[รีวิว] Borderlands 4 – สวมบท Vault Hunters ล่าสมบัติ และปลดปล่อยโลกจาก Timekeeper

Borderlands 4 เป็นเกมแอ็กชั่น FPS PvE ที่ผู้เล่นจะได้รับบทเป็นเหล่านักล่าที่เดินทางมายัง Kairos เพื่อตามหาสมบัติและโชคลาภ อย่างไรก็ตามภารกิจของพวกเขาที่ต้องเจอก็คือการปลดปล่อยเหล่าชาวเมืองในดาวแห่งนี้ที่กำลังถูกกดขี่ข่มเหงโดย Timekeeper จอมวายร้าย สร้างความวุ่นวายไปทั่วดาว เราจะมีบทบาทในการจุดประกายแห่งความหวังให้กับเหล่าผู้ที่ต้องการปฏิวัติเพื่อประชาชน ใช้อาวุธต่างๆ ในการต่อกร

ในโอกาสนี้ผู้เขียนได้มีโอกาสเข้าไปผจญภัยใน Kairos มาแล้ว และก็ไม่พลาดที่จะนำรีวิวมาให้ทุกคนได้อ่านกันครับ

อนึ่ง… การรีวิวนี้เกิดขึ้นบน PC โดยหากผู้อ่านกลับมาอ่านในภายภาคหน้าหลังจากที่รีวิวนี้ได้เผยแพร่ไปแล้ว ข้อสังเกตบางข้ออาจมีการแก้ไขเรียบร้อยแล้วก็เป็นได้

มีภาษาไทยให้ได้ใช้งานกัน

จุดเด่นแรกที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ การแปลภาษาไทยภายในเกมนี้ที่ทำออกมาได้ดีในระดับที่น่าพึงพอใจ ซึ่งต้องบอกก่อนว่าโทนของเกมนี้ค่อนข้างที่จะหลากหลาย มีทั้งจริงจัง เสียดสี มุกตลกแปลก ๆ มากมาย ทำให้การแปลเกมนี้ไม่ง่ายเลยแม้แต่น้อยแต่การแปลไทยของเกมก็ทำออกมาได้ดี อาจจะมีบางช่วงที่แปลออกมาทื่อไปนิด แต่ก็ไม่ได้ผิดเพี้ยนอะไร ทำให้เราสามารถเข้าใจเนื้อเรื่องได้มากขึ้น แต่สิ่งที่ดีงามที่สุดก็คือการแปลรายละเอียดของสกิล และรายละเอียดของอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่จะทำให้ผู้เล่นเล่นเกมนี้ได้ง่ายขึ้นมาก ๆ ซึ่งผู้เขียนยกให้ประเด็นนี้คือหนึ่งในประเด็นที่น่าประทับใจที่สุดของเกมเลยก็ว่าได้

อย่างไรก็ตามข้อแอบติงเล็กน้อยก็คือตัวเกมไม่ได้ใส่ตัวเลือกให้เปลี่ยนภาษาไทยมาในเกม แต่ผู้เล่นจะต้องไปเปลี่ยนในหน้า Library ของ Steam ซึ่งเป็นอะไรที่… งงมาก เพราะผู้เขียนใช้เวลางมหาที่เปลี่ยนซับไปหลายสิบนาที จนยอมแพ้ต้องไปหาว่า Borderlands ภาคเก่าเปลี่ยนภาษายังไง จนถึงบ้างอ้อนั่นเอง…

กราฟิกที่มีเอกลักษณ์ที่ไม่มีใครเหมือน

สำหรับกราฟิกในเกมนี้ยังคงความโดดเด่นในแบบฉบับ Borderlands ได้อย่างชัดเจน ด้วยโมเดลตัวละครสไตล์กึ่งการ์ตูนที่มีเส้นขอบดำหนาและสีสันจัดจ้านจนมองดูจากดาวอังคารก็รู้ว่า “นี่แหละ Borderlands ของแท้” ความสดใสของโทนภาพทำให้เกมมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่หาไม่ได้จากเกมอื่น ๆ ในแนวเดียวกัน

นอกจากนั้นเอฟเฟกต์ต่าง ๆ ก็ถูกออกแบบมาอย่างพอดี ไม่มากหรือน้อยเกินไป แม้อาจไม่ได้อลังการเวอร์วังเหมือนบางเกม แต่กลับสร้างสมดุลที่ลงตัวกับโทนกราฟิกที่สดและแสบตาอยู่แล้ว ผลลัพธ์คือประสบการณ์ภาพที่ทั้งคมชัดและดึงดูดสายตา โดยไม่ทำให้รู้สึกล้าหรือรบกวนสายตาขณะเล่น ซึ่งผู้เขียนมองว่านี่เป็น จุดแข็งที่ทำให้ Borderlands 4 น่าเล่นอย่างมาก

เลือกตัวละครที่ชอบ ตามหาปืนที่ใช่

สำหรับเกมเพลย์ในภาคนี้ ยังคงมาในรูปแบบ FPS สุดมันส์ ที่แฟน ๆ Borderlands คุ้นเคย แต่สิ่งที่ทำให้โดดเด่นตามแบบฉบับของ Borderlands ก็คือการได้สวมบทบาทเป็นหนึ่งในสี่ Vault Hunters คนใหม่ ที่มีสกิลแอ็กชั่นทรงพลังและท่าไม้ตายอันเป็นเอกลักษณ์ให้เลือกใช้แบบจัดเต็ม ผู้เล่นสามารถปรับแต่งสายการเล่นได้อย่างอิสระผ่านสกิลทรีที่ลึกและหลากหลาย จนสามารถสร้าง “ตัวละครในฝัน” ของตัวเองขึ้นมาได้อย่างแท้จริง และความสนุกไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น เพราะทุกการต่อสู้มาพร้อมความมันส์ระดับระเบิดภูเขา เผากระท่อม จากเอฟเฟกต์การโจมตีที่สะใจและการไล่ล่า Loot สุดโหด ที่อัดแน่นไปด้วยอาวุธสุดเพี้ยนและเกียร์ทรงพลังให้สะสมไม่รู้จบ ผู้เล่นยังต้องเผชิญหน้ากับ Timekeeper เผด็จการสุดโหด ที่กดขี่ทุกคนไว้ภายใต้ระเบียบอันโหดร้าย แต่เมื่อหายนะครั้งใหญ่กำลังปะทุ ความโกลาหลที่เกิดขึ้นก็จะเปิดทางให้คุณปลดปล่อยความมันส์แบบไร้ขีดจำกัด

และสิ่งสำคัญที่ทำให้ Borderlands ยังคงแตกต่างจากเกม FPS อื่น ๆ คือ “จำนวนปืนที่มากเกินกว่าจะนับได้” โดยแม้จะมีประเภทปืนพื้นฐานตามมาตรฐาน แต่ปืนแต่ละกระบอกกลับมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ตั้งแต่รูปแบบการยิง กระสุน ไปจนถึงอุปกรณ์เสริมที่ติดตั้งมา ทำให้ปืนทุกชิ้นที่ผู้เล่นเก็บได้มีความรู้สึกไม่ซ้ำกันเลยแม้แต่น้อย ความตื่นเต้นในการตามหาปืนที่ “ใช่” และการได้พบเจออาวุธสุดแหวกแนวที่คาดไม่ถึงนี่เอง คือเสน่ห์ที่ทำให้ Borderlands ยังคงตราตรึงใจแฟน ๆ มาจนถึงทุกวันนี้

โลกกว้างไร้รอยต่อที่ชวนให้สำรวจไม่รู้จบด้วยมูฟเมนต์สุดลื่นไหล

อีกหนึ่งจุดเด่นที่ทำให้เกมนี้น่าประทับใจมาก ๆ ก็คือ โลกขนาดมหึมาแบบไร้รอยต่อ ที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้ออกสำรวจอย่างอิสระ ทุกพื้นที่ล้วนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน รายละเอียดฉากที่จัดเต็ม ไปจนถึงศัตรูเฉพาะถิ่นที่จะสร้างความท้าทายใหม่ ๆ อยู่เสมอ ความรู้สึกว่าทุกครั้งที่ก้าวไปยังพื้นที่ใหม่จะได้เจอกับอะไรที่แปลกใหม่และไม่คาดคิดนั้น ทำให้การสำรวจกลายเป็นประสบการณ์ที่ทั้งสนุกและน่าตื่นเต้นตลอดเวลา

ไม่เพียงแค่ระนาบกว้างเท่านั้น แต่ การสำรวจในแนวตั้ง อย่างการปีนป่ายหรือเคลื่อนที่ผ่านพื้นที่สูงต่ำก็ถูกออกแบบมาอย่างลงตัว เพิ่มมิติให้กับการผจญภัยได้แบบจัดเต็ม ขณะเดียวกันผู้พัฒนายังเสริมความคล่องตัวให้กับตัวละครอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็น การกระโดด 2 จังหวะ, กลิ้งหลบ, โหนเชือก, การร่อนกลางอากาศ หรือแม้แต่ยานพาหนะ! ที่ช่วยให้ผู้เล่นเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระและตอบสนองต่อสถานการณ์การสำรวจได้ทุกพื้นที่

และถ้าใครกังวลว่าจะหลงท่ามกลางโลกกว้าง ก็สบายใจได้เลย เพราะตัวเกมมีทั้งระบบ สแกนพื้นที่ และ Way Point ที่ช่วยบอกเส้นทางชัดเจน ทำให้ไม่พลาดทั้งการทำภารกิจหลักและการค้นหาความลับที่ซ่อนอยู่ในโลกอันกว้างใหญ่นี้

และถ้าใครที่คิดว่าเราจะต้องวิ่งสำรวจโลกไปเรื่อย ๆ แบบไม่มีที่พักผ่อนก็ต้องบอกว่า “คุณคิดผิดแล้ว” เพราะเกมนี้จะมีฐานทัพให้คุณได้พักผ่อนหย่อนใจด้วย และในฐานทัพก็มีจุดรับเควสเพิ่มเติม รวมไปถึงมีตู้ซื้อขายของแบบครบครัน ทำให้ผู้เขียนรู้สึกว่าการเล่นเกมนี้สะดวกขึ้นอย่างมาก และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือเจ้า Claptrap จอมจ้อที่จะทำให้คุณยิ้มได้เมื่อเจอหน้าเขาอีกครั้ง

สรุปรีวิว

โดยรวมแล้ว Borderlands 4 ก็เป็นเกมที่น่าเล่นขึ้นอย่างมากสำหรับซีรีส์ Borderlands โดยผู้เขียนรู้สึกว่าหลาย ๆ อย่างลงตัวมากขึ้น และมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นมากขึ้นทั้งในแง่ของกราฟิกที่มองปุ๊บก็รู้ทันทีว่านี่คือโลกของ Borderlands รวมไปถึงเกมเพลย์หลัก ๆ ที่ยังคงหัวใจเดิมของเกมไว้ ที่เพิ่มเติมและโดดเด่นขึ้นก็คือการสำรวจโลกที่ทำให้อิสระขึ้น พร้อมกับการเคลื่อนไหวที่ลื่นไหล ทั้งการวิ่ง กระโดด ปีนป่าย และการต่อสู้ ทำให้ทุกการสำรวจและการปะทะกับศัตรูสนุกและเร้าใจยิ่งขึ้น แต่ผู้เล่นอาจพบอาการกระตุกเล็กน้อยในบางจังหวะ เช่นตอนถ่าย Screenshots ซึ่งไม่ได้รบกวนการเล่นโดยรวมมากนัก แต่ถือเป็นเรื่องเล็กที่อาจได้รับการปรับปรุงในอนาคต

ส่วนตัวผู้เขียนขออนุญาตให้คะแนนเกมนี้ที่ 8.5 เต็ม 10 ครับ ผู้เขียนขอย้ำว่า รีวิวนี้ รวมถึงคะแนนนี้เป็นมุมมองของผู้เขียนเท่านั้น แฟนเกมคนอื่น ๆ อาจจะมีมุมมองที่แตกต่างกันก็เป็นได้ครับ

จุดเด่น

– มีซับไทยให้ได้ใช้งาน

– กราฟิกสวยงามมีเอกลักษณ์ชัดเจน

– ตัวละครและสกิลหลากหลาย ปั้นตัวละครได้ในสไตล์ที่ต้องการ

– ปืนหลากหลายประเภท แต่ละกระบอกมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

– โลกกว้างไร้รอยต่อที่เปิดโอกาสให้สำรวจอิสระ

– มูฟเมนต์ลื่นไหลทำให้การสำรวจ และต่อสู้ได้สนุกขึ้น

ข้อสังเกต

– ยังมีบางจังหวะที่ตัวเกมมีความกระตุกเล็กน้อยตอนถ่าย Screenshots

– ไม่มีตัวเลือกเปลี่ยนภาษาภายในเกม ต้องเปลี่ยนจากหน้า Steam อาจจะงงเล็กน้อย

– ยังมีอาการแล็กให้ได้เห็นบ้าง

สุดท้ายนี้ขอขอบคุณ 2K ที่เอื้อเฟื้อและสนับสนุนเกมมาให้เราได้รีวิวในครั้งนี้ด้วยครับ ส่วนครั้งหน้าจะเป็นเกมอะไรนั้น โปรดติดตามกันได้เลย…

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมและสั่งซื้อเกมได้ที่ : [คลิก]

ภาพสกรีนช็อตเพิ่มเติม

ผู้อ่านคนใดต้องการติดตามรีวิว / พรีวิวเกมอื่น ๆ ของ This Is Game Thailand ก็สามารถมาได้ที่นี่ครับ >>>คลิก<<<