ยอดใช้จ่ายต่อผู้ใช้ของเกมเมอร์ญี่ปุ่นยังคงสูง แม้ตลาดเกมมือถือจะหดตัวลง!
พฤติกรรมการเปย์หนักของชาวญี่ปุ่นยังคงทำให้รายได้ของตลาดยังคงทรงตัว

แม้ว่าตลาดเกมมือถือญี่ปุ่นจะไม่คึกคักเท่าช่วงยุคโควิด-19 แต่รายงานล่าสุดเผยว่า พฤติกรรมการใช้จ่ายสูงของผู้เล่นญี่ปุ่น ยังคงช่วยประคองรายได้โดยรวมของตลาดให้อยู่ในระดับมั่นคง โดยเฉพาะการทุ่มเงินกับเกมกาชาและระบบไมโครทรานส์แอ็กชันที่ยังคงเป็นหัวใจสำคัญของธุรกิจนี้
รายงาน Sensor Tower ชี้ชัดพลังการเปย์ของผู้เล่นญี่ปุ่น

จากรายงาน Japan Game Market Insights ของ Sensor Tower (เผยแพร่เมื่อวันที่ 10 กันยายน ผ่าน 4Gamer) ที่ครอบคลุมช่วงเดือนสิงหาคม 2024 – กรกฎาคม 2025 พบว่า ยอดดาวน์โหลดรวมจาก App Store และ Play Store ในญี่ปุ่นอยู่ที่ 628 ล้านครั้ง ซึ่งเป็นแนวโน้มที่ลดลงเมื่อเทียบกับปี 2020
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าสนใจกว่าคือ รายได้จากการซื้อของในเกม (In-App Purchase) ยังคงแข็งแกร่งเกินคาด โดยทำรายได้รวมทะลุ 11 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นรองเพียงประเทศจีนที่อยู่ราว 11.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เท่านั้น
รายงานระบุว่า ญี่ปุ่นเป็นตลาดที่มี ค่าเฉลี่ยรายได้ต่อผู้ใช้ (ARPU) สูงเป็นพิเศษ ซึ่งหมายความว่าเกมเมอร์ญี่ปุ่นพร้อมควักกระเป๋าจ่ายเพื่อไอเทมหรือระบบสุ่มในเกมมากกว่าประเทศอื่น ๆ อีกทั้งแม้ว่ากว่า 80% ของยอดดาวน์โหลดเกมมือถือญี่ปุ่นจะมาจากผู้เล่นต่างชาติ แต่รายได้กลับกว่า 70% มาจากผู้เล่นในประเทศเอง
ข้อมูลนี้สอดคล้องกับความเห็นของผู้พัฒนาเกมญี่ปุ่นก่อนหน้านี้ที่เปรียบอุตสาหกรรมเกมมือถือในประเทศเหมือนกับ “เรือไททานิกที่กำลังจะจม แต่ยังมีที่นั่งไม่กี่ที่ลอยน้ำอยู่” เนื่องจากเกมดังที่เปิดให้บริการอยู่แล้วสามารถรักษาฐานผู้เล่นให้เล่นต่อและจ่ายต่อได้ แต่เกมใหม่กลับเผชิญปัญหาดึงผู้เล่นเข้ามาได้ยากขึ้นเรื่อย ๆ
รายงานชี้ว่า เกมแนว กาชา RPG คือประเภทที่ทำรายได้ได้ดีที่สุด เพราะดึงดูดผู้เล่นกลุ่มฮาร์ดคอร์ที่พร้อมใช้เงินก้อนใหญ่กับระบบตัวละครและไอเทมในเกม
นอกจากนี้ยังมีข้อมูลเสริมจากผลสำรวจของสถาบันการเงินยักษ์ใหญ่อย่าง SMBC เมื่อต้นปีที่เผยว่า 18.8% ของคนญี่ปุ่นวัย 20 ปีขึ้นไปเคยใช้เงินซื้อไอเทมในเกมมากเกินไปจนไม่สามารถดูแลค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันได้ ซึ่งยิ่งสะท้อนถึงปัญหาด้านพฤติกรรมการใช้เงินในเกมอย่างชัดเจน
ผู้อ่านคนใดต้องการติดตามข่าวทั้งหมดของ This Is Game Thailand ก็สามารถมาได้ที่นี่ครับ >>>คลิก<<<