งานเกม

งาน E3 ปีนี้จะจัดในรูปแบบออนไลน์ พร้อมให้เข้าชมฟรีไม่มีเงื่อนไข

หลังจากที่ Entertainment Software Association ออกมายืนยันด้วยตัวเอง

หลังจากที่มีการรายงานว่าทาง Entertainment Software Association กำลังพิจารณาที่จะทำการจำกัดองค์ประกอบบางอย่างของงาน E3 ออนไลน์ประจำปีนี้และจำเป็นต้องจ่ายเงินจริงเพื่อที่จะได้สัมผัสตัวงานได้อย่างครบถ้วน แต่ในตอนนี้ทางต้นสังกัดตัวจริงก็ได้ทำการออกมายืนยัน ปัดความกังวลด้วยตัวเองแล้วว่างานในครั้งนี้ “เข้าชมฟรีสำหรับผู้เข้าร่วมทุกคน”

โดยในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาทาง ESA ได้เคยประกาศไว้ว่าในปีนี้จะจัดงาน E3 ให้เป็นในรูปแบบออนไลน์อย่างเต็มตัวเนื่องจากปัญหาโรคระบาด Covid 19 ที่กำลังเกิดอยู่ในปัจจุบันซึ่งภายในงานจะประกอบไปด้วยช่วงพูดบรรยาย, งานประกาศรางวัลต่างๆ , preview night, สตรีมของผู้จัดจำหน่ายเจ้าต่างๆ , Influencer รวมไปถึงการโชว์ภาพ Demo ในช่วง 1 อาทิตย์ก่อนจะถึงงานจริง

แต่ในช่วงวันก่อนนี้ทาง VGC ได้มีการออกมารายงานพร้อมอ้างอิงมาจากหลายแหล่งข่าว โดยมีใจความว่าทาง ESA อาจจะมีการจำกัดการเข้าถึงบางส่วนในงาน E3 ครั้งนี้โดยทางเว็บไซต์อ้างว่าพวกเขานั้น ได้ติดต่อกับบริษัทเกมเจ้าใหญ่แห่งหนึ่งซึ่งก็ได้ข้อมูลสำคัญที่ต้องการมาตามที่ต้องการ แต่หลังจากที่รายงานของ VGC เผยแพร่ออกไปได้ไม่นานทาง ESA ก็ได้รีบออกมาแก้ข่าวอย่างรวดเร็วพร้อมยืนยันว่างาน E3 ในครั้งนี้จะสามารถเข้าชมได้ฟรี

ซึ่งจากคำให้การทาง ESA มันก็ถือเป็นเรื่องดีสำหรับเกมเมอร์ทุกๆ คนที่จะมีโอกาสได้เข้าร่วมหนึ่งในงานเกมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในโลกได้แบบฟรีๆ เรียกได้ว่าเป็นการพัฒนาก้าวขึ้นไปอีกขั้นจากจุดเริ่มต้นในปี 1995 ที่เดิมที E3 เป็นงานอีเว้นท์แบบ Exclusive ที่น้อยคนจะเข้าถึงได้ สู่ยุคใหม่ที่นับวันก็เริ่มเข้าถึงง่ายและเป็นที่รู้จักในคนหมู่มากยิ่งขึ้น แต่ถึงแม้ว่าทาง ESA จะออกตัวยืนยันว่างาน E3 ในครั้งนี้เข้าฟรีตลอดงานทาง Andy Robinson ผู้เขียนรายงานของทาง VGC ก็ได้ออกมายืนยันพร้อมโชว์แหล่งข่าวเพื่อโต้กลับชนิดกัดไม่ปล่อย

แต่ก็อย่างที่กล่าวไปว่าในตอนนี้ทาง ESA ยังไม่ได้มีการออกมาประกาศเพิ่มเติมว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด เพราะฉะนั้นแล้วงาน E3 ก็ยังคงเป็นงานเข้าฟรีที่ไม่มีการคิดเงินตามเดิมส่วนกำหนดการของงาน E3 ยังคงเป็นในช่วงวันที่ 15 – 17 กรกฎาคมแต่จะมีการเปลี่ยนแปลงในอนาคตหรือไม่ในตอนนี้ก็คงต้องตามดูต่อไป

Via
pcgamer
ที่มา
videogameschronicle
Back to top button