Final Fantasy VII Rebirth มีโหมดกราฟิกใหม่สำหรับ PS5 Pro โดยเฉพาะ
เพื่อให้ผู้เล่นได้รับประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมที่สุด
แม้ในเรื่องของเนื้อหาและเกมเพลย์จะถือว่าโอเคทีเดียวสำหรับ Final Fantasy VII Rebirth ที่สร้างความประทับใจได้ไม่แพ้ภาคแรกในไตรภาครีเมค แต่กระนั้นในช่วงแพตช์แรกและสำหรับบางคนก็ยังไม่พอใจคุณภาพเรื่องคุณภาพกราฟิกโหมด Performance สำหรับเกมนี้สักเท่าไรด้วยการแสดงผลที่ค่อนไปทางย่ำแย่จากการที่เกมต้องลดหลั่นโพลิกอนและเรื่องของเท็กซ์เจอร์จนบางคนแซวว่าเป็นบ้านดินน้ำมัน
ครั้นไม่พอใจโหมดเฟรมเรตลื่นๆ พอมาเล่นเกมกับโหมด Fidelity ที่ให้ภาพคมชัดสวยงาม แต่เฟรมเรตระดับ 30FPS ก็ทำให้ผู้เล่นจำนวนไม่น้อยรู้สึกอึดอัดกับความหน่วงของภาพที่เราเคยชินกับ 60FPS ทีเดียว อย่างไรเสียสำหรับผู้เล่นบน PlayStation 5 Pro ที่มีโอกาสได้รับเครื่องเกมแล้วก่อนกำหนดบางส่วน ก็พบว่าตัวเกมนี้ได้รับอัปเดตใหม่แล้วเป็นที่เรียบร้อยในเวอร์ชัน 1.050 ที่จะปลดล็อกฟังก์ชันใหม่สำหรับเครื่องเล่นรุ่นอัปเกรดโดยเฉพาะ พร้อมยืนยันบนโซเชียลมีเดียเช่นกัน
สำหรับผู้เล่นทั่วไปที่ดาวน์โหลดอัปเดตนี้จะพบว่ามีการแก้ไขเรื่องบั๊คและสมรรถนะการรันเกมทั่วไป ทั้งนี้หากรันเกมด้วยเครื่องรุ่น Pro จะเห็นว่ามีโหมดกราฟิกใหม่ปรากฏขึ้นมาให้เลือกใช้ซึ่งเป็นชื่อเฉพาะของเกมนี้เลยคือ Versatility Mode (และเป็นส่วนหนึ่งของ PS5 Pro Enhanced) โดยการทำงานของมันคือผสมคุณสมบัติของกราฟิกที่สวยงามจาก Fidelity เข้ากับเฟรมเรตที่ลื่นไหลของ Performance ให้กลายเป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมที่สุด รันภาพได้สูงระดับ 4K และเฟรมนิ่งๆ นั่นเอง
อีกด้านหนึ่ง Final Fantasy VII Rebirth เปิดขายแล้ววันนี้ โดยพูดถึงเรื่องราวเกี่ยวกับ Cloud และผองเพื่อนที่ต้องตามล่า Sephiroth นักดาบสุดอำมหิตที่ทุกคนคิดว่าตายไปแล้ว โดยเกมจะพาผู้เล่นเดินทางในแผนที่ที่มีสเกลยิ่งใหญ่ขึ้นพร้อมกับความมีชีวิตชีวายิ่งกว่าที่เคยด้วยขุมพลังของ PlayStation 5 นอกจากเนื้อหาหลักแล้ว ผู้เล่นเองก็จะได้ดำดิ่งไปยังประวัติเบื้องหลังของตัวละครต่างๆ เรียนรู้ความเป็นมาและร่วมมือกันต่อสู้กับศัตรูที่ถาโถมเข้ามา