![[รีวิว] Intel Core Ultra 9 285K และ Core Ultra 5 245K 1 Intel Core Ultra 9 285K Core Ultra 5 245K Review feature](https://thisisgamethailand.com/wp-content/uploads/2025/09/Intel-Core-Ultra-9-285K-Core-Ultra-5-245K-Review-feature.jpg)
วันนี้เราจะมาคุยกันถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในวงการซีพียู กับการมาถึงของซีพียูพีซีเจเนอเรชันใหม่จาก Intel ที่ไม่ได้ใช้ชื่อ Core i ที่เราคุ้นเคยกันอีกต่อไป แต่มาในชื่อใหม่แกะกล่องว่า Core Ultra พร้อมสถาปัตยกรรมที่ถูกยกเครื่องใหม่ทั้งหมดในโค้ดเนม Arrow Lake-S
เราจะพาไปผ่าพิสูจน์ซีพียูสองรุ่นเด่นอย่าง Intel Core Ultra 9 285K และ Intel Core Ultra 5 245K แบบหมดเปลือก ตั้งแต่สถาปัตยกรรมใหม่ ไปจนถึงผลทดสอบการเล่นเกมและทำงาน ถ้าพร้อมแล้วไปลุยกันเลย
Table of Contents
Intel Core Ultra กับการยกเครื่องสถาปัตยกรรมครั้งใหญ่
การมาถึงของ Intel Core Ultra สำหรับพีซีไม่ใช่แค่การเปลี่ยนชื่อเรียกจาก Core i ที่อยู่คู่กับเรามานานกว่าทศวรรษ แต่มันคือการส่งสัญญาณถึงการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างและปรัชญาในการออกแบบซีพียูของ Intel อย่างสิ้นเชิง นี่ไม่ใช่แค่การปรับเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่เป็นการรื้อแล้วสร้างใหม่โดยนำเทคโนโลยีที่เปิดตัวไปก่อนหน้าในแพลตฟอร์มโน้ตบุ๊กอย่าง Meteor Lake มาปรับใช้กับพีซีอย่างเต็มรูปแบบ
![[รีวิว] Intel Core Ultra 9 285K และ Core Ultra 5 245K 2 tig-intel-core-ultra-200-review](https://thisisgamethailand.com/wp-content/uploads/2025/09/tig-intel-core-ultra-200-review-1-1024x768.jpg)
หัวใจสำคัญของ Arrow Lake-S คือสถาปัตยกรรมแบบ Tile-based หรือที่หลายคนอาจคุ้นในชื่อ Chiplet ซึ่งเป็นแนวทางที่คู่แข่งใช้มานานและประสบความสำเร็จอย่างสูง การออกแบบลักษณะนี้เปรียบเสมือนการนำชิ้นส่วนย่อยที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางมาประกอบกันเป็นซีพียูหนึ่งตัว ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพ การจัดการความร้อน และการใช้พลังงาน
![[รีวิว] Intel Core Ultra 9 285K และ Core Ultra 5 245K 3 tig-intel-core-ultra-200-review](https://thisisgamethailand.com/wp-content/uploads/2025/09/tig-intel-core-ultra-200-review-2-1024x768.jpg)
เพื่อให้เข้าใจถึงประสิทธิภาพของ Arrow Lake-S เราต้องมาทำความรู้จักกับโครงสร้างพื้นฐานที่เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงกันก่อน
ซีพียู Core Ultra ไม่ได้เป็นแผ่น Monolithic อีกต่อไป แต่เป็นแบบ Multi-Chip Module (MCM) ที่ประกอบด้วย Tile หลายตัววางอยู่บนแผ่นซิลิคอนตัวกลางที่เรียกว่า Foveros base tile ซึ่งทำหน้าที่เชื่อมต่อทุกอย่างเข้าด้วยกัน Tile หลักประกอบด้วย:
- Compute Tile: หัวใจหลัก ประกอบด้วยซีพียู Cores ทั้งหมด ผลิตบนโหนดกระบวนการผลิต N3B
- SoC Tile: ทำหน้าที่ควบคุมส่วนต่าง ๆ เช่น Memory Controller (DDR5), PCI-Express และที่สำคัญคือมีหน่วยประมวลผล AI หรือ NPU อยู่ในส่วนนี้ด้วย ผลิตบนโหนด N6
- Graphics Tile: ประมวลผลกราฟิกภายใน (iGPU) ที่ได้รับการอัปเกรดครั้งใหญ่เป็นสถาปัตยกรรม Xe-LPG ผลิตบนโหนด N5P
- I/O Tile: จัดการการเชื่อมต่อต่าง ๆ เช่น Thunderbolt 4
![[รีวิว] Intel Core Ultra 9 285K และ Core Ultra 5 245K 4 tig-intel-core-ultra-200-review](https://thisisgamethailand.com/wp-content/uploads/2025/09/tig-intel-core-ultra-200-review-3-1024x768.jpg)
นอกจากนี้ Intel ยังได้ปรับเปลี่ยนการวางตำแหน่งของ P-Cores และ E-Core Clusters บน Compute Tile โดยวางสลับกันไปมาแทนที่จะแยกกันอยู่คนละฝั่งเหมือนใน Raptor Lake เพื่อช่วยกระจายความร้อนให้ดีขึ้นและลด Latency ในการสื่อสารระหว่างคอร์
Arrow Lake-S มาพร้อมกับสถาปัตยกรรมคอร์ใหม่ทั้งหมด 2 แบบ:
- Lion Cove P-cores (Performance-cores): เป็นคอร์หลักสำหรับงานหนักและการเล่นเกม Intel เคลมว่ามี IPC เพิ่มขึ้นจาก Raptor Cove ถึง 9% และมี L2 Cache ขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 3MB ต่อคอร์
- Skymont E-cores (Efficient-cores): เป็นคอร์ประหยัดพลังงานที่ถูกยกเครื่องใหม่ โดยมี IPC เพิ่มขึ้นจากรุ่นก่อนถึง 32% ทำให้ E-cores รุ่นใหม่นี้มีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับ P-cores รุ่นเก่า ๆ เหมาะสำหรับจัดการงานเบื้องหลังและงานที่ต้องการหลายเธรดพร้อมกัน
![[รีวิว] Intel Core Ultra 9 285K และ Core Ultra 5 245K 5 tig-intel-core-ultra-200-review](https://thisisgamethailand.com/wp-content/uploads/2025/09/tig-intel-core-ultra-200-review-4-1024x768.jpg)
การเปลี่ยนแปลงที่สนใจและส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพมากที่สุด คือการที่ Intel ตัดสินใจถอดเทคโนโลยี Simultaneous Multi-Threading (SMT) หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ Hyper-Threading ออกจาก Lion Cove P-cores ซึ่งนี่เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 20 ปีที่ซีพียูพีซีระดับไฮเอนด์ของ Intel ไม่มีฟีเจอร์นี้
ผลกระทบโดยตรงคือ P-core แต่ละตัวจะทำงานได้เพียง 1 เธรดเท่านั้น ทำให้ Core Ultra 9 285K ที่มี 24 คอร์ (8 P-cores + 16 E-cores) จะมีเพียง 24 เธรด ในขณะที่ Core i9-14900K รุ่นก่อนหน้ามี 24 คอร์ (8 P-cores + 16 E-cores) แต่มีถึง 32 เธรด
การตัดสินใจครั้งนี้เป็นการเดิมพันครั้งใหญ่ของ Intel โดยมองว่าการเพิ่มจำนวน E-cores ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นมาก จะสามารถชดเชยจำนวนเธรดที่หายไปในงาน Multi-tasking ได้ดีกว่าการคง Hyper-Threading ไว้ ซึ่งช่วยลดความซับซ้อนและขนาดของ P-core ลงได้
อย่างไรก็ตาม สำหรับการเล่นเกมที่ต้องการเฟรมเรตสูง ๆ ซึ่งอ่อนไหวต่อ Latency และประสิทธิภาพของ Single-thread มาก การเปลี่ยนแปลงนี้ถือเป็นความเสี่ยงสูง และจากผลทดสอบเบื้องต้นก็ดูเหมือนว่าการเดิมพันครั้งนี้อาจยังไม่ส่งผลดีต่อประสิทธิภาพการเล่นเกมเท่าที่ควร
![[รีวิว] Intel Core Ultra 9 285K และ Core Ultra 5 245K 6 tig-intel-core-ultra-200-review](https://thisisgamethailand.com/wp-content/uploads/2025/09/tig-intel-core-ultra-200-review-5-1024x768.jpg)
อีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญของ Core Ultra คือการนำหน่วยประมวลผล AI โดยเฉพาะที่เรียกว่า NPU (Neural Processing Unit) ภายใต้ชื่อ Intel AI Boost มาใส่ไว้ในซีพียูพีซีเป็นครั้งแรก แม้ว่าปัจจุบันความสามารถ 13 TOPS ของมันจะยังไม่ถึงเกณฑ์ 40 TOPS ที่ Microsoft กำหนดสำหรับฟีเจอร์ Copilot+ แต่ก็ถือเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการนำ PC เข้าสู่ยุค AI อย่างเต็มตัว
ในส่วนของกราฟิกออนบอร์ด (iGPU) ก็ได้รับการอัปเกรดครั้งใหญ่เป็นสถาปัตยกรรม Xe-LPG ซึ่งให้ประสิทธิภาพดีขึ้นกว่า UHD 770 ใน Raptor Lake ถึง 100% หรือมากกว่านั้น ทำให้สามารถใช้เล่นเกมที่ไม่กินสเปกมากนักที่ความละเอียด 1080p ได้โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งการ์ดจอแยก
Intel Core Ultra 9 285K เรือธงรุ่นใหม่
มาดูกันที่รุ่นเรือธงอย่าง Core Ultra 9 285K ว่าเมื่อเทียบกับคู่แข่งแล้วจะเป็นอย่างไร
คุณสมบัติ | Intel Core Ultra 9 285K | Intel Core i9-14900K | AMD Ryzen 9 9950X |
สถาปัตยกรรม | Arrow Lake-S | Raptor Lake Refresh | Zen 5 |
จำนวนคอร์ (P+E) | 24 (8+16) | 24 (8+16) | 16 |
จำนวนเธรด | 24 | 32 | 32 |
Boost Clock (สูงสุด) | 5.7 GHz | 6.0 GHz | 5.7 GHz |
L3 Cache | 36 MB | 36 MB | 64 MB |
กราฟิกออนบอร์ด | Intel Graphics (Xe-LPG) | Intel UHD Graphics 770 | AMD Radeon Graphics |
TDP (Processor Base Power) | 125 W | 125 W | 170 W |
ราคา | 20,900 บาท | 16,900 บาท | 21,100 บาท |
ผลการทดสอบที่ออกมาสำหรับ Core Ultra 9 285K มีประสิทธิภาพในการเล่นเกมโดยเฉลี่ยเหนือกว่า Core i9-14900K อยู่สูงสุด 15% จากการทดสอบแบบที่ค่อนข้างใช้สเปกและการประมวลผลอย่าง Starfield ซึ่งแน่นอนว่าผลลัพธ์ในส่วนนี้จะแตกต่างกันไปตามสเปกที่ใช้งาน และสำคัญที่สุดยังหนีไม่พ้นการ์ดจอ
![[รีวิว] Intel Core Ultra 9 285K และ Core Ultra 5 245K 7 tig-intel-core-ultra-200-review](https://thisisgamethailand.com/wp-content/uploads/2025/09/tig-intel-core-ultra-200-review-8-1024x768.jpg)
ในโปรแกรมทดสอบอย่าง Cinebench และ Geekbench 6 เจ้า Core Ultra 9 285K สามารถทำคะแนน Multi-core ได้สูงกว่า 14900K ประมาณ 12%
![[รีวิว] Intel Core Ultra 9 285K และ Core Ultra 5 245K 8 tig-intel-core-ultra-200-review](https://thisisgamethailand.com/wp-content/uploads/2025/09/tig-intel-core-ultra-200-review-9-1024x768.jpg)
จุดที่ดีที่สุดของ Arrow Lake-S คือการจัดการพลังงานและความร้อน Intel ได้เปลี่ยนปรัชญาจากการอัดไฟเพื่อประสิทธิภาพ ที่เห็นใน Gen 13 และ 14 มาเป็นการเน้นประสิทธิภาพต่อวัตต์อย่างจริงจัง ผลลัพธ์คือ ระหว่างการเล่นเกม Core Ultra 9 285K ใช้พลังงานเฉลี่ยเพียงประมาณ 77W เท่านั้น ซึ่งน้อยกว่า 14900K ถึง 36% การใช้พลังงานที่ลดลงนี้ส่งผลโดยตรงต่ออุณหภูมิที่เย็นลงอย่างเห็นได้ชัด
โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยขณะเล่นเกมอยู่ที่ 48°C เทียบกับ 60°C ของ 14900K นี่คือการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญมาก เพราะมันหมายความว่าไม่จำเป็นต้องลงทุนกับชุดระบายความร้อนระดับท็อปราคาแพงอีกต่อไป
Intel Core Ultra 5 245K คำตอบสำหรับตลาดหลัก
สำหรับเกมเมอร์ส่วนใหญ่ ซีพียูในระดับกลางอย่าง Core Ultra 5 245K คือรุ่นที่น่าจับตามองที่สุด
คุณสมบัติ | Intel Core Ultra 5 245K | Intel Core i5-14600K | AMD Ryzen 5 9600X |
สถาปัตยกรรม | Arrow Lake-S | Raptor Lake Refresh | Zen 5 |
จำนวนคอร์ (P+E) | 14 (6+8) | 14 (6+8) | 6 |
จำนวนเธรด | 14 | 20 | 12 |
Boost Clock (สูงสุด) | 5.2 GHz | 5.3 GHz | 5.4 GHz |
L3 Cache | 24 MB | 24 MB | 32 MB |
TDP (Processor Base Power) | 125 W | 125 W | 105 W |
ราคา | 9,490 บาท | 8,890 บาท | 8,990 บาท |
Core Ultra 5 245K ให้ผลลัพธ์ที่ออกมาคล้ายกับรุ่นพี่ โดยมีประสิทธิภาพดีขึ้นเฉลี่ยสูงสุดราว 13% เมื่อเทียบกับ i5-14600K
![[รีวิว] Intel Core Ultra 9 285K และ Core Ultra 5 245K 9 tig-intel-core-ultra-200-review](https://thisisgamethailand.com/wp-content/uploads/2025/09/tig-intel-core-ultra-200-review-6-1024x768.jpg)
![[รีวิว] Intel Core Ultra 9 285K และ Core Ultra 5 245K 10 tig-intel-core-ultra-200-review](https://thisisgamethailand.com/wp-content/uploads/2025/09/tig-intel-core-ultra-200-review-7-1024x768.jpg)
ในด้านการทำงาน 245K ทำผลงานได้อย่างน่าสนใจ สามารถเอาชนะ 14600K ในงาน Multi-core ส่วนใหญ่ได้ และทิ้งห่างในงานอย่าง Blender หรือ Handbrake ไปไกล จุดเด่นที่สุดคือการใช้พลังงานที่ต่ำมาก
โดยในการทดสอบเล่นเกม Baldur’s Gate 3 245K ใช้ไฟเพียง 83W ซึ่งน้อยกว่า 14600K ถึง 46% นี่คือประสิทธิภาพต่อวัตต์ที่ยอดเยี่ยมอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อนในซีพียูระดับกลางของ Intel
บทสรุป Arrow Lake-S คุ้มไหมสำหรับเกมเมอร์
สำหรับ เกมเมอร์ ที่ต้องการเฟรมเรตสูงสุดเท่าที่จะเป็นไปได้ Arrow Lake-S เป็นหนึ่งในคำตอบที่น่าสนใจในตลาดตอนนี้ ถ้าใครที่ใช้รุ่นเก่าและต้องการความทันสมัยที่มาพร้อมกับความสามารถในการใช้งาน AI นี่เป็นตัวเลือกที่ควรพิจารณาไว้ในตัวเลือกอย่างแน่นอน
![[รีวิว] Intel Core Ultra 9 285K และ Core Ultra 5 245K 11 tig-intel-core-ultra-200-review](https://thisisgamethailand.com/wp-content/uploads/2025/09/tig-intel-core-ultra-200-review-10-1024x768.jpg)
สำหรับผู้ใช้งานทั่วไปที่ใช้คอมพิวเตอร์ทำงานหนัก ๆ เช่น ตัดต่อวิดีโอ, เรนเดอร์ 3D, หรือสตรีมมิ่ง Core Ultra 9 285K และ Ultra 5 245K คือตัวเลือกที่น่าสนใจมาก ด้วยประสิทธิภาพ Multi-core ที่ยอดเยี่ยม การจัดการพลังงานและความร้อนที่ดี ทำให้มันเป็นซีพียูรอบด้านที่สมบูรณ์แบบสำหรับยุคใหม่ ที่ความแรงไม่ได้วัดกันที่ตัวเลขเฟรมเรตสูงสุดเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป
Core Ultra 200 Arrow Lake-S คือซีพียูเปลี่ยนผ่านที่แสดงให้เห็นทิศทางในอนาคตของ Intel ที่มุ่งเน้นไปที่ AI และประสิทธิภาพต่อวัตต์ที่หาตัวจับได้ยาก