7 สิ่งที่บ่งบอกว่าคุณเหมาะกับเกม Single Player เล่นคนเดียว

สวัสดีครับเพื่อน ๆ ชาวเกมเมอร์ หากพูดถึงเกม Single Player เนี่ย หลาย ๆ คนก็อาจจะมองถึงพวกเกม AAA หรือเกมเนื้อเรื่องต่าง ๆ แต่ก็มีหลายคนเลยที่อาจจะคิดว่า คนเล่นเกม Single Player คือคนเหงา ไม่มีเพื่อน เลยต้องมาเล่นเกมคนเดียวหรือเปล่า แต่จริง ๆ ไม่ใช่นะครับ เกม Single Player ก็เป็นแนวเกมแนวหนึ่งที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน เพราะมันมีจุดเด่นที่หลากหลาย คุ้มราคา และน่าเล่น และถ้าคุณไม่รู้ว่าคุณเป็นคนแบบไหน เหมาะกับเกมแนวอะไร คุณลองอ่านสิ่งที่ผมกำลังจะนำเสนอต่อไปนี้ดูครับ เพราะไม่แน่ว่าคุณอาจจะเหมาะกับการเล่นเกม Single Player มากกว่าแนวอื่นก็ได้ ไปชมกันครับ

1. รู้สึกว่าการเล่น Co-op หรือ Multiplayer ไม่สนุก

หลายคนอาจจะเคยพูดว่า เกมที่เล่นแล้วสนุกคือเกมที่เล่นกับเพื่อน ซึ่งวงการเกมก็มีเกม Co-op หรือ Multiplayer ออกมามากมาย แต่นั่นอาจไม่ใช่รสนิยมของเราที่เป็นผู้เล่นครับ เพราะแน่นอนว่าเกมที่เล่นกันหลายคน ย่อมถูกสร้างขึ้นมาให้เป็นกลางมากที่สุด โฟกัสเรื่องบาลานซ์ สมดุล ความเหมาะสมของคอนเทนต์ รวมไปถึงสเปคและกราฟิกภายในเกมให้ต่ำลงเพื่อรองรับผู้เล่นทุกกลุ่ม และสิ่งที่ลดทอนหรือหายไปเหล่านี้อาจส่งผลให้เรารู้สึกว่าเกมที่เล่นกับคนอื่นไม่เห็นสนุกเลย ในขณะที่เกม Single Player จะมีสคริปต์ที่ตั้งเอาไว้แล้วว่าทำอะไรได้บ้าง มุมกล้องเป็นยังไง ฉากต่อไปคืออะไร และไม่จำกัดเรื่องสเปคเพื่อให้คนอื่นเล่นได้เหมือนกับเราด้วยครับ

2. เล่นอย่างพิถีพิถัน ไตร่ตรอง คิด วิเคราะห์ ตั้งใจ

นิสัยการเล่นของคุณอาจเป็นคนจริงจัง เวลาเล่นเกมอาจจะต้องอาศัยเวลาในการไตร่ตรอง คิด วิเคราะห์ เช่น เรากำลังได้ของมา 2 ชิ้นที่ออปชั่นแตกต่างกัน กำลังประเมินว่าจะใส่ของชิ้นไหนดี ถ้าเราเล่นเกมกับเพื่อน แน่นอนว่าความเกรงใจที่เพื่อนจะรอนานก็ต้องมีแน่ แต่ถ้าคุณเล่นเกม Single Player คุณสามารถหาสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเองได้ จะหยุดเกมแล้วเปิด Youtube เสิร์ช Google ดูไกด์ ดูวิธีสอนเล่นก็ได้ เกม Single Player เลยเหมาะกับคนที่เน้นละเอียด รอบคอบ และค่อนข้างใช้เวลาในการเล่นครับ เพราะการใช้เวลาก็คือการเล่นเกมให้มีความสุขอย่างหนึ่งครับ เล่นเกมไม่ต้องรีบ

3. ชอบเสพเนื้อเรื่อง อินกับบทบาทของตัวละคร

การเล่นเกมเนื้อเรื่องนั้นแน่นอนว่ามันจะต้องใช้เวลาในการเล่น เพื่ออ่าน ศึกษา และทำความเข้าใจ World Setting หรือตัวละครของเกมนั้น ๆ แต่การเล่นเกม Co-op หรือ Multiplayer ที่มีผู้เล่นหลากหลายรูปแบบ กลับไม่ใช่ทุกคนที่ชื่นชอบการเสพเนื้อเรื่อง บางคนเล่นเกมเพราะเกมเพลย์มันสนุก บางคนก็แค่อยากปั้นตัวละคร บางคนแค่อยากยิงปืน หรืออื่น ๆ มันทำให้คนที่อยากดูเนื้อเรื่องถูกกดดันในการเล่นเกมแบบกลุ่มว่า “ดูคัตซีนทำไม Skip ได้แล้ว คนอื่นเขารอนาน” พอเรา Skip มันก็จะไม่รู้เนื้อเรื่อง แต่พอเราไปย้อนดูใน Youtube ก็จะไม่อินเหมือนตอนกำลังเล่นแล้ว เพราะงั้นถ้าคุณเป็นคนที่ชอบเล่นเกมเพราะเสพเนื้อเรื่อง เกม Single Player จะเหมาะกับคุณมากกว่าครับ

4. ขี้เกียจไปวุ่นวายกับคนอื่น

มากคนก็มากความ คือคำสั้น ๆ ง่าย ๆ ที่ผู้เล่นหลายคนน่าจะเคยสัมผัสกับจุดนี้มาแล้ว การเล่นเกมกับเพื่อนนั้นเต็มไปด้วยเงื่อนไขมากมายที่เราจะต้องคิดให้ตรงกัน ไม่ว่าจะเป็นแผนการเล่น การเลือกตัวละครไม่ให้ซ้ำกัน การแบ่งหน้าที่ การเลือกอาชีพ การแบ่งผลประโยชน์ เวลามีคนเยอะ ๆ แล้วตกลงกันไม่ได้มันเป็นอะไรที่ชวนปวดหัว บางครั้งเรามีคำตอบอยู่ในหัวอยู่แล้วว่าต้องการอะไรแต่เพื่อนยังตกลงกันไม่ได้ก็มีอยู่บ่อย ๆ ได้แต่ย้อนกลับไปคิดว่านี่เราเล่นเกมเพื่อผ่อนคลายหรือเล่นเกมเพื่อให้เครียดกว่าเดิมกันแน่ ดังนั้นเพื่อตัดปัญหาเหล่านี้ออกไป เกม Single Player จึงตอบโจทย์ครับ

5. ไม่อยากเจอคำบ่น คำด่า หรือ Toxic

ต่อให้ไม่ใช่เพื่อนที่เรารู้จักกันนอกจอ แต่เป็นผู้เล่น Online ที่อยู่ในจอก็มีผลต่อจิตใจของเราเช่นกัน โดยเฉพาะพวกเกม Multiplayer ที่เป็นสาย Competitive หรือมาแนว ๆ E-Sports การแพ้ชนะย่อมเป็นเรื่องธรรมดาของการเล่นเกม แต่มันจะไม่ธรรมดาแน่ ถ้าเกิดว่ามีผู้เล่นของทีมเราด่าทอหรือโทษกันเองภายในทีม เปรียบเทียบระหว่างทีมเราก็ฝ่ายตรงข้าม ซ้ำร้ายฝ่ายตรงข้ามอาจจะเปิดแชทพิมพ์เยาะเย้ยเราซ้ำสองอีกต่างหาก หรือต่อให้เล่นชนะก็อาจจะโดนเกรียนคีย์บอร์ดพิมพ์ถ่มถุยกันหลังเกมจบก็มี สิ่งเหล่านี้มันบั่นทอนความรู้สึกเราได้เสมอ ถ้าคุณรู้ตัวเองดีว่าไม่อยากเจออะไรแบบนี้ แนะนำเกม Single Player เถอะครับ

6. เวลาว่างไม่ค่อยตรงกับคนอื่น

เวลาว่างถือเป็นปัญหาใหญ่อย่างหนึ่งของการเล่นเกมกับเพื่อน แน่นอนว่าการอยู่ในวัยเรียนก็คงจะไม่มีปัญหาอะไรมากนัก เพราะยังสามารถเล่นหลังเลิกเรียนหรือวันหยุดได้ แต่ถ้าเกิดว่าเป็นวัยทำงาน ยิ่งเรากับเพื่อนทำอาชีพที่แตกต่างกัน เลิกงานไม่ตรงกัน อันนี้นัดเวลาเล่นยากแล้วครับ ยิ่งถ้าใครมีภาระครอบครัวด้วยแล้ว วันหยุดก็ไม่ได้เล่นครับเพราะคนมีครอบครัวก็ต้องไปดูแลครอบครัวของเขาก่อน แล้วถ้าเราเป็นคนเดียวที่ว่างไม่ตรงกับเพื่อน ๆ เลยก็ยิ่งรู้สึกแย่เข้าไปใหญ่ ถ้าคุณเป็นคนที่มีปัญหาในการหาเวลาเล่นเกมกับเพื่อนไม่ได้ คุณไม่จำเป็นต้องหยุดเล่นเกมครับ เพราะคุณเหมาะกับเกม Single Player มากกว่าตามบริบทของชีวิตเรา

7. ไม่อยากจ่ายเงินซื้อเกมที่ไม่อยากเล่น

เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องใหญ่นะครับ คุณเคยได้ยินคำนี้ไหมครับ “เกมฟรีคือเกมหมา เกมมีราคาคือเกมคัดคน” ถ้าเราเล่นเกมฟรีเราก็จะเจอ Toxic อยู่บ่อย ๆ แม้ว่าจะอยู่ทีมเดียวกับเพื่อนก็ตาม แต่ถ้าคุณเล่นเกมที่จ่ายตังซื้อมันก็อาจจะคัดกรองคนเล่นได้บ้าง แต่! คุณก็ต้องพร้อมที่จะแบกรับราคาของเกมนั้น ๆ ด้วย ซึ่งถ้าคุณมีเพื่อนหลายคน ก็ต้องมีบ้างที่รสนิยมของเพื่อนอาจไม่ตรงกับคุณ และถ้าคุณยอมรับไม่ได้ที่จะจ่ายเงินซื้อเกมราคาแพงเพื่อเล่นเกมกับเพื่อน ผมแนะนำว่าเล่น Single Player ดีกว่าครับ เพราะอย่างน้อยเกมที่จ่ายราคาแพงขนาดนั้น ยังเป็นเกมที่เราชอบ มันอิ่มใจกว่ามาก ๆ นะ

และนี่คือ “7 สิ่งที่บ่งบอกว่าคุณเหมาะกับเกม Single Player เล่นคนเดียว” เป็นยังไงบ้างครับ ตรงกับสิ่งที่เป็นตัวของคุณหรือเปล่า ที่ผมเขียนมานี้ไม่ได้หมายความว่าคุณไม่เหมาะกับการเล่นเกมกับเพื่อนเลยนะ คุณก็เล่นเกมกับเพื่อนได้เหมือนเดิม เพียงแต่ว่าอาจจะมีความรู้สึกชิลกับมันมากขึ้น เงื่อนไขไม่ลงตัวก็ไม่เล่น ถ้าอยู่คนเดียวก็เลือกเล่นตามสถานการณ์ คิดแบบนั้นแล้วมันสะดวกกว่าจริง ๆ ครับ