PS5รีวิวรีวิว / พรีวิวเทคโนโลยี

[รีวิว] PlayStation Portal ทางเลือกใหม่สำหรับการเล่นเกม PS5 ทุกที่ทุกเวลา

ต้นแบบที่อาจเปิดประตูสู่การเล่นเกมพกพาในอนาคต

PlayStation Portal เป็นอุปกรณ์ใหม่ล่าสุดในกลุ่มฮาร์ดแวร์ของ PlayStation 5 ที่ออกแบบมาให้เป็นอุปกรณ์เสริมที่ช่วยให้เข้าถึงคอนโซลและเกมของ PS5 ได้แบบพกพาผ่านการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต โดยใช้แนวคิดของแอป PS Remote Play แต่ถูกนำเสนอในรูปแบบของอุปกรณ์โดยเฉพาะ

playstation-portal-review

เพื่อให้เข้าใจตรงกัน PlayStation Portal เป็นเพียงตัวกลางที่เชื่อมไปยัง PS5 มันไม่ได้เป็นเครื่องเล่นเกมพกพาเหมือนกับ Nintendo Switch ที่สามารถเล่นเกมได้โดยตรง แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่ PlayStation Portal พยายามจะเป็น เครื่องรุ่นนี้นำเสนอประสบการณ์ที่แตกต่างออกไป และทำได้ดีตามที่ถูกออกแบบไว้ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ใช้ Remote Play เป็นประจำ หรือคนที่ต้องการวิธีเข้าถึง PS5 แบบระยะไกล

ตัวเครื่องถูกออกแบบมาให้มีความสะดวกในการใช้งานพร้อมกับคุณภาพการประกอบที่ยอดเยี่ยม และยังรวมเอาฟีเจอร์ต่าง ๆ ของจอย DualSense มาไว้ด้วย จอ LCD ขนาด 8 นิ้วที่สว่างและคมชัดช่วยมอบประสบการณ์การเล่นเกม PS5 แบบพกพาที่ดี และจากที่ได้ทดสอบมาสักระยะก็พอจะบอกได้ว่า Sony มาถูกทางแล้วหลังจากความนิยมของ PSP ในอดีต

Design

PlayStation Portal เป็นเหมือนการนำจอย DualSense มาห่อหุ้มรอบจอแสดงผล LCD ขนาด 8 นิ้ว ทำให้การออกแบบและความรู้สึกในการใช้งานคุ้นเคยในทันทีสำหรับเจ้าของ PS5 ตัวเครื่องมีความสบายในการถือและใช้งานได้ง่าย เหมาะกับมือของผู้ใช้ PS5 แม้ว่ามันจะหนักและใหญ่กว่าที่คาดคิด น้ำหนักของมันอยู่ที่ 529 กรัม ซึ่งเมื่อยกขึ้นด้วยมือเดียวอาจรู้สึกได้ถึงน้ำหนัก

playstation-portal-review

ส่วนหนึ่งมาจากขนาดโดยรวมของอุปกรณ์ที่ยาวประมาณ 30.5 เซนติเมตร มีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่ซึ่งอาจต้องปรับตัวเมื่อเริ่มใช้งาน แต่ตัวเครื่องมีความสูง 6 เซนติเมตรจากฐานถึงปลายจอย ซึ่งมีขนาดเล็กกว่าของ DualSense และมีลักษณะคล้ายกับจอยของ PSVR 2 Sense

playstation-portal-review

ปุ่มทั้งสองข้างของจอยมีฟีเจอร์ทุกอย่างเหมือนกับ DualSense ปกติ แต่มีการปรับเปลี่ยนตำแหน่งปุ่มเล็กน้อย ปุ่ม PS Home ถูกวางไว้ที่มุมบนขวาของจอยด้านซ้าย ส่วนปุ่มปิดไมค์อยู่ที่จอยด้านขวา นอกจากนี้การตอบสนองของปุ่มยังคงเหมือนเดิม

playstation-portal-review

ด้านบนของเครื่องมีลำโพงสเตอริโอสองตัว ปุ่มเปิดปิด ปุ่มเพิ่มลดเสียง และปุ่ม PlayStation Link ซึ่งจะมีประโยชน์เมื่อเชื่อมต่อ Portal กับหูฟัง Pulse Elite หรือ Pulse Explore ด้านหลังจะมีพอร์ต USB-C สำหรับชาร์จไฟ และช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. ซึ่งช่วยให้สายหูฟังไม่เกะกะเมื่อคุณเล่นเกม

playstation-portal-review

PlayStation Portal มีความทนทาน รู้สึกได้ว่าสามารถทนต่อการกระแทกหรือตกจากที่สูงได้ แต่การมีฟิล์มกันรอยหรือเคสจะเป็นสิ่งที่ผู้ใช้งานน่าจะสบายใจกว่า ในแง่ของการออกแบบเพื่อความสะดวกในการใช้งาน ถือว่าเป็นหนึ่งในอุปกรณ์เสริมสำหรับการเล่นเกมที่ดี การจัดวางตำแหน่งปุ่มถูกคิดมาเป็นอย่างดีแล้วว่าเหมาะสมกับการใช้งาน

playstation-portal-review
playstation-portal-review

หน้าจอของตัวเครื่องรองรับการใช้งานแบบสัมผัส ทำให้เวลาที่ต้องตั้งค่าตัวเครื่องในการเปิดออกมาครั้งแรกทำได้ง่าย แต่เมื่อใช้งานไปเราอาจไม่ได้ไปสัมผัสกับหน้าจอมากนัก

Experience

สรุปได้ง่าย ๆ ว่า PlayStation Portal ทำงานได้อย่างดีตามจุดประสงค์ของตัวเครื่องที่ Sony ตั้งเป้าไว้ จากการทดสอบส่วนตัวค่อนข้างที่จะชอบในการพกเจ้าเครื่องนี้ไปเล่นที่ไหนก็ได้ ช่วยให้ไม่ต้องยึดติดอยู่กับห้องใดห้องหนึ่งอีกต่อไป รวมถึงสามารถไปเล่นภายนอกได้ด้วย

playstation-portal-review

การใช้งานเริ่มต้นด้วยการจับคู่และเข้าสู่ระบบที่รวดเร็วมาก หลังจากนั้นจะพบกับหน้าจอที่ค่อนข้างให้ความสว่างสูงพร้อมเมนูและอินเทอร์เฟซที่คุ้นเคย เมื่อล็อกอิน PS5 จาก Portal จะได้เห็นกราฟิกหน้าจอที่มีลูกเล่นเหมือนกับประตูวาร์ปที่ช่วยให้เราเข้าสู่เครื่องหลักได้

เมื่อเปิดเครื่อง Portal ขณะที่ PS5 อยู่ในโหมดพัก เครื่องจะบูต PS5 ขึ้นมาโดยอัตโนมัติและพาเข้าสู่เกมได้ทันที นอกจากนี้ยังสามารถเชื่อมต่อหรือยกเลิกการเชื่อมต่อกับคอนโซลหลักได้ตลอดเวลาที่ใช้งาน Portal

playstation-portal-review

ในส่วนของการเล่นเกมและการทำงานของ PlayStation Portal มอบประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมกว่าการใช้ฟีเจอร์ Remote Play บนพีซี การเปรียบเทียบระหว่างการเล่นบนพีซีและ Portal นั้นแตกต่างกันชัดเจน ขณะที่พีซีของฉันมีปัญหาหน่วงและเสียงขาดเป็นบางครั้ง แต่การเชื่อมต่อกับ Portal นั้นราบรื่นไม่มีสะดุด ไม่มีปัญหาเรื่อง Input Lag ที่จับสังเกตได้แต่อย่างใด

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ความเร็วอินเทอร์เน็ตที่บ้านของฉันอยู่ที่ประมาณ 300/300 Mbps โดยที่ PS5 ของเชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi โดยเราเตอร์อยู่ที่ชั้นล่างของบ้าน ขณะที่ตัวเครื่องอยู่ที่ชั้น 2 ส่วน Portal อยู่อีกห้องที่ไม่ได้อยู่นแนวขนานกับ Wi-Fi แต่ก็ยังไม่พบปัญหาที่กวนใจมากนัก มีบ้างเมื่ออินเทอร์เน็ตของผู้ให้บริการมีปัญหา สัญญาณที่ใช้งานอยู่จะขัดข้องและมีอาการภาพแตกราวกับความละเอียด 360p ให้ได้เห็นกัน

playstation-portal-review

อย่างไรก็ตามหากเป็นการใช้งานผ่านสัญญาณอื่นที่ไม่ได้มีความเสถียรมากนักอย่างการแชร์เน็ตจากมือถือเข้า PlayStation Portal จะพบว่ามีบางครั้งที่กว่าจะเชื่อมต่อกับตัวเครื่อง PS5 ได้ค่อนข้างที่จะช้า และมีบางครั้งที่ไม่สามารถเชื่อมต่อได้ อย่างไรก็ตามหากเป็นการเชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi อื่น ๆ สามารถที่จะวางใจได้ว่าสามารถเข้าถึงได้ อย่างไรก็ตามมีข้อแม้ว่าหากจะเล่นจากระยะไกล ตัวเครื่อง PS5 ของเราต้องเปิดไว้หรืออย่างน้อยอยู่ในโหมด Rest ที่สามารถเข้าถึงได้

หน้าจอของ PlayStation Portal นั้นคมชัดและสว่าง แม้ว่าบางครั้งจะสว่างเกินไป โดยเฉพาะเมื่อเปิดเกมครั้งแรก แต่โดยรวมแล้วหน้าจอนี้เหมาะสมกับ Portal อย่างมาก โลกในเกม Star Wars Outlaws และแสงสีจากพื้นสนามในเกม EA Sports FC 24 นั้นดูสวยงาม อย่างไรก็ตาม มีบางครั้งที่หน้าจอ LCD แสดงข้อจำกัดเล็กน้อย โดยเฉพาะเมื่อแสดงภาพที่มีเฉดสีมืด ๆ เช่นหน้าจอเมนูของเครื่อง ที่สามารถสังเกตเห็นเส้นขอบของบล็อกสีได้อย่างชัดเจน แทนที่จะเป็นการไล่เฉดสีที่เรียบเนียน แต่โดยรวมแล้วหน้าจอนี้ก็ยังคงคมชัดเหมาะสำหรับการเล่นเกมใน Portal นอกจากนี้ยังจัดการกับโหมด Quality หรือโหมด Performance ของเกมได้ ตัวเครื่องรองรับความละเอียดสูงสุด 1080p ที่ 60 fps

playstation-portal-review

ลำโพงของ Portal ก็ทำหน้าที่ได้ดี เสียงมีรายละเอียดและดัง แต่ก็มีข้อจำกัดในโทนเสียงต่ำ เนื่องจากเป็นลำโพงสเตอริโอขนาดเล็กสองตัวที่ติดตั้งในดีไซน์ที่ค่อนข้างแคบของเครื่อง ไม่มีการรองรับ Bluetooth บนเครื่องนี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดายเพราะไม่สามารถเชื่อมต่อกับหูฟังที่เรามีอยู่ได้ เว้นแต่จะใช้แบบมีสายเท่านั้น

playstation-portal-review

ฟีเจอร์ต่าง ๆ ของ DualSense ก็ทำงานได้ตามคาด ทำให้ Portal มอบประสบการณ์การเล่นเกมที่สมจริงเช่นเดียวกับเครื่องหลัก ฟังก์ชันการสัมผัสบนหน้าจอก็ถือว่าประสบความสำเร็จเช่นกัน เพียงแค่แตะสองสามครั้งก็สามารถแทนการกดทัชแพดได้ นอกจากนี้หน้าจอยังตอบสนองได้ดีเมื่อต้องใช้ในการนำทางผ่าน UI ของ Portal เมื่อรวมกับความสบายในการใช้งานที่สามารถเล่นได้นานหลายชั่วโมง ทำให้คุณภาพและการออกแบบของ Portal ยิ่งดูโดดเด่น

playstation-portal-review

อายุการใช้งานของแบตเตอรี่นั้นใกล้เคียงกับจอย DualSense เมื่อเปิดใช้งานฟีเจอร์การสั่นและคุณสมบัติต่าง ๆ สามารถใช้งานได้นานกว่า 8 ชั่วโมงจากการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง การเปิดความสว่างหน้าจอและระดับการสั่นเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลกระทบต่อแบตเตอรี่ของตัวเครื่อง อย่างไรก็ตาม PlayStation Portal ต้องใช้เวลากว่าสองชั่วโมงในการชาร์จเต็ม ดังนั้นอาจต้องคำนึงถึงเรื่องนี้ในการวางแผนการเล่นเกม

playstation-portal-review

ด้วยความที่ PlayStation Portal เป็นเครื่องเล่นเกมตัวกลางทำให้แทบจะไม่ได้เห็นมนูการตั้งค่าใด ๆ เพิ่มเติม ตัวเครื่องจะมีส่วนให้ตั้งค่าอยู่หลัก ๆ ด้วยกันสองส่วนคือระบบเครือข่ายและระบบของตัวเครื่อง ซึ่งเราอาจจะบอกได้ว่าเป็นการปรับครั้งเดียวและเราแทบจะไม่ต้องเข้าไปหน้าจอเมนูของตัวเครื่องอีกเลย ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดายเพราะทาง Sony น่าจะสามารถใส่ฟีเจอร์อื่น ๆ ที่เป็นมากกว่าเครื่องเล่นเกมตัวกลางเท่านั้นเข้ามาภายในเครื่องได้

แน่นอนว่าส่วนตัวค่อนข้างที่จะชอบแนวคิดของตัวเครื่องที่พยายามจะทำให้เป็นอุปกรณ์สำหรับการเล่นเกม Remote Play โดยเฉพาะ และค่อนข้างที่จะยอมรับแนวคิดนี้ อย่างไรก็ตามหากมองจากอีกมุมหนึ่งจะเห็นว่า PlayStation Portal เป็นสิ่งที่ไม่จำเป็นต้องมีอยู่ก็เป็นได้ เพราะสามารถถูกทดแทนจากอุปกรณ์อื่นได้ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตที่ใช้งานฟีเจอร์ดังกล่าวได้เหมือนกัน จุดเด่นที่ทำให้ตัวเครื่องมีเหนือกว่าสิ่งเหล่านี้คือ จอย หน้าจอ การออกแบบ ความเป็น PlayStation ที่จะดึงดูดผู้ที่หลงใหลในการเล่นเกมนั่นเอง

Conclusion

PlayStation Portal เป็นตัวกลางในการเล่นเกมที่น่าประทับใจ มันโดดเด่นในเฉพาะทางของมัน โดยมาพร้อมกับดีไซน์ที่ออกแบบตามหลัก ergonomic หน้าจอที่สว่างและฟีเจอร์มากมายจาก PS5 ที่ให้มา ถือว่าเป็นอุปกรณ์เสริมที่น่าสนใจสำหรับผู้ใช้ Remote Play และผู้ที่ต้องการดึงประสิทธิภาพการใช้งานจากเครื่องคอนโซลให้มากขึ้น

playstation-portal-review

นอกจากนี้ ทาง Sony ยังได้บอกว่า PlayStation Portal เป็นส่วนหนึ่งของของ PS5 ดังนั้นจึงมีโอกาสที่รุ่นในอนาคตจะได้รับการปรับปรุงเพิ่มเติม เช่น หน้าจอ OLED, Wi-Fi รุ่นล่าสุด, การรองรับ Bluetooth และอื่น ๆ

Portal ไม่ได้พยายามที่จะเป็นอย่างอื่นนอกจากอุปกรณ์สำหรับ Remote Play ที่มีคุณภาพ และมันทำหน้าที่ของมันได้อย่างยอดเยี่ยม หากคุณเข้าใจวัตถุประสงค์ของอุปกรณ์นี้ และรู้ว่ามันสามารถให้อะไรได้จะพบว่ามันทำงานได้สำเร็จอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ด้วยราคา 7,790 บาท ถือว่าเป็นราคาที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการอิสระในการเล่นเกม

ข้อดี

  • การออกแบบที่ถูกพัฒนามาอย่างลงตัวพร้อมความเป็น Ergonomic
  • อุปกรณ์เล่นเกมแบบ Remote Play ที่ดีที่สุดในปัจจุบัน
  • คุณภาพของวัสดุและงานประกอบที่ถูกทำมาอย่างดี
  • การจัดวางตำแหน่งปุ่มที่ไม่ต้องปรับตัวให้วุ่นวาย
  • เข้าถึงเกมจาก PS5 ได้เพียงแค่ปลายนิ้ว
  • หน้าจอแสดงผล 8 นิ้ว ที่มีความสว่างและคมชัดในตัว
  • รองรับการแสดงผลที่ 1080p 60 fps
  • ไม่รู้สึกถึงความร้อนใด ๆ ของตัวเครื่องแม้ใช้ต่อเนื่องเป็นเวลานาน

ข้อสังเกต

  • ความสว่างของหน้าจอที่สว่างเกินไปในบางครั้งไม่มีระบบ Adaptive ปรับให้
  • เสียงของลำโพงที่ดังแม้จะปรับให้ดังน้อยสุด แต่ก็ยังดังอยู่ในบางสถานการณ์
  • จำเป็นต้องมี PS5 และเปิดตัวเครื่องทิ้งไว้ถึงจะสามารถใช้งานได้

สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณทาง Sony ประเทศไทยที่ได้ทำการส่ง PlayStation Portal มาให้เราทำการทดสอบกัน ใครที่สนใจสามารถหาซื้อได้แล้ววันนี้

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : [คลิก]

Artherlus

แค่คนทั่วไปที่หลงใหลในวงการไอที
Back to top button