[รีวิว] Huawei MateBook D15 จอใหญ่ สเปคแรง พกพาสะดวก

ยุคนี้เราจะได้เห็นการเปิดตัวโน้ตบุ้ครุ่นใหม่ ๆ ที่มาพร้อมกับจุดเด่นต่าง ๆ มากมายไม่ว่าจะเป็นสเปคสุดแรม หน้าจอสุดคมชัด น้ำหนักเบา พกพาง่าย สิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่หลาย ๆ คนอยากจะให้มีอยู่ภายในเครื่องของตัวเอง ฉะนั้นวันนี้เราจะมาแนะนโน้ตบุ๊คหนึ่งรุ่นที่มาจากแบรนด์ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนเบอร์ต้น ๆ ของโลกอย่าง Huawei กับรุ่นที่มีชื่อว่า Huawei MateBook D15 โน้ตบุ๊คที่มาพร้อมกับความเรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยประสิทธิภาพที่ซ่อนอยู่

Design

สำหรับตัวของ Huawei MateBook D15 อาจจะถูกเรียกว่าอยู่ในหมวดหมู่ของ Ultrabook ก็ว่าได้ด้วยการออกแบบตัวเครื่องเน้นไปที่ความเรียบง่าย ไม่ได้มีการใช้สีที่ฉูดฉาดจนเกินไป วัสดุที่ใช้งานทั่วตัวเครื่องเป็นอลูมิเนียมผสมอัลลอย ที่มีความทนทานต่อพื้นผิวต่าง ๆ และยังได้ข้อดีในเรื่องของการทำให้น้ำหนักโดยรวมของตัวเครื่องเบาตามไปด้วย เพราะมีน้ำหนักเพียงแค่ 1.62 กิโลกรัมเท่านั้น ถือว่าเบาใช้ได้กับโน้ตบุ๊คที่มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว

บริเวณมุมซ้ายล่างของตัวเครื่องจะเป็นสติกเกอร์ที่บอกให้เราได้ทราบว่าตัวเครื่องใช้งานซีพียูของทาง AMD อย่าง AMD Ryzen 5 3500U ที่มาพร้อมกับประสิทธิภาพการทำงานที่หลายคนยอมรับในเรื่องของความคุ้มค่า พร้อมกับรองรับการใช้งาน Huawei Share ที่สามารถถ่ายโอนข้อมูลต่าง ๆ ร่วมกับสมาร์ทโฟนของทาง Huawei ได้

ตัวคีย์บอร์ดที่ให้มาเป็นแบบ Compact สัมผัสในการใช้งานถือว่าพิมพ์ง่ายใช้น้ำหนักในการกดไม่มากนัก ส่วนเรื่องของเสียงเวลาที่พิมพ์ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ทั่วไป

ในส่วนของ Trackpad เป็นแบบแผงเดียวไม่ได้มีการทำสัญลักษณ์ใด ๆ เอาไว้ สัมผัสการใช้งานค่อนข้างที่จะแน่นเวลาที่กดลงไป การใช้งาน Gesture ต่าง ๆ ก็สามารถทำได้เป็นอย่างดี

เรื่องของความบางของตัวเครื่องถือว่าบางมาก ๆ เพียง 16.9 มิลลิเมตร โดยการปรับองศาของหน้าจอก็ถือว่าปรับได้เกือบที่จะ 180 องศาทำให้สะดวกในการใช้งานในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี

ฝาหลังของตัวเครื่องจะมีโลโก้ของทาง Huawei สลักเอาไว้อยู่

ในส่วนของพอร์ตการใช้งานด้านขวาของตัวเครื่องมาพร้อมกับพอร์ต USB-A 2.0 จำนวน 2 พอร์ตและรูสำหรับหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร

ด้านซ้ายของตัวเครื่องเป็นพอร์ต USB-C จำนวน 1 พอร์ต พอร์ต USB-A 3.0 จำนวน 1 พอร์ตและพอร์ต HDMI

หน้าจอของ Huawei MateBook D15 มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว โดยที่ความละเอียดหน้าจออยู่ที่ 1920 x 1080 FHD พาเนลหน้าจอที่ใช้งานเป็นแบบ IPS หมดปัญหาเรื่องการสะท้อนต่าง ๆ โดยที่ขอบหน้าจอแต่ละด้านก็เรียกว่าแทบจะไร้ขอบ เพื่มพื่นที่ในการแสดงผลได้มากยิ่งขึ้น

ด้านล่างของตัวเครื่องเป็นพื้นที่สำหรับการระบายความร้อนและลำโพงในตัว 

Software / Performance

Huawei MateBook D15 มาพร้อมกับการใช้งานซีพียูของทาง AMD อย่าง AMD Ryzen 5 3500U ที่มีจำนวนคอร์ในการทำงาน 4 Core 8 Thread ความเร็วในการทำงาน 2.1GHz และสามารถขึ้นไปได้สูงสุด 3.7GHz ในส่วนของแรมที่ให้มาเป็นแบบ 4GB x 2 ความเร็วบัส 2400MHz ทำงานแบบ Dual

การทดสอบด้วยโปรแกรมอย่าง CrystalDiskMark ถือว่าทำออกมาได้น่าสนใจเลยทีเดียว ตัวเครื่องใช้งานที่เก็บข้อมูล 2 แบบด้วยกันคือ SSD และ HDD โดยที่ SSD เป็นแบบ M.2 ขนาด 256GB ส่วน HDD มีขนาด 1TB จากการทดสอบในส่วนของ SSD ถือว่าทำงานออกมาได้รวดเร็วสมกับที่เป็น SSD M.2 อย่างที่ควรจะเป็น

การทดสอบในส่วนของ Cinebench R20 สำหรับการทดสอบการประมวลผลโดยเฉพาะ ถือว่าออกมาได้น่าพึงพอใจในส่วนของการทำงานแบบ Multi Core ส่วนการทำงานแบบ Single Core อยู่ในระดับที่ดีเช่นกัน

เรามาดูในส่วนของการทดสอบเล่นเกมบนตัวของ Huawei MateBook D15 ที่ตัวเครื่องใช้งานชิปกราฟิกเป็นตัวของ Radeon Vega 8 ที่อยู่ในตัวของซีพียู AMD Ryzen 5 3500U แน่นอนว่าประสิทธิภาพการใช้งานเล่นเกมอาจจะไม่ได้มากเท่าตัวที่มีการ์ดจอแยกมาให้ แต่การทดสอบก็ถือว่าออกมาได้น่าประทับใจเช่นกัน 

จากผลการทดสอบจะเห็นได้ว่าการเล่นเกมที่ความละเอียด FHD ในแต่ละเกมทำออกมาได้อยู่ในระดับที่พอเล่นได้ โดยการปรับการตั้งค่ากราฟิกภายในเกมเราได้ทำการปรับให้สามารถเล่นได้จริง ข้อแนะนำสำหรับใครที่อยากจะนำ Huawei MateBook D15 ไปเล่นเกมที่กินทรัพยากรเครื่องให้ลดความละเอียดของตัวเกมลงมาจาก FHD จะทำให้สามารถเล่นได้ดียิ่งขึ้น

ทดสอบลองรับชม YouTube ที่ความละเอียด 4K ดูแบบไม่เปิดอะไรเพิ่มตัวซีพียูถือว่าทำงานไม่หนักนัก วิ่งอยู่ที่ 10 – 15 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ฉะนั้นใครที่อยากจะทำงานไปดูสิ่งต่าง ๆ ไปถือว่าตอบโจทย์เป็นอย่างมาก

อีกสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจของ Huawei MateBook D15 คือมาพร้อมกับซอฟต์แวร์ที่เรียกว่า Huawei PC Manager ที่ช่วยให้เราสามารถปรับปรุงการทำงานของเครื่อง จัดการไดรเวอร์ของตัวเครื่องได้ อีกทั้งยังสามารถเชื่อมต่อเข้ากับสมาร์ทโฟนเพื่อใช้งานแชร์ข้อมูลต่าง ๆ ได้รวมไปถึงการยิงภาพเข้าตัวเครื่องและใช้งานผ่านตัวเครื่องได้อีกด้วย

ในส่วนของความร้อนของตัวเครื่องจะอยู่ที่ 38 องศาโดยประมาณซึ่งก็ถือว่าไม่สูงจนเกินไป แต่เมื่อทำงานอย่างเต็มที่แล้วจะขยับขึ้นไปที่ 53 – 70 องศาได้เช่นกัน ซึ่ง ณ ขณะที่ความร้อนสูงระดับนี้ตัวเครื่องจะเร่งการทำงานของพัดลมให้ระบายความร้อนได้เร็วยิ่งขึ้น ซึ่งใช้เวลาไม่นานก็สามารถคุมได้อยู่แล้ว ถือว่าทำระบบระบายความร้อนออกมาได้เป็นอย่างดี

สำหรับแบตเตอรี่ของตัว Huawei MateBook D15 จะสามารถทำงานได้ติดต่อกันประมาณ 9 – 10 ชั่วโมงโดยประมาณ แน่นอนว่าเรื่องของแบตเตอรี่มากน้อยขึ้นอยู่กับการใช้งาน และการปรับแต่งค่าต่าง ๆ ภายในตัวเครื่องแต่มาตรฐานแล้วก็ถือว่าอยู่ได้นานกว่าโน้ตบุ็ครุ่นอื่น ๆ ไปไกลเช่นกัน

Conclusion

ถือว่าเป็นโน้ตบุ้คที่มาพร้อมกับความคุ้มค่าต่าง ๆ มากมายไม่ว่าจะเป็นหน้าจอที่ใหญ่ถึง 15.6 นิ้วแต่น้ำหนักดันอยู่เพียงแค่ 16.2 กิโลกรัม จอระดับ FHD แบบ IPS ที่ตอบโจทย์ต่อการใช้งาน สเปคภายในที่แม้จะไร้การ์ดจอแยกแต่ก็สนุกได้ไม่แพ้กัน ที่สำคัญที่เก็บข้อมูลแบบ SSD M.2 ที่ช่วยเพิ่มประสบการณ์การใช้งานได้เป็นอย่างดี กับราคา 17,990 บาทถือว่าคุ้มค่าไม่น้อย

ข้อดี

– การออกแบบตัวเครื่องที่เน้นความเรียบง่าย

– วัสดุที่ใช้งานคงทนต่อสภาพพื้นผิวต่าง ๆ

– จอใหญ่กว่า 15.6 นิ้ว แต่เบาเพียง 16.2 กิโลกรัม

– สเปคตัวเครื่องที่ใช้งานได้คุ้มประสิทธิภาพ

– พื้นที่เก็บข้อมูลที่แยกออกเป็น 2 ส่วนทำให้เหมาะต่อการใช้งานทุกรูปแบบ

– การระบายความร้อนที่ทำออกมาได้เป็นอย่างดี

– รองรับการชาร์จผ่านพอร์ต USB-C ทำให้สะดวกในการพกพา

– มาพร้อมกับซอฟต์แวร์ที่เป็นประโยชน์อย่าง Huawei PC Manager

ข้อสังเกต

– Trackpad ที่ดูจะต้องปรับตัวในการใช้งานสักเล็กน้อย

– ซอฟต์แวร์เฉพาะทางที่รองรับเฉพาะสมาร์ทโฟนจากทาง Huawei

สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณทาง Huawei แห่งประเทศไทยที่ได้ทำการส่ง Huawei MateBook D15 สำหรับเครื่องที่ใช้ในการทดสอบในครั้งนี้ หากใครอยากจะได้โน้ตบุ๊คที่น่าสนใจรุ่นนี้สามารถหาซื้อได้แล้วตามร้านค้าชั้นนำไอทีทั่วประเทศ หรือสามารถหาซื้อได้ตามช่องทางออนไลน์ได้เช่นเดียวกัน

สั่งซื้อและรายละเอียดเพิ่มเติม : https://consumer.huawei.com/th/laptops/matebook-d-15-amd/