Nintendo ชนะคดีสตรีมเมอร์ EveryGameGuru หลังสตรีมเกมเถื่อนพร้อมท้าทายแบบไม่แคร์สื่อ
ถูกศาลสั่งปรับไปเกือบ 6 แสนบาทเน้น ๆ

ศึกระหว่างบริษัทเกมยักษ์ใหญ่อย่าง Nintendo กับสตรีมเมอร์ชื่อดัง “EveryGameGuru” หรือชื่อจริง Jesse Keighin ได้ปิดฉากลงแล้ว หลังศาลกลางรัฐโคโลราโดมีคำตัดสินให้ Nintendo ชนะคดี พร้อมสั่งให้จำเลยชำระค่าเสียหายจำนวน 17,500 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 580,000 บาท) จากการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วยการสตรีมเกมเถื่อนก่อนวางจำหน่ายจริง
แม้ศาลจะปฏิเสธคำร้องบางประการของ Nintendo เช่น การสั่งทำลายโปรแกรมจำลอง (Emulator) และการสั่งห้าม “บุคคลที่สามที่ไม่ระบุชื่อ” เข้ามาเกี่ยวข้อง แต่โดยรวมแล้ว คดีนี้ถือเป็นชัยชนะอีกครั้งของ Nintendo ในสงครามต่อต้านการละเมิดลิขสิทธิ์บนโลกออนไลน์
ความท้าทายที่จบไม่สวยของ EveryGameGuru

คดีนี้เริ่มต้นในเดือนพฤศจิกายน 2024 เมื่อ Nintendo ยื่นฟ้อง Keighin ต่อศาลรัฐบาลกลางในรัฐโคโลราโด โดยกล่าวหาว่าเขาได้ สตรีมเกมเถื่อนที่ยังไม่วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ และยังเผยแพร่ลิงก์เครื่องมือจำลอง (Emulators) ที่สามารถเล่น ROM ผิดกฎหมายได้
แต่แทนที่จะหลีกเลี่ยงปัญหาทางกฎหมาย สตรีมเมอร์รายนี้กลับ แสดงท่าทีท้าทายอย่างเปิดเผย ผ่านโซเชียลมีเดีย โดยโพสต์ข้อความถึงทีมกฎหมายของ Nintendo ว่า “คุณอาจบริหารบริษัท แต่ผมครองถนน”
พฤติกรรมดังกล่าวทำให้คดีของเขาเข้าข่าย “ไม่ให้ความร่วมมือ” โดยรายงานระบุว่า Keighin ทำลายหลักฐานและพยายามหลบเลี่ยงการรับหมายศาล จนศาลต้องอนุญาตให้ Nintendo ส่งเอกสารทางอีเมล และไปยังที่อยู่ของญาติพี่น้องของเขาแทน และเมื่อจำเลยไม่ยื่นคำแก้ต่าง ศาลจึงอนุมัติให้ Nintendo ยื่นขอ “Default Judgment” หรือการตัดสินโดยไม่ต้องมีการต่อสู้คดีจากฝั่งจำเลย
ศาลมีคำตัดสินให้ Nintendo ได้รับค่าเสียหายรวม 17,500 ดอลลาร์ จากความผิดฐานละเมิดลิขสิทธิ์และการเผยแพร่ลิงก์ไปยังเครื่องมือจำลองเกมผิดกฎหมาย ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนเงินที่ “ไม่สูงนัก” เมื่อเทียบกับโทษสูงสุดที่อาจแตะหลัก 1 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 32,400,000 บาท) อย่างไรก็ตาม ศาลได้ ปฏิเสธคำขอเพิ่มเติมของ Nintendo สองข้อ ได้แก่
- การสั่งให้ทำลาย “อุปกรณ์หรือโปรแกรมที่ใช้หลีกเลี่ยงระบบป้องกันลิขสิทธิ์” เพราะถือว่า ไม่ชัดเจนและไม่สามารถบังคับใช้ได้ในทางปฏิบัติ
- การสั่งห้าม “บุคคลที่สามที่ไม่ระบุชื่อ” เข้ามาเกี่ยวข้องกับจำเลย เนื่องจาก Nintendo ไม่ได้ระบุรายชื่อบุคคลเหล่านั้นอย่างเป็นทางการ
คำตัดสินดังกล่าวได้รับการรับรองโดยผู้พิพากษา Gordon P. Gallagher ซึ่งระบุว่า เนื่องจากจำเลยไม่คัดค้านหรือยื่นอุทธรณ์ คำตัดสินจึงถือเป็น “สุดท้ายและมีผลบังคับทันที”
สำหรับ Nintendo การฟ้องร้องเช่นนี้ไม่ได้มีเป้าหมายเพียงแค่ลงโทษบุคคลใดบุคคลหนึ่งเท่านั้น แต่ยังเป็น “ยุทธศาสตร์เชิงป้องปราม (Deterrence)” เพื่อแสดงให้เห็นว่าบริษัทจะไม่ยอมปล่อยผ่านกรณีละเมิดลิขสิทธิ์เกมของตน ซึ่งโดยทั่วไป Nintendo มักหลีกเลี่ยงการฟ้องร้อง “ผู้เล่นทั่วไป” ที่อาจทำผิดโดยไม่ตั้งใจ แต่จะมุ่งเป้าไปที่ผู้กระทำซ้ำ หรือผู้ที่เผยแพร่ไฟล์เกมและเครื่องมือผิดกฎหมายต่อสาธารณะ
แม้จำนวนค่าปรับ 17,500 ดอลลาร์อาจไม่ดูมากนักสำหรับบริษัทขนาดใหญ่ แต่คดีนี้ส่งสัญญาณชัดเจนว่า “ความท้าทายต่อกฎหมายลิขสิทธิ์ไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ” โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่การสตรีมและแชร์คอนเทนต์กลายเป็นกิจวัตรของนักเล่นเกมทั่วโลก ผู้อ่านล่ะครับคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับประเด็นนี้? อย่าลืมมาพูดคุยกันในเว็บไซต์ This is Game Thailand ได้เลยครับ
![[รีวิว] Star Wars Outlaws ออกเดินทางผจญภัยในจักรวาลอันไกลโพ้น 3 Star Wars Outlaws Review Feature](https://thisisgamethailand.com/wp-content/uploads/2024/08/Star-Wars-Outlaws-Review-Feature-419x220.jpg)






