
Apple ประกาศว่าฟีเจอร์ Live Translation สำหรับ AirPods ซึ่งจะเปิดตัวในวันที่ 15 กันยายนนี้ จะไม่สามารถใช้งานได้ในสหภาพยุโรป (EU) หากผู้ใช้อยู่ใน EU และใช้ Apple ID ที่ตั้งภูมิภาคเป็น EU สาเหตุหลักน่าจะมาจากกฎหมาย AI Act และ GDPR ที่เข้มงวด ซึ่งกำหนดข้อบังคับเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลและความเป็นส่วนตัว
ฟีเจอร์ Live Translation เปิดตัวพร้อม AirPods Pro 3 และรองรับรุ่นเก่าอย่าง AirPods Pro 2 และ AirPods 4 (รุ่น Active Noise Cancellation) ช่วยให้ผู้ใช้สนทนาข้ามภาษาได้อย่างเป็นธรรมชาติ โดย AirPods จะแปลคำพูดแบบเรียลไทม์ และเมื่อจับคู่กับ iPhone ที่ใช้ iOS 26 ขึ้นไป จะแสดงคำแปลบนหน้าจอในแนวนอนสำหรับคู่สนทนาที่ไม่ได้ใช้ AirPods
ฟีเจอร์นี้ทรงพลังยิ่งขึ้นเมื่อทั้งสองฝ่ายใช้ AirPods ที่รองรับ โดยระบบ Active Noise Cancellation จะลดเสียงคู่สนทนาเพื่อให้ได้ยินคำแปลชัดเจน แต่ยังคงรักษาการสนทนาที่เป็นธรรมชาติ รองรับภาษาอังกฤษ (UK/US), ฝรั่งเศส, เยอรมัน, โปรตุเกส (บราซิล) และสเปน โดยจะเพิ่มภาษาอิตาลี, ญี่ปุ่น, เกาหลี และจีน (ตัวย่อ) ในอนาคต

ข้อจำกัดใน EU น่าจะเกิดจากหน่วยงานกำกับดูแลที่ต้องการตรวจสอบการทำงานของฟีเจอร์นี้ในด้านความเป็นส่วนตัว การยินยอม และการจัดการข้อมูล Apple จึงต้องรอให้ระบบสอดคล้องกับกฎหมายก่อนเปิดให้บริการ ซึ่งยังไม่มีการระบุว่าเมื่อใดข้อจำกัดนี้จะถูกยกเลิก
อุปกรณ์ที่รองรับฟีเจอร์นี้ต้องใช้ iPhone 15 Pro หรือใหม่กว่าที่รัน iOS 26 พร้อม AirPods ที่อัปเดตเฟิร์มแวร์ล่าสุด การทดสอบเบต้าของ iOS 26 และเฟิร์มแวร์ AirPods ดำเนินการควบคู่กัน โดยคาดว่าการอัปเดตจะพร้อมในวันที่ 15 กันยายนนี้
ความท้าทายนี้สะท้อนถึงความซับซ้อนในการนำเทคโนโลยี AI ออกสู่ตลาดท่ามกลางกฎระเบียบที่เข้มงวดใน EU ซึ่งอาจส่งผลต่อประสบการณ์ผู้ใช้ในภูมิภาคนี้ แม้ว่าฟีเจอร์ Live Translation จะเป็นนวัตกรรมที่ช่วยให้การสื่อสารข้ามภาษาง่ายขึ้นก็ตาม