เทคโนโลยี

Google Play Store ปรับโครงสร้างใหม่เน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ

จำนวนแอปพลิเคชันหายไปกว่าครึ่งตั้งแต่ปี 2024

ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2024 ที่ผ่านมา จนถึงตอนนี้ มีรายงานใหม่จากบริษัทวิเคราะห์แอปอย่าง Appfigures บอกว่าจำนวนแอปบน Google Play Store ลดลงแบบฮวบฮาบ จากเดิมประมาณ 3.4 ล้านแอปทั่วโลก เหลือเพียงแค่ประมาณ 1.8 ล้านแอปเท่านั้น แปลว่ามีการลบหรือถอดแอปออกไปเกือบครึ่งหนึ่งเลยทีเดียว

ในทางตรงกันข้าม ทาง iOS App Store ของ Apple กลับไม่เจอสถานการณ์แบบนี้ โดยจำนวนแอปยังทรงตัวอยู่ที่ประมาณ 1.6 ล้านแอป และแม้จะเพิ่มขึ้นมานิดหน่อยเป็น 1.64 ล้านแอป แต่ก็ถือว่าแตกต่างจากฝั่ง Android พอสมควร

สาเหตุสำคัญของการลดจำนวนแอปลงแบบเยอะมากในฝั่ง Google Play มาจากการที่ Google เริ่มเข้มกับนโยบายการตรวจสอบแอป โดยเฉพาะในช่วงกลางปี 2024 ที่ Google ประกาศใช้มาตรฐานคุณภาพขั้นต่ำที่สูงขึ้น ทำให้แอปที่เคยผ่านได้ง่าย ๆ อย่างเช่นแอปเปล่า ๆ ที่มีแค่ลายเซ็น, ไฟล์ PDF ธรรมดา, หรือแอปเดียวที่มีแค่พื้นหลังสวย ๆ เริ่มไม่สามารถอยู่ในร้านค้าได้อีกต่อไป

หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมถึงมีแอปพวกนี้เยอะขนาดนั้น ส่วนหนึ่งเพราะ Google เคยมีระบบตรวจสอบที่เร็วกว่า Apple เพราะใช้ระบบอัตโนมัติและสแกนไวรัสเป็นหลัก ซึ่งช่วยให้แอปโหลดขึ้นมาได้เร็ว แต่ก็แลกมาด้วยคุณภาพโดยรวมของร้านค้าที่ต่ำกว่า นอกจากนี้ยังมีนโยบายใหม่ที่ขยายการตรวจสอบด้วยคนจริง เพื่อกันไม่ให้มีแอปหลอกลวงหรือแอปไม่มีประโยชน์เข้ามาในระบบ

google-play-store-clean-up-application

Google ยังเผยสถิติน่าสนใจด้วยว่า ในปีนี้พวกเขาหยุดการอัปโหลดแอปที่ผิดนโยบายไปแล้วกว่า 2.36 ล้านแอป และแบนผู้พัฒนาไปกว่า 158,000 ราย ที่พยายามเอาแอปอันตรายหรือไม่มีคุณภาพเข้ามาขายผ่าน Play Store

นอกจากนี้ ยังมีนโยบายใหม่จากทาง EU ที่เริ่มบังคับใช้ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2024 เป็นต้นมา ซึ่งกำหนดว่านักพัฒนาจะต้องระบุชื่อ-ที่อยู่ของตัวเองในแอป หากไม่ทำตาม จะถือว่าไม่ตรงตามกฎ และแอปจะถูกลบออกจากร้านค้าในยุโรป แม้ว่า Apple จะเจอข้อกำหนดเดียวกัน แต่จำนวนแอปในร้านของ Apple ไม่ได้ลดลงเหมือนฝั่ง Android

สรุปคือ Google Play Store กำลังยกเครื่องครั้งใหญ่ เพื่อเน้นคุณภาพแทนปริมาณซึ่งอาจดูเหมือนว่าแอปลดลงเยอะ แต่ผลลัพธ์คือประสบการณ์ที่ดีขึ้นทั้งสำหรับผู้ใช้และนักพัฒนาเอง ใครที่ใช้ Android เป็นประจำ อาจสังเกตได้ว่าเดี๋ยวนี้แอปแปลกปลอม หรือแอปไร้สาระเริ่มหาดูยากขึ้น

ที่มา
TechCrunch

Artherlus

แค่คนทั่วไปที่หลงใหลในวงการไอที
Back to top button