ถ้าใครกำลังมองหา External SSD ตัวใหม่สักเจ้าที่ไม่เพียงแค่เก็บข้อมูลได้เยอะ แต่ยังพกพาสะดวกและทำงานได้รวดเร็วจริง ๆ เข้ามาถูกที่แล้วเพราะ Kingston XS1000 External SSD เป็นหนึ่งในอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลแบบพกพาที่มาพร้อมความบาง และประสิทธิภาพที่ไม่ธรรมดา ออกแบบมาเพื่อเอาใจคนที่ต้องการความคล่องตัวในการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นสายคอนเทนต์ครีเอเตอร์ นักเดินทาง หรือแม้กระทั่งเกมเมอร์ที่ไม่ชอบที่ต้องรอเวลาโหลดเกมที่ช้าเกินไป
ในยุคที่ทุกคนต้องการพื้นที่จัดเก็บข้อมูลที่เร็วและเชื่อถือได้ การมี External SSD ดี ๆ สักตัวจึงกลายเป็นเรื่องจำเป็นมากกว่าแค่ของเสริม ไม่ว่าจะเป็นการสำรองไฟล์สำคัญ ไปทำงานนอกสถานที่ หรือขยายพื้นที่ในเครื่องที่ไม่จำกัดเพียงแค่พีซีและโน้ตบุ๊ก
Feature
XS1000 มีให้เลือก 2 ความจุหลัก ได้แก่ 1TB และ 2TB ขนาดที่เรียกว่าเหลือ ๆ สำหรับการเก็บไฟล์สำคัญ งานออกแบบ วิดีโอ 4K หรือแม้กระทั่งเกมหนัก ๆ หลายเกม บอกเลยว่าใครที่เคยใช้ USB Flash Drive แล้วเจอปัญหาเก็บไม่ครบตัวนี้น่าจะช่วยปลดล็อกตรงนั้นได้ดี
Kingston ระบุว่า XS1000 มีความเร็วในการอ่าน-เขียนสูงสุดอยู่ที่ 1,050 MB/s ซึ่งถือว่าเร็วในระดับมาตรฐานของพอร์ต USB 3.2 Gen 2 โดยตัวไดรฟ์รองรับการเชื่อมต่อผ่าน USB-C และทำงานบนมาตรฐาน USB 3.2 Gen 2×1 (10 Gbps) ซึ่งหมายความว่าหากใช้อุปกรณ์ที่รองรับพอร์ตนี้เต็มที่ จะได้ความเร็วที่ใกล้เคียงกับที่โฆษณาไว้แน่นอน
น้ำหนักเบาแค่ 28.7 กรัม ใส่กระเป๋าเสื้อได้สบาย ๆ ไม่มีล้ำกระเป๋า ทำให้มันกลายเป็นหนึ่งใน External SSD ที่พกพาสะดวกที่สุดในตลาดตอนนี้
ในกล่องจะมี ตัวไดรฟ์ และ สาย USB-C to USB-A มาให้ แต่… หลายคนอาจจะรู้สึกงงนิด ๆ เพราะปัจจุบันเครื่องโน้ตบุ๊กใหม่ ๆ หลายรุ่นเปลี่ยนไปใช้ พอร์ต USB-C หรือ Thunderbolt แทน แต่กลับ ไม่แถมสาย USB-C to USB-C มาให้ด้วย
Kingston มอบ การรับประกันแบบจำกัด 5 ปี ให้กับ XS1000 พร้อมบริการสนับสนุนทางเทคนิคฟรี
Design
มาดูหน้าตาภายนอกของ Kingston XS1000 กันบ้าง ต้องบอกเลยว่าเจ้านี่มีดีไซน์ที่เรียบง่าย สไตล์มินิมอลแบบคลาสสิก โดยตัวเครื่องส่วนใหญ่เป็นสีดำสนิท พร้อมโลโก้ Kingston สีขาวอยู่ตรงกลาง แค่แรกเห็นก็รู้แล้วว่าเป็นอุปกรณ์จากแบรนด์ไหน
แม้ว่าจะมีบางส่วนที่เป็นพลาสติก แต่โดยรวมก็ให้ความรู้สึกทนทานกำลังดี ส่วนรูปทรงนั้นออกแบบมาให้มีมุมโค้งมน ๆ ไม่มีเหลี่ยมคม ทำให้เวลาหยิบจับหรือใส่กระเป๋าไม่ต้องกลัวบาดมือหรือไปขูดของอื่น ๆ ในกระเป๋า
อีกจุดที่ชอบคือมีไฟ LED เล็ก ๆ แสดงสถานะการทำงานตอนเสียบใช้งาน ทำให้เวลาที่เห็นรับรู้ได้เลยว่ากำลังทำงานอยู่หรือไม่
ขนาดของ XS1000 บอกเลยว่า เล็กจริง เบาจริง บางกว่าสมาร์ทโฟนบางรุ่นเสียอีก ใส่กระเป๋ากางเกงได้สบาย ๆ หรือจะเก็บไว้ในกระเป๋าสะพายใบเล็กก็ไม่เกะกะเลย ด้วยน้ำหนักที่เบามาก ทำให้เหมาะสุด ๆ สำหรับสายเดินทาง หรือใครที่ทำงานนอกออฟฟิศบ่อย ๆ เพราะหยิบใส่กระเป๋าโน้ตบุ๊กได้แบบไม่ต้องคิดมาก
นอกจากนี้ยังเข้ากันได้ดีกับหลากหลายอุปกรณ์ ไม่ว่าจะเป็น PC, Mac, สมาร์ทโฟน หรือแม้กระทั่งสมาร์ททีวี แค่เสียบเข้าไปก็ใช้งานได้เลย ไม่ต้องลงไดรเวอร์เพิ่มเติม
แม้ตัวเครื่องจะดูแข็งแรง แต่ Kingston ไม่ได้ระบุ IP Rating อย่างเป็นทางการ มาตรฐานกันกระแทกหรือทนทานก็ไม่ได้เคลมไว้ชัดเจน ดังนั้นหากเป็นคนที่ใช้งานในสภาพแวดล้อมหนัก ๆ หรือมักจะเผลอทำของตก อาจต้องระวังหน่อย
Performance
เมื่อพูดถึง External SSD หนึ่งในคำถามหลักที่หลายคนอยากรู้คือ มันแรงแค่ไหน ? และสำหรับ Kingston XS1000 ที่เคลมความเร็วไว้สูงถึง 1,050MB/s ก็ต้องมาดูกันว่ามันแรงแบบเห็นผลจริงหรือแค่ตัวเลขบนกระดาษกันแน่
เพื่อตรวจสอบเรามาลองทดสอบกับโปรแกรมอย่างเช่น CrystalDiskMark และ AS SSD โดยผลลัพธ์ออกมาดังนี้
| Read (MB/s) | Write (MB/s) | |
| CrystalDiskMark | 1020.63 | 1000.81 |
| AS SSD | 1002.94 | 951.37 |
โดยรวมแล้ว Kingston XS1000 ให้ความเร็วในการอ่าน-เขียนที่ใกล้เคียงกับที่เคลมไว้ และสามารถใช้งานได้ลื่นไหลจริงในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการย้ายไฟล์หรือสำรองข้อมูล
พูดถึงความเร็วแล้วก็ต้องมาดูให้รู้จริงว่ามันแรงแค่บนกระดาษ หรือแรงจริงเวลาใช้งาน และสำหรับ Kingston XS1000 เราลองใช้งานจริงไปหลายสถานการณ์
ไฟล์ขนาดใหญ่ เช่น วิดีโอ 5GB ใช้เวลาไม่ถึง 10 วินาที ก็ย้ายเสร็จ ส่วนไฟล์ขนาดเล็กจำนวนมาก เช่น รูปภาพ ตรงนี้อาจทำให้บางคนชะงักนิด ๆ เพราะความเร็วอาจลดลงเหลือประมาณ 40MB/s หรือต่ำกว่า โดยเฉพาะเมื่อต้องย้ายทีละไฟล์ การแก้ไขที่แนะนำคือ บีบอัดไฟล์เล็ก ๆ เป็น ZIP ก่อนถ่ายโอน ซึ่งจะช่วยให้ความเร็วพุ่งขึ้นได้
แม้จะไม่มีระบบระบายความร้อนพิเศษ แต่จากประสบการณ์ใช้งานจริง XS1000 จะรู้สึก อุ่นขึ้นเล็กน้อย เมื่อถ่ายโอนไฟล์หนัก ๆ นาน ๆ แต่อุณหภูมิจะไม่ถึงขั้นร้อนจนจับไม่ได้
โดยรวมแล้วไม่มีอาการ Thermal Throttling ที่เด่นชัด แต่หากใช้งานในสภาพแวดล้อมที่อากาศไม่ถ่ายเท เช่น วางทับด้วยเอกสาร หรือใส่ในกระเป๋าร้อน ๆ ก็อาจมีผลต่อประสิทธิภาพระยะยาวได้
Conclusion
ถ้าคุณกำลังมองหา External SSD ตัวใหม่ที่ไม่เพียงแค่เก็บไฟล์ได้เยอะแต่ยัง พกพาสะดวก ทำงานรวดเร็ว และ ไว้ใจได้ในระยะยาว ตัวนี้อาจเป็นคำตอบที่ตามหาอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นเกมเมอร์ นักเรียน คนทำงาน หรือสายเดินทาง การมี Kingston XS1000 ติดกระเป๋าไว้สักตัว ช่วยให้จัดการข้อมูลได้อย่างคล่องตัว ด้วยราคา 4,390 บาท สำหรับรุ่น 2TB ถือว่าเป็นตัวเลขที่ไม่สูงจนเกินไป
จุดเด่น
- พกพาสะดวกด้วยขนาดที่เล็กและน้ำหนักที่เบาเพียง 28.7 กรัม
- ทำความเร็วได้ใกล้เคียงกับที่ระบุไว้ที่ 1050MB/s
- ใช้งานได้กับหลากหลายอุปกรณ์ไม่ว่าจะเป็นพีซี โน้ตบุ๊ก สมาร์ทโฟน หรือแม้กระทั่งสมาร์ททีวีก็ทำได้สบาย
- ใช้งานง่ายแบบ Plug-and-Play
- รับประกัน 5 ปี
จุดสังเกต
- ไม่มี IP Rating
- ประสิทธิภาพลดลงเมื่อใช้งานกับงานบางประเภท
- ไม่มีสาย USB-C to USB-C มาในตัว
สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณทาง Kingston ประเทศไทย ที่ได้ทำการส่ง Kingston XS1000 มาให้เราทำการทดสอบกัน สามารถหาซื้อได้แล้วตามร้านค้าชั้นนำและช่องทางออนไลน์
ดูข้อมูลเพิ่มเติมและสั่งซื้อสินค้าได้ที่ [คลิก]
