8 สิ่งที่คุณควรรู้ก่อนเล่น Umamusume: Pretty Derby

สวัสดีครับเพื่อน ๆ ชาวเกมเมอร์ ในที่สุด Umamusume: Pretty Derby ก็ได้เปิดให้บริการในเซิร์ฟ Global ทั้งในมือถือและ PC กันแล้วนะครับ ผมเองก็เป็นผู้เล่นเก่าที่เคยเล่นมาตั้งแต่เซิร์ฟญี่ปุ่น ก็ยอมรับว่าเล่นแบบงม ๆ เพราะอ่านภาษาญี่ปุ่นไม่ออก (555) ตอนนี้มีภาษาอังกฤษแล้วทำให้เล่นง่ายมากเลยครับ และถ้าเพื่อน ๆ เป็นคนที่สนใจเล่นเกมนี้แต่ยังเป็นมือใหม่ ผมขอแนะนำสิ่งที่คุณควรรู้ไว้เพื่อให้เล่นเกมนี้ได้สะดวกและเข้าใจมากยิ่งขึ้นครับ ไปชมกันเลย

1. เปิดหา Support Cards สำคัญกว่าเปิดตัวม้า

ในเกมนี้จะมีสิ่งที่ทำให้การแข่งของเราสะดวกขึ้นหลัก ๆ อยู่ 2 อย่างในตู้กาชา ก็คือตัวม้าและการ์ดซัพพอร์ต ซึ่งถ้าคิดตามหลักของเกมกาชาทั่วไป เป็นใครก็คงเลือกเปิดตัวม้าก่อนใช่ไหมครับ แต่สำหรับ Umamusume: Pretty Derby ไม่ใช่แบบนั้น ถ้าอยากเล่นสะดวกควรเปิด Support Cards ก่อนครับ เพราะว่าช่วงต้นเกมนั้นเรามีม้ามากพอที่จะใช้เล่นทุกสนามแล้ว แต่ยังขาดซัพพอร์ตการ์ดมาเสริมทัพ ม้าดาวน้อยยังปั้นสเตตัสในเกมเพลย์ให้ชนะได้ แต่ถ้าไม่มีซัพพอร์ตการ์ดล่ะก็การปั้นสเตตัสม้าจะยากขึ้นไปเยอะมากครับ เพราะงั้นควรเปิดกาชาการ์ดก่อน พอมีการ์ดใช้ครบแล้วค่อยทยอยเปิดตัวม้าหรืออยากได้ตัวอวยก็ไม่ว่ากันครับ

2. ม้าแต่ละตัวมีสนามแข่งที่ถนัดและไม่ถนัด

ม้าในเกมนี้มีรูปร่างหน้าตาและเสื้อผ้าที่ต่างกัน สายการเล่นก็แตกต่างกันไปด้วย แต่สายของม้าจะแบ่งตามสนามแข่งครับ เช่น ม้าบางตัวถนัดวิ่งระยะสั้น บางตัวถนัดวิ่งระยะไกล บางตัวถนัดสนามพื้นหญ้า บางตัวถนัดพื้นดิน เป็นต้น สิ่งเหล่านี้คือทักษะพื้นฐานที่ผู้เล่นควรจะเข้าไปอ่านสกิลของม้าแต่ละตัวที่แตกต่างกันไป ถ้าเรารู้ว่าม้าตัวไหนถนัดสายอะไร จะทำให้เราเลือกฝึกม้าได้ถูกวิธี เช่น ถ้าเรารู้ว่าม้าของเราถนัดสนามระยะสั้น ก็ควรหลีกเลี่ยงสนามระยะไกลให้น้อง และอัปค่าสเตตัสที่จำเป็นต้องการเล่นระยะสั้นอย่างค่า Guts เป็นต้น การรู้ความถนัดม้าจะทำให้เราบริหารได้ดีขึ้นครับ

3. สนามแข่ง 5 ประเภทที่คุณควรรู้

เมื่อกี้พูดเรื่องความถนัดของม้าไปแล้ว คุณอาจจะสงสัยว่า “แล้วสนามมีกี่ประเภท ?” ในการแบ่งนั้นแบ่งได้ 5 ประเภทครับ

Sprint – สนามระยะสั้น ระยะทางไม่เกิน 1,400 เมตร
Mile – สนามระยะ 1 ไมล์ หรือประมาณ 1,400-1,800 เมตร
Medium – สนามขนาดกลาง ระยะทาง 1,800-2,400 เมตร
Long – สนามระยะไกล ระยะทาง 2,400-3,600 เมตร
Dirt – สนามพิเศษที่มีพื้นเป็นดิน ม้าทั่วไปจะไม่ถนัดวิ่งสนามดิน ต้องใช้ม้าเฉพาะทาง

4. ความสำคัญของค่าสเตตัสแต่ละอย่าง

หากเราเข้าไปโหมดการเล่นและฝึกม้า แน่นอนว่าเราจะต้องเจอค่าสเตตัสหลักที่อยู่บนหน้าจอทั้งหมด 5 อย่าง แต่ผู้เล่นใหม่อาจจะงงว่าแต่ละค่ามันช่วยในเรื่องอะไรบ้าง เพราะถ้าไม่เข้าใจแล้วอัปมั่ว ไม่ตรงความถนัด ไม่ตรงสายการเล่น ก็จะทำให้มีโอกาสแพ้สูงขึ้น เรามาทำความเข้าใจค่าสเตตัสทั้ง 5 อย่างกันครับ

Speed – แน่นอนว่าเป็นความเร็วในการวิ่ง ทำให้เราวิ่งได้เร็วกว่าม้าตัวอื่นในสนาม และทิ้งห่างได้
Stamina – เป็นความอึด ค่าสเตตัสที่จำเป็นสำหรับสายวิ่งระยะไกล ถ้า Stamina หมดระหว่างทางม้าจะหมดแรง
Power – เป็นค่าพลังที่ใช้เบียดแข่งกับม้าคนอื่น ถ้าม้าเราเป็นผู้ตามและต้องวิ่งแซงขึ้นมาจากด้านหลัง พลังเบียดจะจำเป็นมาก เพราะถ้าเบียดม้าคนอื่นไม่ได้ จะวิ่งเร็วแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์
Guts – ระเบิดพลังหลังวิ่งผ่านโค้งสุดท้ายของสนาม เป็นตัวเร่งที่ทำให้ตัดสินแพ้ชนะในช่วงสุดท้าย แต่มีผลแค่หลังโค้งสุดท้ายเท่านั้น
Wit – ค่าความรู้ ทำให้ม้าฉลาดเลือกเลนวิ่งไม่เบียดใคร เพิ่มอัตราการออกสกิลท่าไม้ตาย และได้ค่า Skill Point ไปอัปเยอะ

5. Style การวิ่งของม้าส่งผลกับการเลือกอัปสเตตัส

การผันแปรด้านแพ้ชนะไม่ได้หยุดอยู่แค่สนามการแข่ง และค่าสเตตัสเท่านั้น เรายังสามารถเลือกสไตล์การวิ่งให้กับม้าของเราได้ แน่นอนว่าทุกตัวมีสายที่ถนัด แม้เราจะสามารถเลือกสายที่ไม่ถนัดได้ แต่ก็ต้องมีค่าสเตตัสที่รองรับและเหมาะกับการเล่นแต่ละ Style ด้วย

Front Style – สายเร่งเครื่องตั้งแต่แรก ยืนเป็นที่ 1 ตั้งแต่ออกตัวไม่ต้องเบียดกับใคร แตกแลกมาด้วยการเบิร์น Stamina สูงมาก และต้องมีค่า Speed ที่วิ่งทิ้งห่างคู่แข่งได้
Pace Style – สายรักษาระดับ ไม่ต้องเป็นที่ 1 แต่ยึดพื้นที่หัวแถวไว้ประมาณที่ 2-5 สายนี้จะประหยัด Stamina กว่าแต่ต้องมี Speed ไว้นำคนอื่นพอสมควร บวกกับ Power เล็ก ๆ ไว้เบียดกับคนรอบข้างนิดหน่อย รอโอกาสที่ 1 หมดแรงแล้ววิ่งแซง
Late Style – สายออมแรงไม่เปลือง Stamina ยอมวิ่งตามอยู่กลางแถวประมาณที่ 6-10 เบียดกับคนหมู่มาก ไม่ต้องมี Speed เยอะก็ได้ แต่ค่า Power กับ Guts ต้องแข็งแรงเพื่อใช้เบียดและแซงในโค้งสุดท้าย เป็นสายพลิกล็อก
End Style – สายม้ามืด ยอมเซฟแรงทุกอย่างไว้แล้ววิ่งอยู่ท้ายแถว รอจังหวะโค้งสุดท้ายแล้วระเบิดพลังและสกิลทุกอย่างเพื่อแซงทุกคนในคราวเดียว สายนี้จะเหมือน Late Style แต่ต้องพึ่งพาค่า Wit เยอะกว่าเพราะต้องหาตำแหน่งวิ่งดี ๆ และต้องพึ่งดวงว่าสกิลที่อัปมาจะออกครบไหม คือถ้าดวงดีก็ชนะไปเลย ถ้าดวงไม่ดีสกิลไม่ออกก็คือแพ้ไปเลย เป็นสายม้ามืดที่ไม่มีใครคิดว่าจะชนะของแท้

6. ยิ่งมีเพื่อนเยอะยิ่งเก่งด้วยระบบ Inspiration

การเล่นเกมนี้นั้นจำเป็นที่จะต้องมีเพื่อนอย่างยิ่ง เพราะว่าเกมมีระบบ Inspiration เมื่อเรากำลังฝึกม้าอยู่ ระบบนี้จะทำให้เราใช้เพื่อนที่เลือกมาถ่ายทอดสกิลและสเตตัสให้กับม้าของเราได้ตามความเก่งของเพื่อน หมายความว่าถ้าเรามีเพื่อนที่เล่นเกมนี้อยู่แล้ว และมีม้าเก่ง ๆ มีสกิลดี ๆ สเตตัสสูง ๆ ย่อมทำให้เรามีม้าที่เก่งขึ้นตามไปด้วย เป็นระบบสังคมที่ทำให้ผู้เล่นแลกเปลี่ยนม้ากันเพื่อนำมา Inspiration นั่นเองครับ หรือภาษาบ้านเราจะเรียกว่าฟาร์มม้านั่นแหละ เลือกพ่อพันธุ์แม่พันธุ์เก่ง ๆ มาแล้วเอามาสืบทอดสกิลให้รุ่นหลัง ๆ ก็จะเก่งขึ้นเรื่อย ๆ ครับ

7. ควรมีม้าให้ครบ 5 สาย เพื่อลง Race

หลายคนอาจจะคิดว่าเกมนี้เป็นเกมฝึกม้า ถ้าเรามีเมนตัวเดียวก็เล่นแค่ตัวเดียว ปั้นให้สุด ปั้นให้เก่งไปเลยดีกว่า ซึ่งถามว่ามันผิดไหม ก็คงไม่ได้ผิดอะไรนะครับ แต่เกมนี้มีคอนเทนต์ที่เรียกว่า Race ที่จำเป็นต้องมีม้าครบ 5 ตัวถึงจะลงได้อยู่ ซึ่งม้าทั้ง 5 ตัวนี้จะแบ่งประเภทตามสนามแข่ง 5 แบบนั่นแหละ ดังนั้นตัวละครขั้นต่ำที่เราควรปั้นไว้คือ 5 ตัวตามสนามแข่งแต่ละแบบนั่นเอง เพราะถ้าเล่นตัวเดียว เก่งสุด ๆ ไปเลย แต่เวลานับแต้มแพ้ชนะมันก็นับจาก 5 ตัวรวมกัน มันเลยเป็นเรื่องยากที่ตัวเดียวจะแบกทีมครับ อย่างน้อย ๆ ควรมี 3 ตัวก็ยังดี

8. อยากให้ม้าเก่ง มีแต่ต้องเล่นซ้ำเรื่อย ๆ

เนื่องจากว่าเกมนี้ไม่เหมือนเกม RPG ที่จะต้องอัปเกรดม้า อัปเลเวลให้สูงขึ้นม้าถึงจะเก่ง บางคนอาจสงสัยว่า การเล่นจบเป็นรอบ ๆ นี้ทำให้ม้าเก่งขึ้นยังไง ทั้ง ๆ ที่การเล่นมันก็เริ่มต้นใหม่ทุกรอบ คำตอบคือระบบ Inspiration นี่แหละครับ แน่นอนว่าช่วงแรกเราจะยังไม่มีม้าดี ๆ มาเป็นพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ แต่ถ้าเกิดว่าเราเพิ่มเกรดม้าเราให้สูงขึ้น หัวเชื้อดี เร็ว สกิลเทพ ตอนรุ่นลูกไปเล่นแล้วติด Inspiration ขึ้นมา รุ่นลูกก็จะเก่งกว่ารุ่นพ่อรุ่นแม่ไปเรื่อย ๆ หมายความว่าถึงแม้จะเล่นซ้ำเริ่มใหม่เหมือนกัน แต่ก็มีจุดเปลี่ยนที่แตกต่างกันแน่นอนถ้าเราเก่งขึ้นเรื่อย ๆ ครับ

ก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อน ๆ ที่กำลังเล่นเกม Umamusume: Pretty Derby กันอยู่นะครับ เกมนี้ก็รอนานเหลือเกินกว่าจะได้เล่นเวอร์ชั่น Global บอกเลยว่าสกิลภาษาญี่ปุ่นที่อ่านไม่ออก พอมาเป็นอังกฤษปุ๊บ เข้าใจขึ้นมากเลยครับ เล่นสนุกสุด ๆ เลย เพื่อน ๆ เองก็มาติดม้าด้วยกันนะครับ XD

ดาวน์โหลดเกม