[รีวิว] Digimon Story Time Stranger ผจญภัยข้ามโลกเพื่อเปลี่ยนชะตาแห่งอนาคต

Digimon Story Time Stranger เป็นเกม JRPG ที่ผู้เล่นจะได้เดินทางระหว่างโลกมนุษย์และโลกดิจิทัล ซึ่งเป็นโลกสองใบที่เชื่อมโยงกันอย่างลึกลับ ในเรื่องราวอันยิ่งใหญ่นี้ ผู้เล่นจะได้รวบรวมและฝึกฝนดิจิมอนเพื่อหยุดยั้งการล่มสลายของโลกและเปลี่ยนแปลงโชคชะตา

ในโอกาสนี้ผู้เขียนได้มีโอกาสเข้าไปผจญภัย สะสมดิจิมอน และวิวัฒนาการพวกมันเพื่อต่อสู้กับศัตรูมาแล้วและก็ไม่พลาดที่จะนำรีวิวมาให้ทุกคนได้อ่านกันครับ

อนึ่ง… การรีวิวนี้เกิดขึ้นบน PC โดยหากผู้อ่านกลับมาอ่านในภายภาคหน้าหลังจากที่รีวิวนี้ได้เผยแพร่ไปแล้ว ข้อสังเกตบางข้ออาจมีการแก้ไขเรียบร้อยแล้วก็เป็นได้

กราฟิกสไตล์การ์ตูนที่มีชีวิต ละเอียดสวยงาม

สิ่งแรกที่อยากพูดถึงและถือเป็นจุดที่สร้างความประทับใจตั้งแต่เริ่มเล่นก็คือ “กราฟิก” ของเกมนี้ แม้จะใช้สไตล์การ์ตูนเป็นหลัก แต่ทีมพัฒนากลับถ่ายทอดออกมาได้อย่างสวยงามและมีเอกลักษณ์ ทุกองค์ประกอบตั้งแต่แสง เงา ไปจนถึงรายละเอียดเล็ก ๆ ในสภาพแวดล้อมล้วนถูกออกแบบอย่างพิถีพิถันจนทำให้โลกในเกมดูมีชีวิตชีวาอย่างน่าทึ่ง

บรรยากาศโดยรวมของทั้ง “โลกแห่งความจริง” และ “โลกดิจิทัล” ถูกสร้างสรรค์ออกมาอย่างลงตัว โดยเฉพาะย่านชิบูยาที่ถูกจำลองมาอย่างสมจริงราวกับยกมาจากโลกจริง ผู้เขียนถึงกับเพลิดเพลินไปกับการเดินสำรวจตรอกซอกซอย แสงไฟป้ายโฆษณา และความพลุกพล่านของเมืองที่ยังคงความมีเสน่ห์แบบโตเกียวไว้อย่างครบถ้วน

ส่วนของการออกแบบฉากผจญภัยในพื้นที่ต่าง ๆ ก็ต้องยกนิ้วให้ เพราะแต่ละพื้นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและเต็มไปด้วยรายละเอียดที่ทำให้การสำรวจไม่น่าเบื่อ แม้ว่าบางฉากอาจดูซับซ้อนหรือมืดไปเล็กน้อย แต่กลับยิ่งเพิ่มความรู้สึกตื่นเต้นและอยากค้นหาให้มากขึ้น เป็นความท้าทายที่ลงตัวระหว่าง “ความสวยงาม” และ “ความลึกลับ”

ในด้านโมเดลตัวละครและเอฟเฟกต์ต่อสู้ ตอนแรกผู้เขียนยอมรับว่ารู้สึกเอฟเฟกต์อาจจะดูเรียบไปหน่อย แต่พอเล่นไปเรื่อย ๆ และได้พัฒนาตัวละครให้แข็งแกร่งขึ้น เอฟเฟกต์การต่อสู้ก็เริ่มเปล่งประกายอลังการมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งแสง สี และพลังที่ปลดปล่อยออกมานั้นทำให้ฉากต่อสู้ดูมีพลังและเร้าใจสุด ๆ จนอดไม่ได้ที่จะหยุดชมความงดงามของเอฟเฟกต์ในแต่ละท่วงท่า

โดยรวมแล้ว กราฟิกของเกมนี้มีเสน่ห์ในแบบของตัวเองที่ทั้งสดใส มีสไตล์ และเต็มไปด้วยรายละเอียดที่สะท้อนความตั้งใจของทีมพัฒนาได้อย่างชัดเจน

การต่อสู้สุดเข้มข้นที่เต็มไปด้วยกลยุทธ์และจังหวะเร้าใจ

ระบบการต่อสู้ของ Digimon Story Time Stranger ยังคงใช้รูปแบบ เทิร์นเบส RPG ที่คุ้นเคย โดยผู้เล่นและศัตรูจะผลัดกันโจมตีตามลำดับความเร็วของตัวละคร ซึ่งถ้าดิจิมอนของเรามีค่าความเร็วสูงกว่า ก็จะได้เริ่มโจมตีก่อน อีกหนึ่งลูกเล่นที่ผู้เขียนประทับใจก็คือการ “เปิดฉากโจมตี” หากเราใช้ DigiAttack โจมตีศัตรูในฉากสำรวจก่อน ก็จะได้เปรียบตั้งแต่เริ่มต่อสู้

อีกจุดที่ทำให้ระบบการต่อสู้น่าสนใจคือ ระบบแพ้–ชนะทาง (Attribute System) ที่ออกแบบมาอย่างชัดเจนระหว่าง

• Data ชนะ Vaccine
• Vaccine ชนะ Virus
• Virus ชนะ Data

จากประสบการณ์ของผู้เขียน ต้องบอกเลยว่าระบบนี้ไม่ใช่แค่ตกแต่งให้ดูซับซ้อน แต่ส่งผลจริงต่อผลลัพธ์ของการต่อสู้ การเลือกใช้ดิจิมอนที่ “ชนะทาง” ศัตรูสามารถเปลี่ยนสถานการณ์จากเสียเปรียบให้กลายเป็นฝ่ายคุมเกมได้ทันที เพราะการใช้ดิจิมอนที่ชนะทางจะทำให้เราโจมตีศัตรูได้แรงขึ้น และโดนโจมตีเบาลง แต่ขณะเดียวกันถ้าเผลอส่งตัวที่แพ้ทางไปต่อสู้ ก็อาจโดนศัตรูเล่นงานจนแทบตั้งตัวไม่ทัน เพราะเราจะโดนโจมตีแรงขึ้น และโจมตีศัตรูได้เบาลงนั่นเอง และถึงแม้ว่าระบบนี้จะเป็นระบบที่เรียบง่ายแต่กลับทรงพลัง และเพิ่มมิติด้านกลยุทธ์ให้กับทุกการต่อสู้ได้อย่างยอดเยี่ยม

สิ่งที่ทำให้การต่อสู้ดูมีชีวิตชีวายิ่งขึ้นคือ ระบบ QTE (Quick Time Event) ที่ถูกใส่เข้ามาอย่างชาญฉลาด ดิจิมอนบางตัวจะมีท่าโจมตีพิเศษที่หากผู้เล่นกดปุ่มตามจังหวะได้ทัน ก็จะสร้างดาเมจรุนแรงขึ้น พร้อมเพิ่มโอกาสทำให้ศัตรูติดสถานะพิเศษ เป็นช่วงเวลาสั้น ๆ แต่ช่วยเพิ่มอารมณ์ตื่นเต้นระทึกใจได้ทุกครั้งที่เกิดขึ้น

และที่ขาดไม่ได้คือ ฟีเจอร์ Cross Arts ซึ่งเป็นสกิลพิเศษของตัวละครหลักที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้มีส่วนร่วมในศึกมากขึ้น โดยผู้เล่นสามารถเลือกพัฒนาได้ทั้งสกิลซัพพอร์ต สกิลโจมตี ไปจนถึงสกิลเชิงกลยุทธ์ ผ่านผังอัปเกรดที่ปรับแต่งได้อย่างอิสระ ทำให้แต่ละการต่อสู้ไม่ซ้ำเดิมและเปิดโอกาสให้ผู้เล่นสร้างสไตล์การเล่นของตัวเองได้อย่างเต็มที่

โดยรวมแล้ว ระบบการต่อสู้ของเกมนี้ถือว่าทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ทั้งในแง่ความคุ้นมือของเกมแนวเทิร์นเบส และความหลากหลายของกลยุทธ์ที่ต้องใช้ในการวางแผน ทำให้ทุกแมตช์เต็มไปด้วยความเข้มข้น สนุก และท้าทาย เรียกได้ว่าเป็นประสบการณ์ต่อสู้ที่แฟนดิจิมอนและคอเกม RPG ไม่ควรพลาดจริง ๆ

ระบบดิจิมอนสุดเพลิน ที่ยิ่งเล่นยิ่งอยากสะสมและพัฒนาให้ครบทุกตัว

อีกหนึ่งองค์ประกอบที่ทำให้เกมนี้เล่นเพลินจนวางไม่ลง ก็คือ ระบบการสะสมและพัฒนาดิจิมอน ที่เรียกได้ว่าเป็นหัวใจหลักของเกมเลยก็ว่าได้ โดยนอกเหนือจากการต่อสู้แบบเทิร์นเบสอันเข้มข้นแล้ว การได้ออกตามหาดิจิมอนมาร่วมปาร์ตี้ถือเป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ที่ผู้เขียนรู้สึกสนุกและติดใจสุด ๆ

ในเกมนี้ ผู้เล่นจะสามารถ “สแกนข้อมูล” ดิจิมอนได้จากการต่อสู้กับพวกมัน ยิ่งเราต่อสู้กับดิจิมอนชนิดใดมากเท่าไหร่ ค่าการสแกนของมันก็จะยิ่งเพิ่มขึ้น และเมื่อแตะ 100% เราก็สามารถสร้างดิจิมอนตัวนั้นมาเป็นพวกได้ทันที แต่หากใครอยากได้เวอร์ชั่นที่แข็งแกร่งกว่า ก็สามารถสแกนให้ถึง 200% เพื่อรับดิจิมอนที่มีค่าพลังสูงยิ่งขึ้น เรียกได้ว่าเป็นระบบที่เล่นง่ายแต่ให้ความรู้สึกคุ้มค่าอย่างมาก เพราะเราไม่ต้องคอยลุ้นให้เหนื่อย แค่ขยันต่อสู้บ่อย ๆ ก็สามารถสะสมเพื่อนร่วมทีมได้เรื่อย ๆ แบบไม่รู้จบ

และเมื่อได้ดิจิมอนมาแล้ว จุดสนุกอีกหนึ่งอย่างคือ ระบบวิวัฒนาการ (Digivolution) ที่ผู้เขียนต้องขอยกนิ้วให้เลย เพราะทำออกมาได้เข้าใจง่ายและมีชั้นเชิงสุด ๆ โดยเริ่มต้นจากการที่ผู้เล่นสามารถจัดทีมดิจิมอนได้สูงสุด 6 ตัวต่อสู้แบบ 3 ต่อ 3 โดยทุกตัวจะได้รับค่าประสบการณ์ร่วมกัน ทำให้การเก็บเลเวลเพื่อพัฒนาร่างนั้นไม่ยุ่งยาก

การวิวัฒนาการของดิจิมอนแต่ละตัวจะมีเงื่อนไขเฉพาะ เช่น ถ้าต้องการให้ Tokomon พัฒนาเป็น Patamon ผู้เล่นต้องเพิ่มค่า Max SP ให้มากกว่า 600 และมีค่า INT สูงกว่า 360 แต่หากต้องการให้วิวัฒนาการไปเป็น Terriermon ก็ต้องเพิ่มค่า Max HP ให้เกิน 380 และมีพลังโจมตีสูงกว่า 180 ซึ่งระบบนี้จะมีข้อมูลอธิบายไว้อย่างชัดเจน ทำให้ผู้เล่นสามารถวางแผนและเลือกเส้นทางวิวัฒนาการได้อย่างอิสระแบบไม่ต้องลุ้นให้ปวดหัว

ที่น่าสนใจคือเกมยังเปิดโอกาสให้ “วิวัฒนาการย้อนกลับ” ได้ด้วย หากผู้เล่นเคยพบเจอดิจิมอนตัวนั้นมาก่อน และมีลักษณะนิสัยตรงกัน ระบบนี้ช่วยให้เราสามารถปรับกลยุทธ์ทีม หรือสร้างสายวิวัฒนาการในแบบที่ต้องการได้โดยไม่ต้องเริ่มใหม่ทั้งหมด

จากที่ผู้เขียนได้ลองเล่น ต้องบอกเลยว่าระบบนี้ออกแบบมาอย่างลงตัว ทั้งเข้าถึงง่าย เข้าใจได้ทันทีแม้ไม่เคยเล่นซีรีส์นี้มาก่อน และยังให้ความรู้สึกสนุกเหมือนได้ “เลี้ยงดูและสร้างสรรค์” ดิจิมอนของตัวเองจริง ๆ ยิ่งไปกว่านั้น ยังไม่ต้องมานั่งลุ้นจับแบบสุ่มให้เหนื่อย เพราะทุกอย่างอยู่ในมือผู้เล่นอย่างแท้จริง

สรุปสั้น ๆ ได้ว่าระบบนี้ผู้เขียนขอยกนิ้วให้สองข้างเลยเพราะมันทั้งสนุก เพลิน และตอบโจทย์ความเป็นเกมดิจิมอนได้อย่างสมบูรณ์แบบ

สร้างดิจิมอนทีแข็งแกร่งด้วยระบบค่าลักษณะนิสัยและฟาร์มดิจิมอน

หนึ่งในจุดที่ทำให้เกมนี้มีความลึกและน่าหลงใหลอย่างมาก คือระบบการพัฒนาค่าสถานะเฉพาะตัวของดิจิมอน ซึ่งไม่ได้จำกัดอยู่แค่การอัปเลเวลเท่านั้น แต่ยังผูกเข้ากับ “ค่าลักษณะนิสัย” และ “ฟาร์มดิจิมอน” ที่ช่วยให้ผู้เล่นสามารถสร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัวให้กับดิจิม่อนได้อย่างแท้จริง

เริ่มจาก “ค่าลักษณะนิสัย” ที่เกิดขึ้นจากการที่ผู้เล่นพูดคุยและตอบคำถามกับดิจิมอนในแบบที่สะท้อนบุคลิกที่ต้องการ ซึ่งค่าลักษณะนิสัยนี้จะมีผลโดยตรงต่อการเติบโตของค่าสถานะเมื่อเลเวลอัป รวมถึงยังส่งผลต่อ “สกิลพิเศษ” ของดิจิมอนแต่ละตัวอีกด้วย เรียกได้ว่าการเลือกคำตอบเพียงเล็กน้อย ก็สามารถกำหนดแนวทางการเติบโตของดิจิมอนได้อย่างมีนัยสำคัญ

นอกจากนี้ยังมีระบบ “ฟาร์มดิจิมอน” ที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นนำดิจิมอนที่ไม่ได้ใช้งานไปพักผ่อนในฟาร์มของผู้เล่นและใช้อุปกรณ์ฝึกซ้อมต่าง ๆ เพื่อเพิ่มค่าสถานะเฉพาะทางตามที่ต้องการได้อย่างอิสระ ไม่ว่าจะเป็นพลังโจมตี ความเร็ว หรือค่าป้องกัน ทุกอย่างอยู่ในมือของผู้เล่น

ระบบทั้งสองนี้ถูกออกแบบมาอย่างพิถีพิถันให้เชื่อมโยงกับหัวใจหลักของเกมอย่าง “การวิวัฒนาการของดิจิมอน” ได้อย่างลงตัว และจากที่ได้ลองสัมผัสด้วยตัวเอง ต้องบอกเลยว่ามันทำให้การพัฒนาดิจิมอนแต่ละตัวเต็มไปด้วยความเพลิดเพลิน ความภูมิใจ และแรงจูงใจที่จะมุ่งสู่ร่างสุดยอดไปพร้อมกับพวกเขาอย่างแท้จริง

ระบบอำนวยความสะดวกที่ทำให้การผจญภัยลื่นไหลและสนุกยิ่งขึ้น

อีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้ Digimon Story Time Stranger โดดเด่นและน่าเล่นอย่างมาก คือระบบอำนวยความสะดวกที่ถูกออกแบบมาอย่างใส่ใจเพื่อให้ผู้เล่นสามารถสนุกกับการต่อสู้และการผจญภัยได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องรู้สึกเหนื่อยหรือจำเจกับการทำซ้ำเดิม ๆ

เริ่มจาก “ระบบต่อสู้อัตโนมัติ” ที่เพียงแค่กดปุ่มเดียว ตัวเกมก็จะต่อสู้ให้โดยอัตโนมัติ เหมาะสำหรับช่วงฟาร์มเลเวลแบบชิล ๆ อย่างไรก็ตามระบบนี้ก็ยังมีจุดที่ต้องระวังเล็กน้อย เพราะมันจะไม่ใช้ไอเทม หรือสกิลของผู้เล่นให้อัตโนมัติ หากเผลอกดออโต้ตอนสู้กับบอสอาจทำให้แพ้ได้แบบน่าเสียดาย แต่โดยรวมแล้วถือเป็นฟีเจอร์ที่ช่วยประหยัดเวลาและสบายมือสุด ๆ

นอกจากนี้ เกมยังมี “ระบบเร่งความเร็ว” ที่สามารถเร่งความเร็วการต่อสู้ได้สูงสุดถึง 5 เท่า ทำให้การเก็บเลเวลหรือฟาร์มทรัพยากรต่าง ๆ เป็นเรื่องที่รวดเร็วและไม่เสียเวลา

อีกระบบที่น่าสนใจคือ “Digiattack” ซึ่งเป็นทั้งเครื่องมือช่วยต่อสู้และระบบเสริมความสะดวก หากดิจิม่อนของเรามีพลังเหนือกว่าศัตรู การใช้ฟังก์ชันนี้จะทำให้เราสามารถ “เคลียร์ศัตรูได้ทันที” โดยไม่ต้องเข้าสู่ฉากต่อสู้เลย ส่วนกรณีที่ศัตรูมีพลังใกล้เคียง หรือศัตรูมีมากกว่า 1 ตัวระบบจะช่วยลดพลังชีวิตของศัตรูก่อนเริ่มการต่อสู้ ทำให้การเข้าปะทะเป็นเรื่องง่ายขึ้นและรวดเร็วกว่าเดิม

สำหรับใครที่กำลังมองหาระบบที่จะช่วยให้การสำรวจแผนที่ง่ายขึ้นก็ขอแนะนำ “ระบบ Digivice Scan” ที่ผู้เล่นสามารถสแกนพื้นที่โดยรอบระหว่างการผจญภัยได้ ซึ่งการสแกนนี้จะเป็นการบอกว่าในพื้นที่บริเวณรอบตัวเรานั้นมีไอเทมให้เก็บ หรือมีสิ่งของ หรืออุปสรรคให้ทำลายหรือไม่ ซึ่งจุดที่สามารถทำได้จะมีการมาร์คสีไว้ชัดเจน ทำให้ผู้เล่นสำรวจฉากได้ง่ายขึ้นมาก ๆ เลยล่ะครับ

และเพื่อให้การผจญภัยต่อเนื่องแบบไม่สะดุด เกมยังมาพร้อมกับ “ระบบฟื้นฟู HP/SP อัตโนมัติ” เพียงแค่ผู้เล่นยืนนิ่ง ๆ สักครู่ ระบบก็จะเริ่มฟื้นฟูให้โดยทันที และเมื่อค่าพลังกลับมาเต็ม เกมก็จะแจ้งให้ผู้เล่นพร้อมลุยต่อในทันที เรียบง่ายแต่ช่วยให้การเล่นต่อเนื่องได้อย่างสมบูรณ

โดยรวมแล้ว ระบบเหล่านี้ทำให้เกมเต็มไปด้วยความสะดวก สนุก และเข้าถึงได้ง่ายขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ผู้เขียนต้องยอมรับเลยว่าระหว่างเล่นไม่เคยรู้สึกเหนื่อยหรือเบื่อกับการฟาร์มเลยแม้แต่น้อย!

สรุปรีวิว

Digimon Story Time Stranger คือการกลับมาของซีรีส์ Digimon ที่สมบูรณ์แบบทั้ง “ความสวยงาม” และ “ความสนุก” ด้วยกราฟิกสไตล์การ์ตูนที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา ถ่ายทอดโลกแห่งความจริงและโลกดิจิทัลได้อย่างลงตัว ระบบต่อสู้แบบเทิร์นเบสที่เข้มข้น ขณะที่ระบบสะสมและวิวัฒนาการดิจิมอนก็ทำออกมาได้ยอดเยี่ยม เข้าใจง่ายแต่ลึกซึ้ง ชวนให้ผู้เล่นอยากสะสมและพัฒนาให้ครบทุกตัว รวมถึงระบบฟาร์มและการปรับลักษณะนิสัยที่ทำให้ดิจิมอนแต่ละตัวมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างแท้จริง เสริมด้วยฟีเจอร์อำนวยความสะดวกที่ช่วยให้การเล่นลื่นไหลและเพลิดเพลินตลอดเวลา จึงไม่แปลกที่เกมนี้จะเป็นอีกหนึ่งภาคที่ทั้งแฟนเก่าและผู้เล่นใหม่ต้องหลงรัก

ส่วนตัวผู้เขียนขออนุญาตให้คะแนนเกมนี้ที่ 9 เต็ม 10 ครับ ผู้เขียนขอย้ำว่า รีวิวนี้ รวมถึงคะแนนนี้เป็นมุมมองของผู้เขียนเท่านั้น แฟนเกมคนอื่น ๆ อาจจะมีมุมมองที่แตกต่างกันก็เป็นได้ครับ

จุดเด่น

– กราฟิกสไตล์การ์ตูนละเอียดสวยงาม ถ่ายทอดโลกและบรรยากาศได้มีชีวิตชีวา

– ระบบต่อสู้เทิร์นเบสเข้มข้น ใช้กลยุทธ์แพ้–ชนะทางอย่างมีชั้นเชิง

– มี QTE และ Cross Arts เพิ่มอารมณ์ตื่นเต้นในทุกจังหวะต่อสู้

– ระบบสะสมและวิวัฒนาการดิจิมอนสนุก เข้าใจง่ายแต่ลึกซึ้ง

– ระบบค่าลักษณะนิสัยและฟาร์มช่วยสร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัวให้ดิจิมอน

– ฟีเจอร์อำนวยความสะดวกหลากหลาย เช่น ต่อสู้ออโต้ ฟื้น HP/SP และเร่งความเร็ว

ข้อสังเกต

– ตัวเอกไม่มีเสียงพากย์ น่าเสียดายมาก ๆ

– ระบบต่อสู้อัตโนมัติยังไม่ฉลาดนัก หากใช้ในศึกบอสอาจพลาดได้ง่าย

สุดท้ายนี้ขอขอบคุณ Bandai Namco Entertainment ที่เอื้อเฟื้อและสนับสนุนเกมมาให้เราได้รีวิวในครั้งนี้ด้วยครับ ส่วนครั้งหน้าจะเป็นเกมอะไรนั้น โปรดติดตามกันได้เลย…

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมและสั่งซื้อเกมได้ที่ : [คลิก]

ภาพสกรีนช็อตเพิ่มเติม

ผู้อ่านคนใดต้องการติดตามรีวิว / พรีวิวเกมอื่น ๆ ของ This Is Game Thailand ก็สามารถมาได้ที่นี่ครับ >>>คลิก<<<