เทคโนโลยี

[รีวิว] Huawei WiFi AX3 เราเตอร์รุ่นใหม่ รองรับ Wi-Fi 6 Plus

มาพร้อมการตั้งค่าสุดง่าย รองรับการเชื่อมต่อในอนาคต

ปัจจุบันที่การเชื่อมต่อต่าง ๆ มีความก้าวหน้ามากยิ่งขึ้นกว่าเมื่อก่อน ทำให้ตอนนี้เราจะได้เห็นการนำเสนอเทคโนโลยีการเชื่อมต่อแบบใหม่อย่าง Wi-Fi 6e กันมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตามแม้ว่าเทคโนโลยีจะก้าวหน้าเพียงใด สมาร์ทโฟนที่ใช้งานจะล้ำถึงขนาดรองรับ Wi-Fi 6e แต่หากแหล่งต้นทางดันไม่ได้ปรับตัวไปตามก็เสียเปล่า ฉะนั้นตอนนี้ทาง Huawei จึงได้นำเสนอเราเตอร์ตัวใหม่ในรุ่นที่มีชื่อว่า Huawei WiFi AX3 จะเป็นยังไงเราไปดูกันเลย

Design

Huawei WiFi AX3 เป็นไวเลสเราเตอร์ตัวใหม่ที่มาพร้อมกับการนำเสนอการเชื่อมต่อแบบ Wi-Fi 6 Plus (6e) ที่รองรับการเชื่อมต่อด้วยความเร็วสูงสุดถึง 3000Mbps ทำให้สามารถที่จะนำไปต่อยอดกับการใช้งานความบันเทิงต่าง ๆ ได้สะดวกยิ่งขึ้นไม่มีสะดุด

[รีวิว] Huawei WiFi AX3 เราเตอร์รุ่นใหม่ รองรับ Wi-Fi 6 Plus
[รีวิว] Huawei WiFi AX3 เราเตอร์รุ่นใหม่ รองรับ Wi-Fi 6 Plus

หน้าตาของตัวเราเตอร์ค่อนข้างที่จะเรียบง่ายในแง่ของสิ่งที่เราได้เห็นมา มาพร้อมกับลักษณะตัวเครื่องที่เน้นความบางของหน้าตัดที่เรามองจากด้านหน้าและด้านข้าง 

[รีวิว] Huawei WiFi AX3 เราเตอร์รุ่นใหม่ รองรับ Wi-Fi 6 Plus
[รีวิว] Huawei WiFi AX3 เราเตอร์รุ่นใหม่ รองรับ Wi-Fi 6 Plus
[รีวิว] Huawei WiFi AX3 เราเตอร์รุ่นใหม่ รองรับ Wi-Fi 6 Plus

เสาส่งสัญญาณมีทั้งหมด 4 เสาโดยที่มีกำลังส่งอยู่ที่ 5dBi ขนาดของตัวเสาค่อนข้างที่จะใหญ่และแน่นหนาไม่มีปัญหาในอนาคตอย่างแน่นอน นอกจากนี้ที่เสาสัญญาณมีการสลักโลโก้ WiFi 6 Plus เอาไว้ชัดเจน

[รีวิว] Huawei WiFi AX3 เราเตอร์รุ่นใหม่ รองรับ Wi-Fi 6 Plus

ช่องระบายความร้อนจะอยู่ที่บริเวณขอบด้านล่างของตัวเครื่องทั้งสองฝั่ง

[รีวิว] Huawei WiFi AX3 เราเตอร์รุ่นใหม่ รองรับ Wi-Fi 6 Plus

ที่ด้านบนของตัวเครื่องจะมีปุ่มตัว H ที่เอาไว้สำหรับการกดเพื่อเชื่อมต่อเข้ากับอุปกรณ์ต่าง ๆ แบบเดียวกับปุ่ม WPS ที่เราได้เห็นในเราเตอร์ตัวอื่น ๆ

[รีวิว] Huawei WiFi AX3 เราเตอร์รุ่นใหม่ รองรับ Wi-Fi 6 Plus
[รีวิว] Huawei WiFi AX3 เราเตอร์รุ่นใหม่ รองรับ Wi-Fi 6 Plus
[รีวิว] Huawei WiFi AX3 เราเตอร์รุ่นใหม่ รองรับ Wi-Fi 6 Plus
[รีวิว] Huawei WiFi AX3 เราเตอร์รุ่นใหม่ รองรับ Wi-Fi 6 Plus

นอกจากนี้ที่ด้านล่างยังมีคำอธิบายที่บอกไว้ว่า Huawei WiFi AX3 สามารถที่จะรองรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่รองรับ NFC ได้ด้วย เพียงแค่เปิด NFC ที่เครื่องและนำมาแตะที่ตัวเราเตอร์ก็เข้าใช้งานได้ทันที

[รีวิว] Huawei WiFi AX3 เราเตอร์รุ่นใหม่ รองรับ Wi-Fi 6 Plus

ส่วนของไฟแสดงสถานะจะมีเพียงจุดเดียวคือที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง

[รีวิว] Huawei WiFi AX3 เราเตอร์รุ่นใหม่ รองรับ Wi-Fi 6 Plus

พอร์ตการใช้งานต่าง ๆ จะอยู่ที่ด้านหลังของตัวเครื่องทั้งหมดประกอบไปด้วยพอร์ต WAN 1 พอร์ตแบบ Gigabit Ethernet และพอร์ต LAN 3 พอร์ตแบบ Gigabit Ethernet เช่นกัน นอกจากนี้จะเป็นปุ่ม Power และปุ่ม Reset 

โดยภาพรวมแล้วเป็นเราเตอร์ที่มีการออกแบบมาได้ค่อนข้างเล็กที่จะมีขนาดเล็ก และใช้พื้นที่ในการวางที่ไม่มาก

Set Up

[รีวิว] Huawei WiFi AX3 เราเตอร์รุ่นใหม่ รองรับ Wi-Fi 6 Plus

การเชื่อมต่อทำได้ง่ายมาก ๆ สำหรับใครที่ใครซื้อไปแล้วเพียงแค่นำสาย LAN จากโมเด็ม ISP ที่ใช้งานอยู่มาเสียบเข้ากับพอร์ต WAN ของ Huawei WiFi AX3 จากนั้นไปที่สมาร์ทโฟนของเราแล้วเชื่อมต่อเข้ากับ Wi-Fi ของทาง Huawei ที่ปล่อยสัญญาณออกมา จากนั้นไปที่เบราว์เซอร์สักตัวแล้วพิมพ์ 192.168.3.1 เพื่อตั้งค่า (หรือหากต้องการตั้งค่าผ่านพีซีก็นำสาย LAN เชื่อมต่อเข้ากับพอร์ต LAN สักช่องของ Huawei WiFi AX3 และนำอีกด้านต่อเข้ากับพีซีและเข้าไปตั้งค่าที่ URL เดียวกัน)

[รีวิว] Huawei WiFi AX3 เราเตอร์รุ่นใหม่ รองรับ Wi-Fi 6 Plus

เมื่อเราเข้ามาแล้วจะพบหน้าสำหรับการตั้งค่าเบื้องต้นให้พร้อมใช้งาน เราสามารถที่จะเลือกได้ว่าจะให้ตัวเราเตอร์ทำการรวมสัญญาณเป็นแบบ Prioritize 5 GHz หรือไม่ โดยที่หากเราเลือกแบบนี้จะทำให้สัญญาณที่ปล่อยออกมาจากตัวเครื่อง หากเราเข้าไปดูที่รายชื่อ Wi-Fi จะพบว่ามีเพียงแค่สัญญาณเดียว แต่ภายในจะเป็นการเลือกของอุปกรณ์เองว่าจะเป็นการรับสัญญาณแบบ 2.4 GHz หรือ 5 GHz นั่นเอง

[รีวิว] Huawei WiFi AX3 เราเตอร์รุ่นใหม่ รองรับ Wi-Fi 6 Plus

หลังจากนั้นเราสามารถที่จะตั้งค่ารหัสต่าง ๆ ได้ในทันที สุดท้ายเป็นการเลือกว่าจะให้เปิดใช้งาน IPv4 และ IPv6 หรือไม่ เพียงเท่านี้ก็สามารถใช้งานได้แล้ว ส่วนหากใครที่ต้องการแก้ไขเพิ่มเติมสามารถเข้าผ่านหน้าเว็บไซต์ได้โดยตรงผ่าน URL เดิมหรือใช้งานผ่านแอปพลิเคชัน Huawei AI Life ได้ทันที

Software

ในส่วนของหน้าตาการใช้งานเราจะขอกล่าวถึงผ่านทั้งสองช่องทางทั้งแบบเว็บไซต์และผ่านแอปพลิเคชัน Huawei AI Life

[รีวิว] Huawei WiFi AX3 เราเตอร์รุ่นใหม่ รองรับ Wi-Fi 6 Plus

มาเริ่มกันที่การเรียกใช้งานผ่านหน้าเว็บเมื่อเข้ามาที่หน้าจอสำหรับการตั้งค่าเราทำเพียงแค่ใส่รหัสก็สามารถเข้าไปตั้งค่าได้ทันที เข้ามาแล้วจะพบกับหน้าแสดงสถานะการทำงานต่าง ๆ ในตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นความเร็วการดาวน์โหลดและอัปโหลดที่ขึ้นในตอนนี้ จำนวนตัวเครื่องที่ใช้งาน คลื่นความถี่ที่ใช้งาน

[รีวิว] Huawei WiFi AX3 เราเตอร์รุ่นใหม่ รองรับ Wi-Fi 6 Plus

ถัดไปในส่วนของ Connect to Internet ในส่วนนี้เราสามารถที่จะตั้งค่าโหมดการทำงานของเราเตอร์ได้ทั้งหมด 4 รูปแบบประกอบไปด้วย PPPoE, DHCP, Bridge (AP) และ Static IP ซึ่งหากเราต้องการที่จะทำให้ตัวของ Huawei WiFi AX3 ทำหน้าที่เป็นแค่ตัวกระจายสัญญาณเพียงอย่างเดียว ก็เลือกเพียงแค่ DHCP อยู่แล้ว (เป็นค่าตั้งต้นของการตั้งค่า) ส่วนหากใครที่ต้องการให้เป็นตัวรับสัญญาณหลักแทนเลยก็สามารถเลือกเป็น PPPoE แทนได้

[รีวิว] Huawei WiFi AX3 เราเตอร์รุ่นใหม่ รองรับ Wi-Fi 6 Plus
[รีวิว] Huawei WiFi AX3 เราเตอร์รุ่นใหม่ รองรับ Wi-Fi 6 Plus

ส่วนถัดมาหน้า My Wi-Fi จะเป็นส่วนเดียวกันกับที่เราได้พบในการตั้งค่าเบื้องต้น แต่จะมีรายละเอียดเพิ่มเติมที่สามารถปรับแต่งได้ หน้า Manage Device จะเป็นการบอกสถานะการเชื่อมต่อของอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่เคยใช้งาน สามารถที่จะจำกัดความเร็วของแต่ละอุปกรณ์ได้ผ่านในส่วนนี้โดยตรง

[รีวิว] Huawei WiFi AX3 เราเตอร์รุ่นใหม่ รองรับ Wi-Fi 6 Plus

สุดท้ายคือหน้าของ More Function ที่จะเป็นฟีเจอร์อื่น ๆ ที่ผู้ใช้งานทั่ว ๆ ไปไม่ค่อยจะได้ยุ่งมากนัก แต่สำหรับใครที่ต้องการฟีเจอร์เพิ่มเติมสามารถเข้ามาดูในส่วนนี้ได้ เช่นการทำ VPN เพื่อเข้าใช้งานจากภายนอก การตั้งค่า Guest Wi-Fi สำหรับแยกสัญญาณออกเป็นสองส่วนเพื่อง่ายต่อการจัดการ การทำ Port Forwarding ก็มีมาให้เช่นกัน โดยรวมแล้วมีฟีเจอร์สำคัญที่น่าจะได้ใช้งานติดมาให้ครบ

[รีวิว] Huawei WiFi AX3 เราเตอร์รุ่นใหม่ รองรับ Wi-Fi 6 Plus
[รีวิว] Huawei WiFi AX3 เราเตอร์รุ่นใหม่ รองรับ Wi-Fi 6 Plus

มาดูกันที่ Huawei AI Life การออกแบบในภาพรวมจะเป็นการย่อฟีเจอร์ที่มีให้ใช้งานจากหน้าเว็บลงมาให้ง่ายกว่าเดิม การออกแบบต่าง ๆ ทำออกมาให้เข้าใจง่ายและดูเป็นมิตรกับผู้ใช้งานอย่างมาก สามารถที่จะสั่ง Restart เราเตอร์ได้เพียงแค่กดผ่านแอปพลิเคชัน

Performance

Huawei WiFi AX3 รุ่นใหม่มาพร้อมกับชิปประมวลผลแบบใหม่คือตัวของ Gigahome Quad-core 1.4 GHz ทำให้สามารถรองรับการเข้าถึงจากอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้การที่ตัวอุปกรณ์รองรับ Wi-Fi 6 ทำให้สามารถรองรับความเร็วได้สูงสุด 3000Mbps พร้อม ๆ กับรองรับแบนด์วิดท์สูงสุดถึง 160 MHz 

[รีวิว] Huawei WiFi AX3 เราเตอร์รุ่นใหม่ รองรับ Wi-Fi 6 Plus

ซ้ายสัญญาณจากอุปกรณ์ของ ISP ขวาสัญญาณจาก Huawei WiFi AX3

จากการทดสอบพบว่าการส่งสัญญาณต่าง ๆ ของ Huawei WiFi AX3 ทำได้ดีอย่างที่ควรจะเป็น จากการทดสอบความเร็วพบว่าค่าของการดาวน์โหลดอยู่ที่ประมาณเกิน 500Mbps ส่วนค่าอัปโหลดจะอยู่ที่เกือบ 400Mbps ค่าความหน่วงอยู่ที่ 5ms ขณะเดียวกันการทดสอบกับอุปกรณ์ของทาง ISP โดยตรงพบว่าความเร็วในการดาวน์โหลดอยู่ที่ ไม่เกิน 500Mbps ส่วนการอัปโหลดอยู่ที่ไม่เกิน 300Mbps เรียกว่าต่างกันพอสมควร

ในแง่ของการส่งสัญญาณค่อนข้างที่จะครอบคลุมทั่วทั้งตัวบ้านและเป็นการปิดจุดอ่อนในการส่งสัญญาณที่ค่อนข้างสั้นของ Wi-Fi 5 ไปได้พอสมควร การทะลุสิ่งกีดขว้างทำได้ดีผ่านช่องทางแบนด์วิดท์ 2 MHz

Conclusion

[รีวิว] Huawei WiFi AX3 เราเตอร์รุ่นใหม่ รองรับ Wi-Fi 6 Plus

ถือว่าเป็นเราเตอร์แห่งอนาคตก็ว่าได้สำหรับ Huawei WiFi AX3 ด้วยความที่มาพร้อมกับการรองรับการเชื่อมต่อแบบ Wi-Fi 6 Plus ที่ทำให้การรับส่งสัญญาณทำได้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม ครอบคลุมกว่าเดิม หน้าตาการใช้งานที่ออกแบบมาให้เข้าใจง่าย ด้วยราคา xxxx บาท ถือว่าเป็นอะไรที่น่าสนใจกับการเตรียมความพร้อมล่วงหน้าสำหรับเทคโนโลยีที่จะกลายมาเป็นมาตรฐานในอนาคต

ข้อดี

– การออกแบบที่ทำออกมาให้ใช้งานพื้นที่น้อย

– เสาสัญญาณ 4 เสาที่ครอบคลุมทั่วทั้งบ้าน

– รองรับการเชื่อมต่อผ่าน NFC

– การตั้งค่าง่ายทำได้ในไม่กี่ขั้นตอน

– รองรับการตั้งค่าได้ทั้งผ่านหน้าเว็บและแอปพลิเคชันผ่าน Huawei AI Life

– ชิปประมวลผลแบบ Quad-Core ทำให้รองรับอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อได้มากกว่าเดิม

– Wi-Fi 6 Plus ที่มีความสามารถสูงกว่ามาตรฐานที่ใช้งานในปัจจุบัน

– ฟีเจอร์การใช้งานครบครัน

ข้อสังเกต

– ด้วยความที่สีที่ใช้งานเป็นสีขาวทำให้อาจจะเกิดปัญหาเรื่องของความสะอาดในอนาคต

– ฟีเจอร์ Prioritize 5 GHz ในบางครั้งมีการเลือกคลื่นสัญญาณที่ไม่ควรจะเป็นเท่าไหร่นัก

สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณทาง Huawei แห่งประเทศไทยที่ได้ทำการส่ง Huawei WiFi AX3 เราเตอร์สำหรับมาตรฐานการเชื่อมต่อในอนาคตมาให้เราได้ทดสอบ ใครที่สนใจสามารถหาซื้อได้แล้ววันนี้ตามร้านค้าไอทีชั้นนำทั่วไปและทางช่องทางออนไลน์

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมและสั่งซื้อสินค้าได้ที่ : คลิก

Artherlus

แค่คนทั่วไปที่หลงใหลในวงการไอที
Back to top button