
ในช่วงเปิดตัวของ Elden Ring NIGHTREIGN หนึ่งในปริศนาที่สร้างความสับสนให้กับผู้เล่นจำนวนมากคือ Cord End ไอเทมประเภท Consumable ที่ไม่ค่อยมีใครรู้ว่าใช้ทำอะไร และแม้ตอนนี้จะมีคนค้นพบหน้าที่ของมันแล้ว แต่ความลับของมันดูเหมือนจะยังไม่จบง่าย ๆ
ไขปริศนา Cord End ใน Elden Ring NIGHTREIGN ไอเทมหายากที่อาจมีเบื้องหลังลึกซึ้ง
จากการค้นพบของยูทูบเบอร์ชื่อ Hawkshaw ระบุว่า Cord End มีโอกาสดรอปเพียง 0.035% จากกล่องในโบสถ์ต่าง ๆ ซึ่งนับว่าเป็นอัตราดรอปที่ต่ำมาก ไอเทมชิ้นนี้ใช้เพื่อเปิดประตูลับในหุบเขาใหญ่บริเวณใจกลางแผนที่ Limveld ซึ่งเมื่อเข้าไปแล้วจะพบกับอุโมงค์และได้ Sacrificial Twig Talismans ทั้งหมด 3 ชิ้น
สำหรับผู้เล่นที่คุ้นเคยกับเวอร์ชั่นดั้งเดิมของ Elden Ring อาจรู้จัก Sacrificial Twig ว่าเป็นเครื่องรางที่ใช้เพื่อป้องกันการสูญเสียรูนเมื่อเสียชีวิตหนึ่งครั้ง โดยจะหายไปหลังใช้งาน แต่ใน NIGHTREIGN นั้น Twig เวอร์ชั่นใหม่นอกจากจะป้องกันการเสียรูนแล้วยังช่วยป้องกันการลดเลเวลอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ด้วยจำนวนเครื่องรางที่ติดได้สูงสุดเพียง 2 ชิ้นต่อหนึ่งตัวละคร รวมกับความหายากของ Cord End ทำให้ผู้เล่นหลายคนเริ่มสงสัยว่า มันน่าจะมีอะไรมากกว่านั้น
ผู้เล่นบางคนคาดการณ์ว่า Cord End อาจเชื่อมโยงกับเนื้อเรื่องลับของกลุ่ม Roundtable Hold และเหล่า Nightfarers ขณะที่อีกทฤษฎีหนึ่งกล่าวว่า ปาร์ตี้ที่ประกอบด้วย Wylder, Recluse และ Duchess ต้องหา Cord End, เปิดประตูลับ และติดตั้ง Twig ทั้งสามให้ครบจึงจะปลดล็อคอะไรบางอย่าง ซึ่งเป็นเรื่องปกติของเกมจาก FromSoftware ที่ยิ่งไขปริศนาได้มากเท่าไหร่ ยิ่งเผยความลับใหม่มากขึ้นเท่านั้น
จากข่าวนี้เห็นได้ชัดว่า Elden Ring NIGHTREIGN ยังคงเอกลักษณ์ของเกมตระกูล FromSoftware ไว้ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นการซ่อนเนื้อหาลับ ไอเทมหายาก หรือการชวนให้ผู้เล่นตั้งทฤษฎีเองจากข้อมูลเพียงเล็กน้อย สำหรับ Cord End อาจไม่ใช่แค่ไอเทมทางเลือกที่ให้รางวัลธรรมดา แต่เป็นประตูบานหนึ่งสู่ความลับลึกของโลก NIGHTREIGN ที่รอให้ผู้เล่นร่วมกันไขให้กระจ่าง และนั่นคือเสน่ห์สำคัญที่ทำให้เกมนี้ยังน่าติดตามไม่รู้จบ
Elden Ring NIGHTREIGN เป็นเกมรูปแบบแอ็กชั่น Souls-like ในธีมดาร์กแฟนตาซีจากโลกฉากหลังของเกมภาคหลักที่ถูกถ่ายทอดใหม่เพื่อประสบการณ์แบบ Co-op Multiplayer โดยเฉพาะ ผู้เล่นจะได้จับกลุ่มกับสมาชิกในทีมรวมสามคน เดินทางไปในแดนมัชฌิมาที่ ณ ตอนนี้ถูกบดบังด้วยภัยคุกคามแห่งความมืดมิดของยามราตรีจนเกิดมอนสเตอร์เลวร้ายบุกรุกเข้ามา ซึ่งตัวละครต่าง ๆ จะมีรูปแบบการนำเสนอสไตล์เกมเพลย์ที่ต่างกันด้วยโดยเกมนี้เกมยังมีองค์ประกอบคล้ายกับ Roguelike ด้วยนั่นก็คือทุกครั้งที่ยามราตรีมาถึง สภาพแวดล้อมต่าง ๆ ก็จะเปลี่ยนไป เช่นศัตรูหรือบอสที่จะมีความแตกต่าง ทำให้ไม่สามารถคาดเดาได้ว่าอันตรายข้างหน้านั้นจะเป็นอย่างไรกันแน่!