Nintendo เผย ค่ายเกมไม่ขัด ‘คุยมาแล้ว’ ประเด็นตลับเกม Key Card
ทางเลือกตลับเกมที่ผู้พัฒนา 3rd-party กำลังใช้อย่างแพร่หลาย

นอกเหนือจากตลับเกมรูปแบบมาตรฐานที่เสียบปุ๊บแล้วพร้อมเล่น และเกมแบบดิจิทัลดาวน์โหลดแล้ว บนเครื่องเล่น Nintendo Switch 2 ยังมีการนำเสนอสื่อตลับเกมอีกรูปแบบที่เรียกว่า Game Key Card หรือตลับเปล่าที่ไม่บรรจุไฟล์เกม แต่เป็นตลับที่เสียบเพื่อยืนยันสิทธิ์การดาวน์โหลดเกม โดยจะจำหน่ายในแบบกล่องให้ทุกคนได้สะสมกัน ทั้งนี้แม้ฟังเป็นไอเดียที่ดี ทว่าหลายคนกลับรู้สึกไม่โอเคแนวคิดนี้
การทำงานของ Game Key Card นั้นจะให้ผู้ใช้งานเสียบตลับเข้าไปในเครื่อง จากนั้นระบบก็จะเริ่มต้นดาวน์โหลดไฟล์เกมคล้ายกับเกมดิจิทัล เพียงแต่ว่าเราจะต้องติดตั้งไฟล์ลงไปในเครื่องและใช้อินเทอร์เน็ตในครั้งแรก และเมื่อต้องการเล่นเกมก็ต้องเสียบตลับตลอดเวลา ซึ่งด้วยหลักการทำงานแบบนี้ทำให้เกิดการพูดคุยกันว่าในกรณีที่เซิร์ฟเวอร์ยกเลิกให้บริการ ตลับดังกล่าวจะไม่สามารถเล่นเกมได้อีกต่อไปนั่นเองครับ
ล่าสุด ผู้ใช้งาน NStyles ได้นำข้อมูลน่าสนใจในการประชุมสามัญของบริษัทในครั้งที่ 85 มาเปิดเผยให้ฟังด้วย ซึ่งคุณ Shuntaro Furukawa ผู้บริหารสูงสุดของ Nintendo ได้เปิดเผยว่าพวกเขาทราบดีถึงกระแสตอบรับของตลับเกมรูปแบบดังกล่าว ทั้งนี้ทั้งนั้นทางค่ายยืนยันว่าจะยังคงมีการพัฒนาและผลิตตลับเกมรูปแบบ Key Card ต่อไป อีกทั้งยังมองว่าเป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับค่ายเกมที่ต้องการจำหน่ายเกมแบบกล่องใส่ตลับ ทว่ามีขนาดที่มากเกินความจุตลับ
เขายังกล่าวต่อด้วยว่าประเด็นนี้ได้เคยถูกพูดคุยกับทางค่ายอื่นๆ ที่ใช้บริการ โดยผู้พัฒนาอิสระล้วนให้การสนับสนุนและไม่ได้ขัดไอเดียแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม Key Card คือตลับที่เป็นทางเลือกหนึ่งให้กับทีมพัฒนา แต่การจะนำมาใช้จริงนั้นขึ้นอยู่กับแต่ละค่ายว่าจะใช้บริการตลับชนิดนี้ หรือว่าเลือกใส่ไฟล์เกมลงมาในตลับสมบูรณ์แบบเดียวกันกับ CD Projekt RED ในเคสของ Cyberpunk 2077 ที่ได้ใจแฟนเกมมาก่อนนั่นเองครับ สำหรับเพื่อนๆ คิดเห็นอย่างไรมาพูดคุยกันได้
เกี่ยวกับ Nintendo Switch 2
เครื่องเล่นเกมคอนโซลรูปแบบไฮบริดที่จะสานต่อความสนุกจากเครื่องเล่นรุ่นแรกในรูปแบบเน็กซ์เจ็น พร้อมกับหน้าจอขนาด 7.9 นิ้ว และการรองรับ HDR เช่นเดียวกับเฟรมเรตระดับ 120FPS (หรือ 4K สำหรับการใช้งานบนโทรทัศน์) เช่นเดียวกับความสามารถในการใช้ระบบ Voice Chat – Video Call ครบครัน รองรับความจุระดับ 256GB โดยวางจำหน่ายแล้ววันนี้ในประเทศไทย ราคาเริ่มต้นที่ 17,800 บาท
สำหรับใครที่สนใจรีวิว และข้อมูลเกี่ยวกับอุปกรณ์ที่ใช้งานร่วมกันได้ อย่าลืมติดตามได้จาก ThisIsGame Thailand ข้างล่างนี้เลยครับ