เทคโนโลยี

Xiaomi เปิดตัว Buds 5 Proหูฟังรุ่นแรกที่ใช้ชิป Qualcomm S7 Pro สตรีมเสียงผ่าน Wi-Fi

เพิ่มขอบเขตระยะการใช้งานได้กว้างขึ้น

Xiaomi ได้เปิดตัว Buds 5 Pro ในยุโรป ซึ่งเป็นหูฟังรุ่นแรกที่ใช้ชิป Qualcomm S7 Pro เพื่อสตรีมเสียงผ่าน Wi-Fi นอกเหนือจาก Bluetooth โดยไม่เพิ่มการใช้พลังงาน เทคโนโลยีนี้ถูกเปิดตัวโดย Qualcomm ในเดือนตุลาคม 2023 และนี่คือรุ่นแรกที่นำมาใช้

Buds 5 Pro ถูกประกาศในประเทศจีนเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา พร้อมกับ Xiaomi 15 Ultra ซึ่งจะเปิดตัวในยุโรปเช่นกัน หูฟังรุ่นนี้มีสองเวอร์ชัน ได้แก่ รุ่น Bluetooth และรุ่น Wi-Fi ที่ใช้เทคโนโลยี Expanded Personal Area Network (XPAN) ของ Qualcomm เพื่อส่งเสียงแบบ lossless ที่ 96kHz/24bit ด้วยแบนด์วิธสูงสุด 4.2Mbps ซึ่งดีกว่าที่ Bluetooth ทำได้ นอกจากนี้ยังสามารถเดินออกห่างจากโทรศัพท์ได้โดยที่สัญญาณไม่ลดลง ตราบใดที่ยังอยู่ในระยะของเครือข่าย Wi-Fi

อย่างไรก็ตาม มีข้อจำกัดบางอย่างเช่น ต้องเชื่อมต่อกับ Wi-Fi เท่านั้น ดังนั้นคุณจึงมีแนวโน้มที่จะได้รับประโยชน์จากเสียงคุณภาพสูงเมื่ออยู่บนเครือข่ายที่บ้านเท่านั้น Qualcomm เคยระบุว่าโทรศัพท์จะส่งข้อมูล Wi-Fi ขณะจับคู่ แต่ยังไม่ทราบว่าหูฟังสามารถจัดการการเชื่อมต่อกับหลายเครือข่ายได้หรือไม่ เพื่อให้ใช้งานในที่ทำงานได้ด้วย หากไม่มี Wi-Fi หูฟังจะสลับมาใช้ Bluetooth แทน

xiaomi-buds-5-pro-wifi-standard

ในปัจจุบัน หูฟังรุ่นนี้รองรับเฉพาะ Xiaomi 15 และ 15 Ultra เท่านั้น ซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงในอนาคต แต่ข้อจำกัดทางฮาร์ดแวร์หมายความว่าหูฟังจะทำงานกับโทรศัพท์ที่ใช้ชิปเรือธงของ Qualcomm เท่านั้น เช่น 8 Gen 3 หรือ 8 Elite ดังนั้นจึงไม่สามารถใช้งานผ่าน Wi-Fi กับ iPhone หรืออุปกรณ์ Apple อื่น ๆ ได้

Buds 5 Pro Wi-Fi มีแบตเตอรี่ใช้งานได้ 10 ชั่วโมงและสูงสุด 40 ชั่วโมงเมื่อรวมกับเคส ซึ่งดีกว่ารุ่น Bluetooth ที่ใช้งานได้ 8 ชั่วโมง สนับสนุนคำกล่าวของ Qualcomm ที่ว่าสามารถส่งเสียง lossless ผ่าน Wi-Fi ได้โดยใช้พลังงานเท่ากับ Bluetooth

หูฟังรุ่นนี้ใช้ระบบไดรเวอร์สามตัว โดยมีไดรเวอร์หลักขนาด 11 มม. ร่วมกับ PZT tweeter และ planar driver นอกจากนี้ยังรองรับ Active Noise Cancellation (ANC) และมีฟีเจอร์ AI หลายอย่าง เช่น การบันทึกการโทร การถอดเสียง และการแปล

Buds 5 Pro Wi-Fi ราคา 189.99 ปอนด์ และมีเฉพาะสีดำ ส่วนรุ่น Bluetooth-only ราคา 159.99 ปอนด์และมีให้เลือกสองสีคือขาวและเทา

ที่มา
The Verge

Artherlus

แค่คนทั่วไปที่หลงใหลในวงการไอที
Back to top button