SwitchTokyo Game Showคอนโซล / พีซีงานเกมรีวิวรีวิว / พรีวิวเกม

[พรีวิว] ลองมาแล้ว! Final Fantasy VII: Remake Intergrade เวอร์ชัน Switch 2

หมายเหตุ: ตัวเกมและเนื้อหาที่ได้รับการทดสอบยังคงอยู่ในการพัฒนา ประสบการณ์อาจเปลี่ยนแปลงกันเมื่อได้รับการวางจำหน่ายจริงในอนาคต

ความสัมพันธ์ระหว่าง Nintendo และ​ Square Enix นับว่านานพอตัวกันเลยครับ และปฏิเสธไม่ได้ว่าหลายๆ เกมเช่น Final Fantasy จากค่ายเจ้าพ่อเกมสวมบทบาทชื่อดังนั้นก็มีต้นกำเนิดมาจากเครื่องเล่นของปู่นินสุดอารมณ์ดีด้วย กระทั่งไม่กี่ปีก่อนหน้านี้เราก็จะพบว่ามีการย้ายถิ่นฐานไปสู่แพลตฟอร์มอื่นบ้างสำหรับเกมภาคหลัก แต่ค่ายก็ยังป้อนเกมสุดปังออกมาต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ Dragon Quest X ที่เป็น MMORPG ยอดฮิตและมีผู้เล่นสูงมาก

อย่างไรก็ตามการมาถึงของ Nintendo Switch 2 ได้พลิกโฉมของความเป็นไปได้ใหม่ๆ พร้อมเปิดศักราชของเครื่องเล่น ‘จิ๋วแต่แจ๋ว’ ด้วยสเปคสุดแรงไปกับเกมเน็กซ์เจ็นจำนวนมากที่ทยอยออกมาให้เล่นกันต่อเนื่อง เช่นเดียวกับ Final Fantasy VII: Remake Intergrade ที่เป็นเกมภาครีเมคคุณภาพยอดเยี่ยมที่จ่อคิวเตรียมวางจำหน่ายให้แฟนเกมได้ลิ้มลองเช่นกัน โดยไม่นานมานี้เอง ThisIsGame Thailand ก็ได้รับโอกาสจาก Square Enix Asia และ Bandai Namco Entertainment Asia ได้บินลัดฟ้าไปทดลองเล่นเกมเวอร์ชันใหม่นี้ก่อนใครถึงญี่ปุ่นต้อนรับงาน Tokyo Game Show 2025 เพื่อนำความประทับใจแรกมาแบ่งปันเพื่อนๆ แล้วครับ

ตัวเกมที่ได้ทดลองเล่นนั้นมีการจัดบูธให้ทดสอบเป็นเวลา 30 นาที ซึ่งแบ่งออกเป็นสามช่วงลองเล่นดังต่อไปนี้ครับ คือเนื้อหาเริ่มต้นเกมและบอส Scorpion Sentinel เจ้าหุ่นยนต์แมงป่องตัวแรก และฉากต้นของบทที่สอง ซึ่งเดโมที่เราได้ใช้งานนั้นเป็นการเล่นเกมผ่านทั้งรูปแบบต่อหน้าจอโทรทัศน์ (Docked Mode) เช่นเดียวกับโหมดพกพา (Handheld Mode) แต่ใครเล่าครับจะรู้ว่าแม้จะเหมือนกับการนำเกมเก่ามาพอร์ตใหม่ ทว่าประสบการณ์ที่ได้รับก็ทำให้เรายิ่งตื่นเต้นกับความสามารถของเครื่อง และความพยายามของทีมงานในการถ่ายทอดความสนุกนี้สู่หน้าจอของเรา

[พรีวิว] ลองมาแล้ว! Final Fantasy VII: Remake Intergrade เวอร์ชัน Switch 2

เริ่มจากโหมดต่อโทรทัศน์ก่อนเลย มีการระบุว่าเกมมาพร้อมกับความสามารถนำการรันภาพที่ 1080p คมกริบ และเฟรมเรตระดับ 30FPS ซึ่งจากการต่อสู้กับ Scorpion Sentinel ทุกคนน่าจะทราบกันดีว่าเป็นหนึ่งในฉากเปิดเกมที่ทำได้ยอดเยี่ยมมากๆ ด้วยแอ็กชันที่ต้องใช้ความเร็วสูง รวมไปถึงเอฟเฟกต์อลังการงานสร้างทั้งพาร์ติเคิลละอองไฟ ควันต่างๆ ที่เกิดจากการฟาดฟันกันของหุ่นความปลอดภัยและคมดาบของ Cloud อย่างดุเดือด ทุกอย่างถูกถ่ายทอดออกมาโดยเทียบเคียงกับเวอร์ชัน PlayStation 5 และ PC ที่วางจำหน่ายในก่อนหน้านี้ แทบไม่เห็นความแตกต่างกันเลย

สำหรับเฟรมเรตที่หลายคนอาจตั้งข้อสงสัยกันว่าจะเกิดความรู้สึกหงุดหงิดกันบ้างหรือไม่นั้น หากเป็นผู้เล่นที่อัปเกรดจากเวอร์ชัน PlayStation 4 รูปแบบดั้งเดิมมา จะพบว่าอยู่ในระดับเท่ากัน และน่าชื่นชมทีเดียวที่ไม่เจออาการงอแงกันเลย เล่นกันได้แบบเนียนตาแม้เจอองค์ประกอบกราฟิกต่างๆ ต่อเนื่อง ทั้งนี้สิ่งที่เราต้องย้ำอีกครั้งคือแน่นอนว่าแม้จะเทียบเคียงกับตัวเน็กซ์เจ็นทั้งแง่ของกราฟิก อนิเมชัน และคอนเทนต์ แต่เราก็อาจจะเห็นว่ารายละเอียดบางส่วนหายไป อาทิความฟุ้งของภาพที่ไม่ได้มากเท่าไร กระนั้นไม่ได้ทำให้อารมณ์ของเกมหายไป เช่นเดียวกับฉากช้าๆ อย่างแชปเตอร์ที่สองก็เล่นได้สบายๆ ไม่ถือว่าดึงดูดสายตาให้เรารู้สึกเซ็ง ส่วน Ray-tracing แม้จะไม่มี แต่เชดเดอร์ได้จำลองการสะท้อนมาได้ดีมาก ความสมจริงยังคงอยู่แต่ใช้พลังงานน้อยลงจึงทำให้มีความลื่นไหลนั่นเอง

[พรีวิว] ลองมาแล้ว! Final Fantasy VII: Remake Intergrade เวอร์ชัน Switch 2
[พรีวิว] ลองมาแล้ว! Final Fantasy VII: Remake Intergrade เวอร์ชัน Switch 2

ไฮไลต์เด็ดที่คาดไม่ถึงคือการเปลี่ยนมาเล่นรูปแบบพกพาผ่านหน้าจอของเครื่องโดยตรงครับ ผมคิดว่าการเล่น Final Fantasy VII: Remake Intergrade เวอร์ชัน Nintendo Switch 2 ที่เหมาะเจาะที่สุดคือโหมดพกพาเพราะอย่างแรกเลยกราฟิกคุณภาพสูงได้ถูกนำเสนอบนหน้าจอที่รองรับ HDR ด้วยเพอร์ฟอร์แมนซ์ระดับเดียวกัน มีคมกริบด้วยความละเอียด 1080p และด้วยระยะการถือที่เข้ากับขนาดจอ 7 นิ้ว ทำให้หน้าจอกับตาของเราชมภาพที่แม้จะเป็น 30FPS ได้แบบลื่นเนียนตามากๆ ครับ

ด้วยเวลา 30 นาที (และ 15 นาทีต่อเซสชัน) จึงอาจไม่สามารถระบุเรื่องแบตเตอรีหรือการใช้พลังงานได้ แต่ผมเชื่อว่า Final Fantasy VII: Remake Intergrade เวอร์ชัน Nintendo Switch 2 นี้ ได้รับการพัฒนามาเพื่อสภาพแวดล้อมของเครื่องเกมอย่างเหมาะสม ซึ่งไม่ได้เป็นการรีดเครื่องให้ดันบาร์ที่จำกัด แต่มันเหมือนกับถูกสร้างมาเพื่อเครื่องเล่นรุ่นนี้อย่างลงตัว ลงล็อคพอดี เราสามารถหยิบการผจญภัยของ Cloud กับผองเพื่อนความยาวหลักสิบหลักร้อยชั่วโมงไปเล่นที่ไหนก็ได้ จะเริ่มจากที่บ้านหรือเพลิดเพลินบนรถไฟฟ้าระหว่างทำงานและพักกลางวันก็ฟินอีกแบบ ว่าแล้วก็อยากให้ถึงวันจำหน่ายกันเร็วๆ แล้วครับ!

[พรีวิว] ลองมาแล้ว! Final Fantasy VII: Remake Intergrade เวอร์ชัน Switch 2

@ SQUARE ENIX CHARACTER DESIGN: TETSUYA NOMURA / ROBERTO FERRARI
LOGO ILLUSTRATION:© YOSHITAKA AMANO

เกี่ยวกับเกม Final Fantasy VII: Remake Intergrade

การกลับมาอีกครั้งของซีรีส์ JRPG ในตำนานที่ได้รับการพัฒนาใหม่ให้กับเครื่องเล่นเกมรุ่นใหม่โดยเฉพาะผ่านเอนจิ้น Unreal Engine 4 ที่ทันสมัย ซึ่งผู้เล่นจะได้เดินทางผจญภัยร่วมกับ Cloud และเพื่อนๆ อีกมากมายในโลกสุดแฟนตาซีเพื่อโค่นล้มบริษัทวายร้าย Shinra Company จากการคุกคามผู้คนทั่วเมือง Midgar โดยเวอร์ชันใหม่จะวางจำหน่ายให้ Nintendo Switch 2 และ Xbox Series X|S ในวันที่ 22 มกราคมปีหน้า

GantaroZX

ใครใครเขาก็รู้ ว่าหนูอ่ะเปิดเผย หนูสั้นของหนูอย่างเงี้ย หนูเน้นเซ็กซี่เฉยๆ
Back to top button