Microsoft เปิดตัว Gaming Copilot สำหรับ Windows ให้ทดลองใช้งานแล้ว
ช่วยเหลือแบบเรียลไทม์โดยไม่ต้องออกจากเกม
Microsoft เริ่มทยอยเปิดตัว Gaming Copilot ผู้ช่วย AI สำหรับเกมใหม่ให้ผู้ใช้ Windows ในรูปแบบเบต้าสาธารณะตั้งแต่วันที่ 19 กันยายน ตามหลังการทดสอบกับ Xbox Insiders ในเดือนสิงหาคม โดยฟีเจอร์นี้ถูกฝังอยู่ใน Xbox Game Bar overlay เพื่อให้ผู้เล่นได้รับการสนับสนุนในเกมแบบเรียลไทม์ ผ่านการวิเคราะห์บริบทจากหน้าจอและบัญชี Xbox ของผู้ใช้
ต่างจากเวอร์ชัน Copilot ใน Windows หรือ Microsoft 365 ก่อนหน้า Gaming Copilot ถูกออกแบบให้เข้าใจบริบทหน้าจอและเกมแบบเรียลไทม์ โดยอ่านข้อมูลจากประวัติบัญชี Xbox ดูว่ากำลังเล่นเกมอะไร และวิเคราะห์เนื้อหาหน้าจอตามคำสั่งเพื่อตอบคำถามในเกม Microsoft ระบุว่า “ฟีเจอร์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยผู้เล่นค้นหา achievement วางแผน build และนำทางเควสต์โดยไม่ต้อง alt-tab ไปยัง wiki หรือ YouTube”
ในทางทฤษฎี Gaming Copilot คล้ายกับเครื่องมือบุคคลที่สามอย่าง Overwolf แต่ทำงานที่ระดับระบบภายใน Game Bar overlay ทำให้มีพฤติกรรม fullscreen ที่เชื่อถือได้มากกว่าและเข้ากันได้กับเกม DirectX Microsoft ยืนยันว่าผู้ช่วยนี้สามารถปักหมุดเป็น widget และเปิดใช้งานด้วย voice control แบบ push-to-talk ซึ่งทั้งสองฟีเจอร์นี้มีให้ใช้แล้วในเบต้าเริ่มต้น
บริษัทยังไม่ได้เปิดเผยว่า Copilot สำหรับการทำงานแบบ local หรือ cloud-based ทั้งหมด รวมถึงไม่เอ่ยถึงการเร่งความเร็วด้วย NPU ซึ่งสำคัญสำหรับผู้เล่นที่ใช้ Snapdragon X หรือ CPU ไฮบริดที่มีบล็อก AI บนอุปกรณ์ นี่จะเป็นจุดทดสอบหลัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ Microsoft กำหนด Copilot ให้เหมาะสมกับเครื่องเล่นเกมพกพาใหม่ ๆ อย่าง ROG Ally X
ความเข้ากันได้กับระบบป้องกันการโกงยังเป็นคำถามเปิด โดยผู้ขายอย่าง Easy Anti-Cheat และ BattlEye มัก whitelist Game Bar เอง แต่ Copilot เป็น overlay ที่ซับซ้อนกว่า และ Microsoft ยังไม่ชี้แจงถึงการป้องกันเฉพาะ ด้วยการวิเคราะห์ screenshot แบบเรียลไทม์และ widget ถาวร จึงไม่ชัดเจนว่า Copilot จะทำงานอย่างไรในเกมที่มี DRM เข้มงวดหรือการบังคับใช้ในการแข่งขัน
ด้วยการเปิดตัว Gaming Copilot Microsoft ดูเหมือนกำลังพยายามทำให้ Windows รู้สึกเหมือนแพลตฟอร์มเกมหลักโดยแท้ เพียงไม่กี่วันก่อน rollout Copilot บริษัทอัปเดต Xbox app ให้เป็น launcher รวบรวมเกมจาก Steam Epic GOG และอื่น ๆ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้เปลี่ยน Windows จาก OS เจ้าภาพแบบ passive ให้เป็นผู้เข้าร่วมเชิงรุกในการเล่นเกม
