามรบด้วยดีบัฟและสกิลพิเศษ
นอกจากนี้ยังมีระบบ ธาตุทั้ง 5 ได้แก่ Passion, Void, Instinct, Order และ Justice ซึ่งส่งผลต่อค่าความได้เปรียบในการต่อสู้ ผู้เล่นต้องจัดทีมโดยคำนึงถึงการจับคู่ธาตุระหว่างตัวละครและศัตรู
ระบบสกิล EGO (Self-Awareness Skill)
แต่ละตัวละครจะมีสกิลเฉพาะตัวที่เรียกว่า EGO Skill ซึ่งใช้พลังงาน (EP) ในการปลดปล่อย ท่าพิเศษนี้สามารถเปลี่ยนกระแสการต่อสู้ได้อย่างสิ้นเชิง และนอกจากนี้ ตัวละครยังสามารถติดตั้ง Partner (อาวุธพิเศษ) เพื่อปลดล็อคสกิลสูงสุดอีกแบบหนึ่ง โดยก่อนการต่อสู้ ระบบจะสุ่มสกิลสูงสุดมา 3 แบบให้เลือกใช้ และเมื่อใช้ไปหนึ่งครั้ง ระบบจะสุ่มสกิลอื่นขึ้นมาแทน
5. ระบบ Roguelike (Roguelike System)
โหมดหลักของเกมคือ Chaos Zero Nightmare Mode ซึ่งมอบประสบการณ์การเล่นแบบสุ่มใหม่ทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นแผนที่ เหตุการณ์ หรือศัตรู
ประเภทของจุดบนแผนที่ (Map Node Types)
สีแดง: การต่อสู้ปกติ
สีม่วง: ศัตรูระดับ Elite ที่มีรางวัลสูง
สีเหลือง: แคมป์พักหรือจุดเติมเสบียง
เครื่องหมายคำถาม: เหตุการณ์สุ่มที่ให้ผู้เล่นเลือกหรือต้องทอยลูกเต๋า
ผู้เล่นจะเริ่มต้นด้วยเด็คพื้นฐาน และค่อย ๆ ปลดล็อคการ์ดใหม่ผ่านการต่อสู้หรือเหตุการณ์พิเศษ โดยในโหมดนี้จะมีระบบ Archive Data ที่ช่วยให้ข้อมูลความก้าวหน้าในรอบก่อน ๆ ส่งต่อไปยังรอบใหม่ได้ ทำให้การเล่นไม่รู้สึกซ้ำซาก โดยทั่วไป หนึ่งรอบการเล่นจะใช้เวลาประมาณ 20–30 นาที ในช่วงเลเวล 30 ลงไป และเพิ่มเป็น 45–60 นาที หลังจากเลเวล 30 ขึ้นไป
Chaos Zero Nightmare ถูกพัฒนาโดย Kim Hyung-seok ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Super Creative ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ Smilegate โดยทาง Kim Hyung-seok เคยมีผลงานสร้าง Epic Seven เกม RPG มือถือชื่อดังระดับโลก โดยเกมนี้ได้นำเสนอรูปแบบการเล่นแบบใหม่ ที่จะผสมผสานเทคโนโลยีการผลิตแบบ 2D จาก Epic Seven กับแนวเกม Roguelike ซึ่งมีจุดเด่นคือการตะลุยดันเจี้ยนแบบสุ่ม อีกทั้งยังมาพร้อมกับรูปแบบการเล่นแบบ Turn-based, การเคลื่อนไหวบนพื้นที่แบ่งเป็นช่อง และระบบตัวละครตายถาวร
